สรุป โยบ 1

ภาพรวม

  • พระธรรมโยบ เป็นเรื่องราวของชายผู้ดำเนินชีวิตอย่างชอบธรรม แต่ก็ยังพบเจอกับปัญหาที่รุมเข้ามาในชีวิตอย่างมากมาย ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงยำเกรงพระเจ้า
  • บทที่ 1 พระเจ้าทรงอนุญาตให้ซาตานนำทุกสิ่งที่โยบมีไปจากเขา ถึงกระนั้นโยบก็ไม่ทำบาปหรือกล่าวโทษพระเจ้า

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

โยบ บทที่ 1 มี​ชาย​คน​หนึ่ง​ ชื่อ​โยบ อาศัยอยู่ใน​แผ่น​ดิน​อูส
เขา​เป็น​คน​ดี​พร้อม​ เที่ยง​ธรรม ​ยำ​เกรง​พระ​เจ้า ​และ​หัน​จาก​ความ​ชั่ว​ร้าย

เขา​มี​บุตร​ชาย 7 คน​และ​บุตร​หญิง 3 คน
มี​ทรัพย์​สมบัติ​และ​คน​ใช้ ​มาก​มาย
เขา​มั่ง​คั่ง​ที่​สุด​ใน​บรร​ดา​ชาว​ตะวัน​ออก

โยบมัก​จะ​ทำ​พิธี​ชำระ​ตัว​ลูกๆให้​บริ​สุทธิ์ ด้วยการถวาย​เครื่อง​บูชา แต่เช้าตรู่
เพราะเกรงว่า ลูกๆของเขาได้​ทำ​บาป​และ​แช่ง​พระ​เจ้า​ใน​ใจ

​วัน​หนึ่ง เมื่อ​เหล่า​ทูต​สวรรค์​มา​ราย​งาน​ตัว​ต่อ​พระเจ้า
ซา​ตาน​ได้​มา​ใน​หมู่​เขา​ด้วย

พระเจ้า​ตรัส​กับ​ซา​ตาน​ว่า
​โยบ​ เป็น​คน​ดี​พร้อม​และ​เที่ยง​ธรรม เป็น​ผู้​ยำ​เกรง​พระ​เจ้า​และ​หัน​จาก​ความ​ชั่ว​ร้าย

ซา​ตาน​ทูล​ตอบ​ ​ว่า
เพราะว่าพระเจ้าอวยพรโยบ เขาจึงยำเกรงพระองค์
ถ้าเขาสูญเสียสิ่งที่​เขา​มี​อยู่
แล้ว​เขา​จะ​แช่ง​พระ​องค์​

พระเจ้าจึงทรงอนุญาตให้ซาตาน ทำอะไรกับสิ่งที่โยบมีก็ได้
​แต่​ห้ามยื่น​มือ​แตะ​ต้อง​ตัว​โยบ

วัน​หนึ่ง มีคนมาแจ้งโยบว่า
– ฝูง​วัว​ 500 ตัวและ​ฝูง​ลา​ตัว​เมีย 500 ตัว ของโยบ ถูกคน​เส​บา​ ​มาปล้นเอาไปหมด
– แกะ​ 7,000 ตัว ของโยบเสีย ถูกไฟ​ตก​ลงมาจากฟ้า มา​เผาไหม้​หมด
– อูฐ 3,000 ตัว ของโยบ ถูกชาว​เคล​เดีย​มาปล้น​​ไปหมด
– ลูก​ชาย​กับ​ลูก​สาว​ของ​โยบ ถูก​บ้าน​​พัง​ลง​ทับ ตายจนหมด

แล้ว​โยบ​ก็​ลุก​ขึ้น ฉีก​เสื้อ​คลุม​ของ​ตน โกน​ศีรษะ
กราบ​ลง​ถึง​ดิน​นมัส​การ
กล่าว​ว่า
“ข้า​มา​จาก​ครรภ์​มาร​ดา​ตัว​เปล่า และ​ข้า​จะ​กลับ​ไป​ตัว​เปล่า
พระเจ้า​ประ​ทาน และ​พระเจ้าทรง​เอา​ไป​เสีย สาธุ​การ​แด่​พระเจ้า”

ใน​เหตุ​การณ์​นี้​ทั้ง​สิ้น โยบ​ไม่​ได้​ทำ​บาป​หรือ​กล่าว​โทษ​พระ​เจ้า

1. จากเรื่องนี้ทำให้เห็นชัดเจนว่า ซาตานไม่ใช่คู่ต่อสู้กับพระเจ้า
มันเกลียดพระเจ้า แต่มันก็ยังคงต้องมารายงานตัวต่อพระเจ้าอยู่ดี
ซาตานเป็นเพียงสิ่งที่ถูกสร้าง จึงยังคงอยู่ใต้สิทธิอำนาจพระเจ้าพระผู้สร้าง ผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุด

ทุกอย่างที่ซาตานทำนั้น ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของพระเจ้า
โดยการกระทำที่ดื้อรั้น และชั่วร้ายของเรา จะเปิดช่องให้ซาตานโจมตีชีวิตของเราได้
แต่ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นจะเลวร้ายสักเพียงใด
พระเจ้าทรงฤทธิ์สามารถเปลี่ยนให้มันกลับกลายเป็นผลดีสำหรับชีวิตของเราได้เสมอ

2.โยบเกรงว่าลูกๆของตน จะทำ​บาป​และ​แช่ง​พระ​เจ้า​ใน​ใจ
อาจเป็นไปได้ว่า พวกเขามีแนวโน้มที่มักจะทำเช่นนั้น
โยบจึงถวายเครื่องบูชาแทนเขา
และสังเกตว่า ทำไมพวกเขาไม่ถวายเครื่องบูชาเอง ต้องให้พ่อตื่นแต่เช้าตรู่มาทำให้
ทั้งที่เป็นบาปของตนเอง

ข้อสังเกตข้างต้น อาจจะเป็นไปได้ว่า
เหตุพวกเขาต้องเสียชีวิตในอุบัติเหตุครั้งนี้ ก็เพราะบาปของพวกเขาก็เป็นได้

แต่ขณะเดียวกัน การที่พระเจ้าอนุญาตให้อุบัติเหตุนี้เกิดขึ้น
ในที่สุดก็กลับนำพระพรยิ่งใหญ่มาสู่โยบ
และมาสู่คนหลายพันล้านคนทั่วโลก ที่ได้อ่านเรื่องของโยบในเวลาต่อๆมา

สิ่งที่พระเจ้าอนุญาตให้เกิดขึ้นกับเรา ในวันนี้
แม้เราไม่เข้าใจ แต่เราก็มั่นใจได้ว่า
จะนำผลดีและพระพรมาสู่ชีวิตของเราในอนาคต
หากเรายังคงดำเนินตามทางของพระองค์

3. แม้เหตุการณ์เลวร้ายมากมายเกิดขึ้นกัยโยบ ภายในวันเดียว
เขาก็ยังสรรเสริญพระเจ้า
และถ่อมใจลงยอมรับว่า ทุกอย่างที่เขามีมานั้น เป็นเพราะพระเจ้าเป็นผู้ประทานให้

หากเราพบเจอกับความทุกข์ยากลำบากอย่างหนึ่งอย่างใด
ให้เรายังคงสรรเสริญพระเจ้า และถ่อมใจลง มองด้วยสายตาฝ่ายวิญญาณว่า
แท้จริงพระเจ้าทรงเป็นเจ้าของทุกสิ่งที่เรามี
พระองค์มีสิทธิอนุญาตให้อะไรเกิดขึ้นก็ได้กับทุกสิ่งที่เรามี

คำคม

“ สิ่งร้ายที่ประสบจะกลายเป็นสิ่งดีเสมอ สำหรับผู้ที่ยำเกรงพระเจ้า ”

สรุป โยบ 2

ภาพรวม

  • พระเจ้าทรงอนุญาตให้ซาตานทำให้โยบเป็นฝีทั้งตัว ถึงกระนั้นโยบก็​ไม่​ได้​ทำ​บาป​ด้วย​ริม​ฝี​ปาก​ของ​ตน และสหาย 3 คนของโยบก็เดินทางมาร่วมไว้ทุกข์กับโยบ

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

โยบ บทที่ 2 เมื่อพระเจ้าทรงอนุญาตให้ซาตานนำทุกสิ่งที่โยบมีไปจากเขา ถึงกระนั้นโยบก็ไม่ทำบาปหรือกล่าวโทษพระเจ้า

ต่อมาเมื่อซาตานมา​ราย​งาน​ตัว​ต่อ​พระเจ้าอีก
พระเจ้าตรัส​กับ​ซา​ตาน​ว่า
โยบ​ เป็น​คน​ดี​พร้อม​และ​เที่ยง​ธรรม เป็น​ผู้​ยำ​เกรง​พระ​เจ้า​และ​หัน​จาก​ความ​ชั่ว​ร้าย
เขา​ยัง​ยึด​มั่น​ใน​ความ​ซื่อ​สัตย์​ของ​เขา​อยู่ ถึงแม้ว่าสิ่งที่เขามีถูกทำ​ลาย​โดย​ไม่​มี​เหตุ

แล้ว​ซา​ตาน​ทูล​พระเจ้า​ว่า
ร่างกายของโยบเจ็บป่วย แล้ว​เขา​จะ​แช่ง​พระเจ้า

พระเจ้าจึงอนุญาตให้ซา​ตาน​ โจมตีร่างกายของโยบได้ แต่ห้ามฆ่าโยบ

ซา​ตาน​จึงทำ​ให้​โยบ​เป็น​ฝี​ร้าย ตั้ง​แต่​ฝ่า​เท้า​จน​ถึง​กระ​หม่อม
จน​โยบต้อง​เอา​ชิ้น​หม้อ​แตก​มา​ขูด​ตัว

ภรร​ยาของโยบ กล่าว​ว่า
“เธอ​ยัง​จะ​ยึด​มั่น​ใน​ความ​ซื่อ​สัตย์​อยู่​อีก​หรือ?
จง​แช่ง​พระ​เจ้า​และ​ตาย​เสีย​เถอะ”

แต่โยบ​ตอบ​นาง​ว่า
เรา​จะ​รับ​สิ่ง​ดี​จาก​พระ​เจ้า และ​จะ​ไม่​รับ​สิ่ง​ไม่​ดี​บ้าง​หรือ?

ใน​เหตุ​การณ์​นี้​ทั้ง​สิ้น โยบ​ไม่​ได้​ทำ​บาป​ด้วย​ริม​ฝี​ปาก​ของ​ตน

เมื่อ​สหาย​ทั้ง​สาม​ของ​โยบ​ได้​ยิน​เรื่อง​ของโยบ
พวก​เขา​ก็มา​เพื่อ​ร่วม​ใน​ความ​ทุกข์​ใจ​และ​ปลอบ​โยนโยบ
พวกเขา​เปล่ง​เสียง​ร้อง​ไห้ ฉีก​เสื้อ​คลุม​ของ​ตน และ​ซัด​ผง​คลี​ดินเหนือ​ศีรษะ
พวก​เขา​นั่ง​บน​พื้น​ดิน​กับ​โยบ 7 ​วัน 7 ​คืน ไม่​มี​ใคร​พูด​กับ​โยบ​สัก​คำ
เพราะ​เห็น​ว่า​ความ​ทุกข์​ระทม​ของ​โยบ​นั้น​ใหญ่​ยิ่ง​นัก

1. ซาตานใส่ร้ายโยบ และพระเจ้าทรงทราบว่าโยบเป็นเช่นไร
พระเจ้าจึงทรงอนุญาตให้ซาตาน ทำให้เกิดความทุกข์ยากกับโยบ
เพื่อจะทำให้ความชอบธรรมและความสัตย์ซื่อของโยบ
ได้ฉายแสงออกมาอย่างชัดเจน จนเป็นที่ประจักษ์ไม่เพียงต่อซาตาน
แต่ต่อคนอีกหลายพันล้านคนในยุคต่อๆมาที่ได้อ่านเรื่องของโยบ

เปรียบเสมือนกับ สมมติว่า ตัวโยบคำด้วยทองคำบริสุทธิ์
มองเผินอาจจะพอเห็นทองคำในตัวโยบบ้าง
แต่ก็มีเศษไม้ ตะไคร่ และอีกบางอย่างปิดบังไว้อยู่
พระเจ้าทรงอนุญาตให้เอาไปเผาโยบได้
เพราะพระองค์ทรงทราบว่า ไฟนั้นจะไม่สามารถทำลายโยบได้
แต่ตรงกันข้ามจะทำให้ความเป็นทองคำบริสุทธิ์ในตัวโยบ
ฉายแสงงออกมา เป็นที่ประจักษ์แก่ทุกคน
ซึ่งจะนำศักดิ์ศรีมาสู่โยบ ให้สมกับที่เขาเป็นจริงๆ

ในอีกมุมหนึ่งการที่พระเจ้าอนุญาตให้ซาตานทำเช่นนั้นแก่โยบ
นอกจากจะเป็นผลดี ไม่เป็นผลร้ายต่อโยบแล้ว
กลับเป็นผลร้ายต่อซาตานเอง
ซึ่งพระเจ้าจะลงโทษมันในวันแห่งการพิพากษา
เพราะมันบังอาจใส่ร้ายผู้ชอบธรรม ว่า เขาจะแช่งพระเจ้า
ทั้งที่เขาไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย
ผู้ใส่ร้ายป้ายสีผู้ชอบธรรม ย่อมต้องพบกับการพิพากษาของพระเจ้าผู้ทรงยุติธรรม

เหตุการณ์นี้นอกจากจะแสดงให้เห็นความชอบธรรมของโยบแล้ว
ยังแสดงให้เห็น ความชั่วร้ายของซาตาน ที่ถูกเปิดเผยให้ประจักษ์ แก่ผู้คนหลายพันล้านคนทั่วโลกอีกด้วย

ดังนั้นที่พระเจ้าอนุญาตให้ซาตานทำสิ่งนั้นกับโยบ
ช่างเป็นพระสติปัญญาอันล้ำเลิศของพระเจ้ายิ่งนัก

2. เมื่อความทุกข์ยากเกิดขึ้น
สำหรับภรรยาของโยบ มองอย่างโง่เขลาว่า ไม่ควรสัตย์ซื่อต่อพระเจ้าอีกต่อไป
เพราะดูเหมือนพระเจ้าหมดประโยชน์แล้ว ที่จะทำให้ชีวิตพบสิ่งดีๆ

สำหรับโยบ มองอย่างมีปัญญาว่า ควรสัตย์ซื่อต่อพระเจ้าต่อไป
เพราะเขาไม่ได้สัตย์ซื่อตราบเท่าที่พระเจ้าทำประโยชน์ให้แก่เขาได้
แต่เขาสัตย์ซื่อต่อพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้า ผู้ที่เขาควรยำเกรงและสัตย์ซื่อ

3. เพื่อน 3 คนของโยบ มีน้ำใจมาก เดินทางมาจากเมืองของตน
มาร่วมไว้ทุกข์ ร้องไห้ และอยู่เคียงข้างโยบ แบบไม่พูดอะไรเลย ถึง 7 วัน
น่าเสียดายที่เมื่อเขาเริ่มพูด พวกเขากลับทำร้ายโยบ แทนที่จะปลอบโยน

การให้ความคิดของตนเป็นใหญ่ โดยไม่ใส่ใจว่าพระเจ้าทรงรู้สึกเช่นไรในเหตุการณ์นั้นๆ
จะทำลายสิ่งดีทั้งหมดที่ เราพยายามทำในเหตุการณ์นั้นๆ

คำคม

“ พระเจ้าจะอนุญาตให้เฉพาะสิ่งที่เป็นประโยชน์เท่านั้น เกิดขึ้นกับลูกของพระองค์ ”

สรุป โยบ 3

ภาพรวม

  • โยบทุกข์ระทมใจมาก จนแช่งวันเกิด และคืนที่ปฏิสนธิ์ ของตนเอง

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

โยบ บทที่ 3 เมื่อพระเจ้าทรงอนุญาตให้ซาตานทำให้โยบเป็นฝีทั้งตัว ถึงกระนั้นโยบก็​ไม่​ได้​ทำ​บาป​ด้วย​ริม​ฝี​ปาก​ของ​ตน และสหาย 3 คนของโยบก็เดินทางมาร่วมไว้ทุกข์กับโยบ โดยไม่มีใครพูดแะไรเลย 7 วัน 7 คืน

แล้วโยบก็เริ่มพูด ​แช่ง​วัน​เกิด​ของ​ตน ​กล่าว​ว่า

ขอ​ให้ “​วัน​” ที่​โยบ​เกิด​มา​นั้น
– ​ให้มัน พินาศ
– ให้มัน เป็น​ความ​มืด
– ให้มัน ถูกพระเจ้าไม่​ใส่​พระทัย
– ให้มัน ไม่มี​แสง​สว่าง​ส่อง​ในมัน
– ให้มัน ถูกความ​มืด​และ​เงา​มัจ​จุ​ราช​ยึดไว้
– ให้มัน ถูก​เมฆปก​คลุม​
– ให้มัน ถูกความ​ดำ​มืดทำ​ให้​มัน​หวาด​กลัว

ขอให้ “คืน” ที่โยบเริ่มถือกำเนิดในครรภ์ นั้น
– ​ให้มัน พินาศ
– ​ให้มัน ถูกความ​มืด​ทึบ​ฉวย​ไว้
– ​ให้มัน ไม่ถูกนับว่าเป็น​วัน​ของ​ปี หรือ เดือน​เลย
– ​ให้มัน ​เป็น​หมัน
– ให้มัน ไม่พบ​เสียง​ร้อง​อัน​ชื่น​บาน​
– ให้​มัน ไม่​เห็น​แสง​อรุณ

ที่มันสมควรพบสิ่งเหล่านี้ เพราะ
– ​มัน​มิ​ได้​ปิด​ครรภ์​มาร​ดา​ของโยบ เอาไว้

โยบกล่าวว่า
เขาน่าจะตายทันที ตั้งแต่ที่คลอดออกมา
เขาจะ​ล่วง​หลับ แล้ว​จะ​ได้​หยุด​พัก

เพราะความตาย
– ทำให้​คน​อธรรม​หยุด​ดิ้น​รน
– ​ผู้​เหนื่อย​อ่อน​ได้​หยุด​พัก
– ผู้​ถูก​จอง​จำ​ก็ไม่​ได้​ยิน​เสียง​ของ​นาย​งานอีกต่อไป
– ทุกคน​ก็​เป็น​อิสระ​พ้น​จาก​นาย​ของ​เขา

เขาไม่ควรได้รับชีวิตเลย เพราะเขาเป็น
– ​ผู้​ทน​ทุกข​เวท​นา
– ผู้มี​ใจ​ระทม​ทุกข์
– ผู้​คอย​ความ​ตาย แต่​มัน​ก็​ไม่​มา
– ผู้​เปรม​ปรีดิ์​อย่าง​ยิ่ง และ​ยินดี หากได้ตาย
– ผู้​หลงทาง​ หาทางออกไม่เจอ

บัดนี้ เขาเต็มไปด้วยการ​ถอน​หาย​ใจ​และ​การ​ครวญ​คราง​
เพราะ​สิ่ง​ที่​เขากลัว​ก็​มา​เหนือ​เขา
เขา​ไม่​สบาย​ใจ​เลย และ​​ไม่​สงบ ​ไม่​ได้​หยุด​พัก
แต่เต็มไปด้วย​ความ​วุ่น​วาย​

1. โยบรู้สึกทุกข์ใจแสนสาหัส แต่ก็ไม่ยอมแช่งพระเจ้าตามที่ภรรยาแนะนำ (โยบ 2:9)
และไม่ได้ทำผิดโดยการแช่งคนอื่น

สิ่งที่เขาทำคือ แช่ง วันเกิดของตน และคืนที่ตนก่อร่างขึ้นในครรภ์มารดา
ซึ่ง เยเรมีย์ ก็พูดทำนองเดียวกันนี้ ใน ยรม. 20:14
“ขอ​ให้​วัน​ที่​ข้าพ​เจ้า​เกิด​มา​นั้น​ถูก​แช่ง​สาป อย่า​ให้​วัน​ที่​มาร​ดา​ของ​ข้าพ​เจ้า​คลอด​ข้าพ​เจ้า​ได้​รับ​พร”

ความหมายโดยรวม หมายถึง เขากำลัง ​ทุกข์​ระทม​ใจเหลือเกิน
จนรู้สึกว่า เขาไม่น่าเกิดมาเลย จะได้ไม่ต้องเจอความทุกข์ใจขนาดนี้

แม้โยบจะทุกข์มากขนาดนี้ จนไม่อยากมีชีวิตอยู่
แต่เขาก็ไม่ฆ่าตัวตาย (โยบ 3:21)
เพราะเขารู้ว่า สิทธิการมีชีวิตอยู่หรือตายไป เขาไม่มีสิทธิกำหนด
นั่นเป็นสิทธิของพระเจ้า
เขาไม่บังอาจไปแย่งสิทธินั้นมาจากพระองค์

และตลอดพระธรรมโยบ ทั้ง 42 บท
ดูเหมือนว่าพระเจ้าไม่ได้ตำหนิโยบ ที่แช่งวันเกิดของตนเองเลย
แสดงว่าการกระทำเช่นนี้ โยบไม่ได้ทำบาปต่อพระเจ้า

แม้โยบจะระทมทุกข์อย่างที่สุด เขาก็ยัง
– ไม่แช่งพระเจ้า
– ไม่แช่งมนุษย์
– ไม่ฆ่าตัวตาย
– ไม่ทำร้ายตนเอง

แม้เราจะพบกับความทุกข์ยากลำบากมากเพียงใด
นั่นก็ไม่สามารถใช้เป็นสิทธิพิเศษที่จะทำบาปได้
อย่ายอมให้ความทุกข์ยาก ล่อลวงให้เราทำบาป
ให้เรายังคงดำเนินในทางแห่งความชอบธรรมต่อไป

คำคม

“ แม้จะทุกข์มาก แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทำบาป ”

สรุป โยบ 4

ภาพรวม

  • เอลีฟัสพูดกับโยบว่า โยบเคยเป็นคนดี บัดนี้พบความทุกข์ยาก ซึ่งก็แปลกเพราะคนดีน่าจะพบแต่สิ่งดีๆ

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

โยบ บทที่ 4 เมื่อโยบทุกข์ระทมใจมาก จนแช่งวันเกิด และคืนที่ปฏิสนธิ ของตนเอง

แล้ว​เอลี​ฟัส​ ชาว​เท​มาน เพื่อนของโยบ ก็​ตอบ​ว่า

โยบ เป็นคนเช่นนี้
– ​สั่ง​สอน​คน​จำ​นวน​มาก
– ทำ​ให้​มือ​ที่​อ่อน​แรง​มี​กำลัง
– หนุน​ใจ​คน​ที่​กำ​ลัง​สะดุด
– ทำ​ให้​เข่า​ที่​อ่อน​ล้า​นั้น​มั่น​คง
– ความ​ยำ​เกรง​พระ​เจ้า​ คือ​ ความ​ไว้​วาง​ใจ​ของเขา
– ​การ​ดำ​เนิน​ชีวิต​ที่​ซื่อ​สัตย์​คือ​ความ​หวัง​ของ​เขา

แต่​บัด​นี้​ความ​ทุกข์​มา​ถึง​โยบ​แล้ว
และโยบ​ก็​ทน​ไม่​ไหว

เอลีฟัสกล่าวต่อไปว่า
– ผู้​ที่​ไร้​ความ​ผิด จะไม่​​พินาศ
– ​คน​เที่ยง​ธรรม ​จะไม่ถูก​ทำ​ลาย​
– ผู้​ไถ​ความ​บาป​ผิด ก็​จะ​ได้​เกี่ยว​สิ่ง​นั้น
– มนุษย์ไม่สามารถ​ชอบ​ธรรม​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระ​เจ้า​ได้
– คน​เรา​ไม่สามารถพูดได้ว่า ตนบริ​สุทธิ์​ต่อ​หน้า​ผู้​สร้าง​เขา​
– แม้แต่​ทูต​สวรรค์​ ​ก็ยังผิดพลาดและทรง​กล่าว​โทษ

1. จากบทนี้ทำให้รู้จักโยบมากขึ้นว่า
เขาเป็นคนที่มีน้ำใจ คอยช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมอ
และดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องต่อพระเจ้า

ซึ่งในมุมหนึ่งเอลีฟัสก็พูดถูก
คนที่ดำเนินชีวิตถูกต้องกับพระเจ้า จะไม่พินาศ หรือถูกทำลายอย่างแน่นอน
ดังนั้นไม่ว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นเลวร้ายสักเพียงใด โยบจะไม่พินาศแน่นอน

เมื่อเราดำเนินถูกต้องกับพระเจ้า
ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นกับเรา เราก็สามารถคาดหวังพระพรท่ามกลางเหตุการณ์นั้นได้เสมอ

2. เอลีฟัส แม้ท่าทีและเจตนาที่เขาพูดอาจจะไม่ถูกต้อง
แต่ขณะเดียวกันก็ยังเป็นความจริงฝ่ายวิญญาณหลายประการที่เราเรียนรู้ได้
เช่น คนชอบธรรมจะปลอดภัย คนชั่วร้ายจะได้รับโทษ
และ ไม่มีใครดีพร้อมในสายพระเนตรของพระเจ้าได้ด้วยกำลังของตนเอง

แม้คำพูดของคนที่ไม่ได้หวังดีกับเรา
พระเจ้าก็ทรงสามารถใช้สอนเรา ใช้พัฒนาเราให้เติบโตขึ้นในฝ่ายวิญญาณได้

ดังนั้นเมื่อคนอื่นทำอะไรต่อเราก็ตาม
จงเรียนรู้และเติบโตขึ้นในฝ่ายวิญญาณเสมอ

คำคม

“ ความทุกข์ยากของคนชอบธรรม จะไม่ทำลายเขา แต่จะพัฒนาเขา ”

สรุป โยบ 5

ภาพรวม

  • เอลีฟัสกล่าวหาโยบว่า เหตุที่โยบต้องพบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ก็เพราะโยบทำบาปต่อพระเจ้า

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

โยบ บทที่ 5 หลังจากที่เอลีฟัสพูดกับโยบว่า โยบเคยเป็นคนดี บัดนี้พบความทุกข์ยาก ซึ่งก็แปลกเพราะคนดีน่าจะพบแต่สิ่งดีๆ

เขาก็พูดต่อไปอีกว่า
– ความ​ขุ่น​เคือง​ใจ​ฆ่า​คน​โง่
– ความ​ริษยา​ฆ่า​คน​รู้​น้อย
– ​คน​โง่​ผู้ทำชั่ว แม้จำเริญขึ้น ต่อมาไม่นานก็จะรับคำแช่งสาป โดยปราศจากความช่วยเหลือ
เพราะ​ความ​ทุกข์​ของเขา มาจากการกระทำชั่วของเขา

เขากล่าวถึงพระเจ้าว่า
– ​พระ​เจ้าทรง​ทำ​การอัศจรรย์​เหลือ​ที่​จะ​หยั่ง​รู้​ได้ และ​นับ​ไม่​ถ้วน
– พระเจ้า​ทรง​ตั้ง​คน​ต่ำ​ต้อย​ขึ้น
– พระเจ้าทรงช่วย​คน​ที่​ไว้​ทุกข์ ให้​ปลอด​ภัย
– พระเจ้าทรง​ขัด​ขวาง​อุบาย​ของ​คน​เจ้า​เล่ห์
– พระเจ้า​ทรง​จับ​คน​มี​ปัญญา​ด้วย​เล่ห์​กล​ของ​เขา​เอง
– พระเจ้าทรงทำให้​แผน​การ​ของ​คน​หลอก​ลวง​ พังลง
– พระเจ้าทรงทำให้คนชั่ว ​พบ​ความ​มืด​มิด
– พระเจ้า​ทรง​ช่วย​คน​ขัด​สน​ให้​พ้น​ ​จาก​มือ​ของ​คน​มี​กำ​ลัง

เอลีฟัสจึงสรุปว่า
การตีสอนจากพระเจ้าเป็นสิ่งดี ไม่ควร​ดู​หมิ่น​การ​ตี​สอน​ของ​พระเจ้า
เพราะ​พระ​องค์​ทรง​ให้​บาด​เจ็บ แต่​พระ​องค์​ทรง​พัน​แผล​ให้
พระ​องค์​ทรง​โบย​ตี แต่​พระ​หัตถ์​ของ​พระ​องค์​ก็​รักษา

ดังนั้นถ้าโยบยอมรับการตีสอนจากพระเจ้า
พระ​องค์​จะ​ทรง​ช่วย​กู้โยบ ​จาก​ความ​ทุกข์​ยาก​ และจากอันตรายทั้งสิ้น
เพื่อโยบจะพบกับความสงบสุขและความปลอด​ภัยในชีวิต
และ​ลูก​หลาน​ของ​โยบ​จะ​ได้รับพระพร
และโยบจะมีอายุยืนยาวนาน

1. สิ่งที่เอลีฟัสพูด ในตอนต้นเป็นความจริง
– การขุ่น​เคือง​ใจ​ การ​ริษยา​ และการทำชั่วอย่างโง่เขลา จะนำผลร้ายมาสู่คนที่ทำเช่นนั้น
– ​พระ​เจ้าทรง​ทำ​การอัศจรรย์มากมาย และทรงช่วย​คน​ต่ำ​ต้อย​ คนทุกข์ใจ
– พระเจ้า​ทรงจัดการกับคนชั่วร้าย อย่างยุติธรรม
– คนที่ถ่อมใจลงต่อพระเจ้า จะพบความสุขและพระพรมากมาย

แต่ปรากฏว่า ข้อสรุปตอนท้ายของเขากลับผิด
เมื่อพูดข้างต้นแล้ว เขาจึงสรุปว่า
ที่โยบพบเหตุการณ์ร้ายนี้ เพราะทำบาป และยังไม่ยอมรับตีสอนจากพระเจ้าอีก

ในเรื่องนี้เราเห็นได้ว่า
วิธีการของพระเจ้านั้นซับซ้อน เหนือชั้น เกินกว่าที่มนุษย์จะเข้าใจได้ครบถ้วน
การด่วนสรุป ด่วนตัดสินผู้อื่น
โดยมองความจริงเพียงด้านเดียว
ไม่พิจารณาให้รอบด้าน ย่อมมีโอกาสทำให้เราสรุปอย่างผิดพลาดได้ง่ายๆ

2. “พระ​องค์​ทรง​โบย​ตี แต่​พระ​หัตถ์​ของ​พระ​องค์​ก็​รักษา”
หากสิ่งที่เราพบเจอ เป็นการตีสอนจากพระเจ้า เพื่อให้เรากลับใจ
ทันทีที่เรากลับใจ พระองค์จะทรงรักษาเราให้หายจากแรงกดดันของปัญหาเหล่านั้น

คำคม

“ คนที่คิดว่าตนเข้าใจแผนการพระเจ้าแล้ว โดยไม่ถามพระองค์ เขายังไม่เข้าใจอะไรเลย ”

สรุป โยบ 6

ภาพรวม

  • โยบตอบเอลีฟัสว่า ตนเองไม่ได้ทำผิดอะไร ก็เพียงแค่พูดตัดพ้อ ในฐานะคนที่ทุกข์ระทมใจแสนสาหัสเท่านั้นเอง

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

โยบ บทที่ 6 เมื่อเอลีฟัสกล่าวหาโยบว่า เหตุที่โยบต้องพบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ก็เพราะโยบทำบาปต่อพระเจ้า

​โยบจึง​ตอบ​ว่า
​ความ​ทุกข์​ใจ​ของ​เขามากมายมหาศาล เขาจึง​พูด​ไม่​ยั้ง​คิด
เพราะบรร​ดา​สิ่ง​น่า​กลัว​จาก​พระ​เจ้า​ ถาโถม​เข้ามา​หาเ​ขา

ธรรมชาติของ ลา​ป่าหรือวัว ​เมื่อ​มันหิว ​มันก็ร้อง
เหมืนโยบที่พูดเช่นนั้น(บทที่ 3) ก็เพราะทุกข์หนัก

คำพูดของเอลีฟัส เหมือนอาหารที่ไม่​มี​รส​ชาติ​
โยบจึงรังเกียจ ไม่​ยอมกิน ไม่ยอมรับ

โยบปรารถนาให้​พระ​เจ้านำชีวิตออกไปจากเขา ในวันที่พระองค์ทรงเหยียด​พระ​หัตถ์เหนือเขา
ไม่น่าหยุดแค่นี้เลย
โยบไม่เหลือกำลังที่จะรอคอยจนถึง​ปลาย​ทางแล้ว
สติ​ปัญ​ญา​ก็​พราก​ไป​จาก​เขาแล้ว

โยบกล่าวต่อไปว่า
ผู้​ใด​หน่วง​เหนี่ยว​ความ​เมต​ตา​ไว้​จาก​เพื่อน
ก็​ทอด​ทิ้ง​ความ​ยำ​เกรง​องค์​ผู้​ทรง​มหิทธิ​ฤทธิ์

บัดนี้พี่​น้อง​ของเขา ก็​เชื่อ​ถือ​ไม่​ได้​
ดูเหมือนจะมีคำหนุนใจ เหมือนน้ำให้ชื่นใจ แต่ก็ไม่มี

ทั้งที่โยบไม่เคยขอทรัพย์​หรือขอความช่วยเหลือจากพวกเขา
เขาก็ยังมาซ้ำเติม หาว่าโยบ​ผิดอยู่ได้

คำพูดตรงๆ ​มี​ประโยชน์มาก
แต่​คำ​ตำหนิ​ของเขานั้น ไร้ประโยชน์
การที่เขา​ตำหนิ​ถ้อย​คำของ​คน​สิ้น​หวัง​ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรือ?

ดังนั้นโปรด​หัน​มา​คิด​ใหม่เถิด อย่า​ทำ​ผิด​เลย

1. โยบเตือนเอลีฟัสให้คิดใหม่ เพราะท่าทีและคำพูดของเขานั้นไม่ถูกต้องเลย
ช่างไม่มีเมตตาต่อเพื่อนผู้ทุกข์ระทมเลย
เขาไม่ควรจะไปถือสาคำพูดตัดพ้อของโยบ ขณะที่โยบกำลังทุกข์ใจแสนสาหัส

การใช้หลักการที่เรารู้มา เพื่อตำหนิคนอื่น โดยไม่ได้เข้าใจสภาพของเขาอย่างแท้จริง
เป็นการกระทำที่ไร้เมตตา และเป็นการกระทำที่ไม่ยำเกรงพระเจ้า

เมื่อเราเห็นคนอื่นพูดหรือทำในสิ่งที่เราคิดว่าไม่เหมาะสม
การเตือนสติเขานั้น ควรทำด้วยความรักและความเห็นอกเห็นใจเขา
เพราะการกระทำอย่างนั้น เป็นการยำเกรงพระเจ้า

2. แม้โยบจะสิ้นเนื้อประดาตัว แต่เขาก็ไม่ได้ขอยืมเงินหรือขอความช่วยเหลือจากเพื่อน
เขารอคอยว่า พระเจ้าจะทรงกระทำกับเขาต่อไปอย่างไร สุดแล้วแต่พระองค์
แต่ถ้าเขาเลือกได้ อยากให้พระองค์ทำให้เขาตายไปเลยคงจะดีที่สุดสำหรับความคิดของเขา

ปัญหาที่เราพบวันนี้ จงพึ่งพาพระเจ้า และรอคอยพระองค์
พระองค์มีทางออกที่ดีที่สุดเตรียมไว้สำหรับผู้ที่รอคอยพระองค์เสมอ

คำคม

“ คำเตือนสติที่ปราศจากความรัก ไร้ค่าในสายพระเนตรของพระเจ้า ”

สรุป โยบ 7

ภาพรวม

  • โยบทักท้วงพระเจ้าว่า เขาไม่ได้ทำบาป และเขาเองก็เล็กน้อยเหลือเกินเมื่อเทียบกับพระองค์ พระองค์ไม่น่าจะมาใส่ใจกับเขาเลย ปล่อยให้เขาตายไปเร็วๆน่าจะดีกว่า

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

โยบ บทที่ 7 เมื่อโยบตอบเอลีฟัสว่า ตนเองไม่ได้ทำผิดอะไร ก็เพียงแค่พูดตัดพ้อ ในฐานะคนที่ทุกข์ระทมใจแสนสาหัสเท่านั้นเอง

แล้วโยบก็กล่าวต่อไปว่า
มนุษย์​ทำงานบน​แผ่นดิน​โลก เหมือน​อย่าง​ลูกจ้าง​ผู้​มอง​หา​ค่าจ้าง
แล้วก็​ได้รับ​ส่วน​ความ​อนิจจัง​เป็น​เดือนๆ

สำหรับโยบ วัน​คืนที่ได้รับ กลับเต็มไปด้วยความ​น่า​สังเวช​
กลางคืนก็นอนไม่หลับ
วัน​คืน​ก็ผ่านไปอย่าง​ไร้​ความ​หวัง
แม้ยามที่หลับได้ ก็ยังฝันร้ายอีก

ขอพระเจ้า​ทรง​ระลึก​ว่า
ชีวิต​ของโยบ​เป็นเหมือน​ลม​หายใจ ที่อยู่เพียงประเดี๋ยวเดียวก็หายไป
แล้วคนทั้งหลายก็จะไม่เห็นเขาอีก

ดังนั้น โยบ​จึงขอ​พูด​ด้วย​ความ​แสน​ระทม​แห่ง​จิตใจ​

โยบเบื่อ​ชีวิตเหลือเกิน
โยบอยากตาย ดีกว่าอยู่แบบเหลือแต่กระดูกอย่างในเวลานี้

มนุษย์​ไม่ได้สำคัญ​อะไรเลย ​ที่​พระ​องค์​ใส่​พระ​ทัย​เขา
ทรง​เยี่ยม​เขา​ทุก​เช้า ทรง​ลอง​ดู​เขา​ทุก​ขณะ
เมื่อไหร่พระเจ้าจะเลิก จับจ้องโยบ และปล่อยโยบไปตามลำพัง

โยบไม่ได้​ทำ​บาปอะไร
ทำไม​พระ​องค์​จึง​ทรง​ทำ​ให้เขา​เป็น​เป้าหมาย​ของ​พระ​องค์?
โยบไม่มีอะไรน่าสนใจ ถึงขนาดพระเจ้าต้องเอาเรื่องของเขานำมา​เป็น​ภาระ​ของ​พระ​องค์เลย

แม้โยบทำผิด ทำไม​พระ​องค์​ไม่​ทรง​ประทาน​อภัย​แก่โยบ เพราะ​อีกประเดี๋ยวเดียวก็ตายแล้ว?

1. โยบรู้ว่าทุกอย่างในโลกล้วนอนิจจัง เป็นเพียงสิ่งชั่วคราว ประเดี๋ยวเดียวก็ต้องจากไป
โยบรู้ว่ามนุษย์นั้นแสนเล็กน้อยและไร้ค่า เมื่อเทียบกับพระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุด
โยบรู้ว่าพระเจ้าทรงควบคุมทุกอย่างอยู่
และโยบรู้ว่าตนเองไม่ได้ทำผิด

ถึงกระนั้นท่ามกลางความทุกข์นี้ โยบก็ยังอยากตายอยู่ดี

อะไรคือสิ่งที่หายไป ที่ทำให้โยบท้อแท้สิ้นหวังหมดกำลังใจจนอยากตาย?
นั่นก็คือ ความมั่นใจในความรักของพระเจ้าที่ทรงมีต่อเขา

ในเมื่อเขามั่นใจว่าพระเจ้าควบคุมทุกอย่าง และเขาไม่ได้ทำผิด
และสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในโลกเล็กน้อยเหลือเกินสำหรับพระเจ้า
ดังนั้นถ้าเพียงแต่เขามั่นใจในความรักของพระเจ้า
เขาน่าจะเผชิญกับสถานการณ์นี้ ได้ดีกว่านี้

วันนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเราก็ตาม
ขอให้เรายังคงยึดมั่นในความเชื่อมั่นในความรักของพระเจ้าที่ทรงมีต่อเรา ตลอดไป
แล้วสิ่งนี้จะช่วยให้เรายืนหยัดมั่นคง ท่ามกลางสถานการณ์เหล่านี้ได้อย่างสง่างาม

2. โยบพูดถูกต้อง “มนุษย์​เป็น​ผู้​ใด​เล่า พระ​องค์​จึง​ทรง​ถือ​ว่า​เขา​สำ​คัญ​นัก และ​เป็น​ผู้​พระ​องค์​ใส่​พระ​ทัย” โยบ 7:17

พระเจ้าไม่จำเป็นต้องสนใจ ใส่ใจต่อมนุษย์เลย

แต่โดยพระคุณ ความรัก พระเมตตาอย่างเหลือล้นของพระเจ้า
พระองค์เอาพระทัยใส่เราอย่างที่สุด
รักเราอย่างที่สุด จนประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์เสด็จมาตายเพื่อช่วยเรา

คำคม

“ สิ่งที่เรารู้ทั้งหมด ไม่เพียงพอที่จะช่วยเรา หากเราไม่รู้จักความรักของพระเจ้า ”

สรุป โยบ 8

ภาพรวม

  • บิลดัด ฟังโยบพูดแล้วเข้าใจผิด จึงตำหนิโยบและยกความจริงมากมายมาสนับสนุนคำตำหนิของเขา

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

โยบ บทที่ 8 เมื่อโยบทักท้วงพระเจ้าว่า เขาไม่ได้ทำบาป และเขาเองก็เล็กน้อยเหลือเกินเมื่อเทียบกับพระองค์ พระองค์ไม่น่าจะมาใส่ใจกับเขาเลย ปล่อยให้เขาตายไปเร็วๆน่าจะดีกว่า

แล้ว​บิล​ดัด​ชาว​ชูอาห์​ จึงตอบ​ว่า

โยบ​จะ​พูด​ต่อต้านพระเจ้าอีกนานแค่ไหน?

พระ​เจ้า​ไม่ทรง​บิด​เบือน​ความ​ยุติ​ธรรม​ หรือ ความ​ชอบ​ธรรม​

ถ้า​​ใครทำ​บาป​ พระ​องค์​ก็​ทรง​มอบ​พวก​เขา​ไว้​ใน​อำ​นาจ​การ​ละ​เมิด​ของ​เขา

ถ้า​โยบแสวง​หา​พระ​เจ้า วิง​วอน​ต่อพระองค์ และดำเนินขีวิต​บริ​สุทธิ์​ ​เที่ยง​ธรรม
พระเจ้าจะ​ทรงปกป้องโยบไว้

แม้​เบื้อง​ต้น​ของโยบ​จะ​เล็ก​น้อย
แต่​ต่อ​ไป​เบื้อง​ปลาย​ ​จะ​ใหญ่​โต​อย่าง​ยิ่ง

ชีวิต​เรา​สั้น​เหมือน​วัน​วาน วัน​คืน​ของ​เรา​บน​โลก​ก็เหมือน​เงา

ต้น​กก​ และต้น​อ้อ​ จะเหี่ยวไปอย่างรวดเร็ว เมื่อขาดน้ำ ฉันใด
​ทาง​ของ​ทุก​คน​ที่​ลืม​พระ​เจ้า​ก็​เป็น​ฉัน​นั้น
สิ่ง​ที่​เขา​ไว้​ใจ​จะ​หัก​สะบั้น
และ​สิ่ง​ที่​เขา​วาง​ใจ​จะ​บอบ​บาง​อย่าง​ใย​แมง​มุม

คน​อธรรมที่ดูเหมือนเจริญขึ้น จะถูก​ทำ​ลาย
แล้ว​คนก็จะไม่จดจำเขาอีก
และ​ผู้​อื่น​จะ​มา​แทน​ที่​เขา

พระ​เจ้า​จะ​ไม่​ทรง​ทอด​ทิ้ง​คน​ดี​พร้อม
เขาจะเต็มไปด้วยการ​หัว​เราะ และการ​โห่​ร้อง​ยินดี
คนที่​เกลียด​ชังเขา​จะ​​อับ​อาย และ​พินาศไป

1. ในบทที่ 4 และ 5 เอลีฟัส พูดความจริงหลายประการแต่สรุปผิด โดยสรุปว่าโยบคงทำบาปแน่

ในบททนี้ บิลดัด ไม่ฟังให้ดีว่าโยบพูดอะไร จึงเข้าใจผิดว่า
โยบพูดต่อต้านพระเจ้า ทั้งที่โยบแค่พูดตัดพ้อเพราะความทุกข์
แล้วบิลดัดก็ยกความจริงหลายประการมาสนับสนุนคำตำหนิของตน

เอลีฟัส สรุปผิดจึงตำหนิโยบ
บิลดัด ไม่ฟังให้ดีจึงตำหนิโยบ

ข้อ3 บิลดัดตำหนิโยบว่า ไม่ควรบอกว่าพระเจ้าไม่ยุติธรรม (ทั้งที่ในบทที่ 6 และ 7 โยบไม่ได้พูดเช่นนั้นเลย )
ข้อ9 บิลดัดเตือนให้โยบรับรู้เสียทีว่า โลกนี้สั้นนัก (ทั้งที่โยบเพิ่งพูดเรื่องนี้ไปในโยบ 7:7)

ดังนั้นเห็นได้ชัดว่า คำตำหนิซ้ำเติมของบิลดัด เกิดจากการสนใจแต่เพียงว่า
ตนเองอยากพูดอะไร โดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายเขาได้พูดอะไร

การที่เราจะมีสิทธิเตือนสติผู้อื่นนั้น เราจำเป็นต้องตั้งใจ เพื่อเข้าใจตัวเขาเสียก่อน

2. ถึงแม้ว่าบิลดัด จะพูดด้วยท่าทีที่ไม่ถูกต้อง แต่ก็พูดความจริงในฝ่ายวิญญาณหลายประการดังนี้
– พระ​เจ้า​ยุติ​ธรรม​เสมอ
– คนที่ปล่อยตัวในการบาป จะตกอยู่ใต้อำนาจของบาปมากขึ้นไปทุกที
– คนที่แสวง​หาและพึ่งพา​พระ​เจ้า จะ​ได้รับการปกป้องจากพระเจ้า
– การเริ่มต้นทำในสิ่งเล็กๆน้อยๆอย่างสัตย์ซื่อ ในที่สุดจะกลายเป็นสิ่ง​ใหญ่​โต​อย่าง​ยิ่ง
– ชีวิต​เรา​สั้น​นัก และพอผ่านไปก็ไม่เหลืออะไรเลย เป็นเหมือน​เงา
– ​คน​ที่​ละทิ้ง​พระ​เจ้า​ ไปวางใจสิ่งอื่น จะพบว่าสิ่ง​นั้น​จะ​หัก​สะบั้น
เพราะสิ่งเหล่านั้น​บอบ​บางเหมือน​อย่าง​ใย​แมง​มุม
– คน​อธรรมเจริญได้ไม่นาน ในที่สุดสิ่งที่เขาทำมาจะตกเป็นของคน​อื่น​
– พระ​เจ้า​จะ​ไม่​ทรง​ทอด​ทิ้ง​คนชอบธรรม

3. บิลดัด พูดความจริงว่า พระเจ้าไม่ทอดทิ้งคนชอบธรรม
เพียงแต่เขา มองผิดเนื่องจากมองด้วยมุมมองของโลกนี้
เขาคิดว่า การที่โยบเกิดภัยพิบัติและความทุกข์ยากมากมายนี้
เป็นการที่พระเจ้าทอดทิ้งโยบ

ซึ่งความจริงแล้ว ณ วินาทีนั้น พระเจ้าก็ยังไม่เคยละสายตาของพระองค์จากโยบเลย

เหตุการณ์ที่กำลังเกิดกับโยบนี้ ไม่ใช่การทอดทิ้ง
แต่เป็นกระบวนการนำพระพรยิ่งใหญ่มาสู่โยบที่พระองค์ทรงโปรดปราน

หากเราจะเข้าใจพระคำของพระเจ้า ซึ่งเป็นเรื่องฝ่ายวิญญาณ
เราไม่สามารถใช้มุมมองของโลก หรือมาตรฐานของโลกมาวัดได้
มิฉะนั้นเราจะเข้าใจผิด
เราต้องใช้มาตรฐานฝ่ายวิญญาณ มุมมองที่พระเจ้าทรงเปิดเผยแก่เราผ่านพระคำของพระองค์
จึงจะเข้าใจได้อย่างถูกต้อง

คำคม

“ เริ่มต้นแม้เล็กน้อย แต่ถ้าทำต่อไปอย่างสัตย์ซื่อ จะกลายเป็นสิ่งใหญ่โตยิ่งนัก ”

สรุป โยบ 9

ภาพรวม

  • โยบตอบบิลดัดว่า เขาไม่ได้โต้แย้งพระเจ้า จากนั้นเขาก็ทูลต่อพระเจ้า ถึงความชอบธรรมของพระองค์ในการทำทุกสิ่ง และขอให้พระองค์ทำให้ความทุกข์ของเขาจบลงเสียที

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

โยบ บทที่ 9 เมื่อบิลดัด ฟังโยบพูดแล้วเข้าใจผิด จึงตำหนิโยบและยกความจริงมากมายมาสนับสนุนคำตำหนิของเขา และสรุปว่าพระ​เจ้า​จะ​ไม่​ทรง​ทอด​ทิ้ง​คน​ชอบธรรม

​โยบจึง​ตอบ​ว่า

โยบก็รู้เรื่องนี้ดี แต่​มนุษย์​จะ​ชอบ​ธรรม​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระ​เจ้า​ได้​อย่าง​ไร?
ใครจะ​สู้​คดี​กับ​พระ​องค์ได้
เพราะพระ​องค์​ทรง​พระ​ปัญญา​และ​พลา​นุ​ภาพ ผู้​ใด​แข็ง​ข้อ​ต่อ​พระ​องค์​และ​ชนะ​ได้​เล่า?
– พระ​องค์​ผู้​ทรง​เคลื่อนหรือคว่ำ​ภูเขาได้ โดย​มันไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ
– พระองค์สั่ง​ดวง​ตะวัน ไม่ให้มันขึ้น ​มัน​ก็จะ​ไม่​ขึ้น
– พระองค์​ทรง​กาง​ฟ้า​สวรรค์​ออก​​โดยพระ​องค์เอง
– พระองค์ทรง​สร้าง​ดวงดาวทั้งหลาย
– พระองค์​ทรง​ทำ​การ​ใหญ่​เหลือ​ที่​จะ​เข้า​ใจ​ได้ มากมาย​นับ​ไม่​ถ้วน
– พระ​องค์​ทรง​ผ่าน​ไป มนุษย์ก็​สัง​เกต​ไม่ได้

ดังนั้นใครจะไปคัดค้านในสิ่งที่พระเจ้าทรงทำได้?

ด้วยเหตุนี้โยบย่อมไม่​โต้แย้งพระเจ้าแน่
เพราะต่อให้โยบ เป็น​ฝ่าย​ชอบ​ธรรม เขาก็ยังโต้แย้งไม่​ได้อยู่ดี
(บิลดัด หาว่าโยบโต้แย้งพระเจ้า ว่า พระองค์ไม่ยุติธรรม โยบ 8:3)

และโยบคิดว่า ต่อให้​ร้อง​ทูลอะไร ​พระ​องค์ก็คงไม่​ฟัง​เสียง​ของ​เขา
เพราะ​พระ​องค์​ทรง​ทำให้ชีวิตของเขา​เต็ม​ด้วย​ความ​ขม​ขื่นถึงเพียงนี้

ไม่ว่า โยบจะ​ชอบ​ธรรม หรือ ​ดี​พร้อม สักเพียงใด
เมื่อเข้าสู่การทดสอบจากพระเจ้า ก็​จะ​พบว่าโยบ​ผิดอยู่ดี

ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ล้วนแต่พระเจ้าทรงควบคุมอยู่

แล้วโยบก็ทูลพระเจ้า ว่า
วัน​คืน​ของเขาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และ​ไม่​เห็น​สิ่ง​ดี​อะไรเลย
ถ้าเขาจะ​ลืม​ความ​ทุกข์​ แล้วกลับมา​เบิก​บาน ราวกับว่าไม่ได้ทำอะไรผิด
เขา​ก็​กลัว​บรร​ดา​ความ​ทุกข์จะกลับมาซ้ำเติมอีก
เพราะเขาไม่สามารถกล่าวได้ว่า เขา​ไร้​ผิดต่อพระพักตร์พระเจ้า

ไม่​มี​คน​กลาง ผู้​ซึ่ง​จะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับพระเจ้าได้

ขอ​พระ​องค์​ทรง​นำ​ไม้​เรียว​ไป​จาก​เขา​เสีย​ที

1. พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่สูงสุด ทรงชอบธรรม และทรงมีอำนาจเด็ดขาดเหนือทุกสิ่ง
มนุษย์ไม่ว่าชอบธรรมสักเพียงใด ก็ไม่สามารถพูดได้ว่าตนไร้ความผิด เมื่ออยู่ต่อจำเพาะพระพักตร์ของพระเจ้า
แม้แต่โยบเองก็ไม่ยกเว้น

แล้วคนบาปชั่วอย่างเรา ยิ่งไม่มีทางรอดพ้นการลงโทษจากพระเจ้า อย่างแน่นอนสักเพียงใด

แต่โดยพระคุณ พระเมตตาของพระเจ้า เรารอดพ้นบาปโดยทางพระเยซูคริสต์
แล้วยังได้กลายเป็นผู้บริสุทธิ์ชอบธรรม
และยังได้รับสิทธิเป็นบุตรของพระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุด

ช่างเป็นพระคุณใหญ่ยิ่งเหลือล้นสำหรับเราอย่างแท้จริง
สรรเสริญพระเจ้า

2. โยบรู้ดีว่าพระเจ้าทรงยิ่งใหญ่สูงสุด มนุษย์ไม่สามารถคัดค้านในสิ่งที่พระเจ้าทรงทำได้

มีคนมากมาย ไม่รู้ตัวเองว่าเล็กน้อยสักเพียงใด
บังอาจ ต่อว่า ตำหนิ บ่นว่า พระเจ้า
ว่า ทำไมพระองค์ทำให้สิ่งนั้น สิ่งนี้เกิดขึ้นกับเขา?

ช่างไม่รู้ตัวเองว่า เล็กน้อยเพียงใด เต็มไปด้วยความอธรรมมากเพียงใด

เราควรทำเหมือนโยบที่ ไม่ได้บ่นต่อว่าพระเจ้า
แต่อ้อนวอนทูลขอพระเมตตาจากพระองค์
ขอ​พระ​องค์​ทรง​นำ​ไม้​เรียว​นี้ไป​จาก​ข้าพระองค์ด้วยเถิด

คำคม

“ เรื่องระหว่างเรากับพระเจ้า ไม่มีใครเข้าใจได้นอกจาก เรากับพระองค์ ”

สรุป โยบ 10

ภาพรวม

  • โยบทูลพระเจ้าว่า เขาไม่น่าเกิดมาเลย และเมื่อเกิดมาแล้วเขาก็อยากจากโลกไปเหลือเกิน เพราะชีวิตเต็มไปด้วยความทุกข์ ซึ่งความทุกข์ที่เกิดกับเขา เขาก็ไม่สามารถโต้แย้งอะไรต่อพระเจ้าได้เลยเพราะพระองค์ทำถูกต้องเสมอ

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

โยบ บทที่ 10 เมื่อโยบตอบบิลดัดว่า เขาไม่ได้โต้แย้งพระเจ้า จากนั้นเขาก็ทูลต่อพระเจ้า ถึงความชอบธรรมของพระองค์ในการทำทุกสิ่ง และขอให้พระองค์ทำให้ความทุกข์ของเขาจบลงเสียที

แล้วโยบก็ทูลต่อไปอีกว่า

เขา​เบื่อ​ชีวิต​ของเขาเหลือเกิน ที่เต็มไปด้วยความทุกข์และ​ใจ​ขม​ขื่น
ขอพระองค์ ​อย่า​ทรง​กล่าว​โทษเขาเลย เพราะถึงยังไงเขาก็ไม่มีทางแก้ตัวได้
ขอพระองค์ ​อย่าดู​หมิ่นตัวเขา ซึ่งเป็น​ผล​งาน​แห่ง​พระ​หัตถ์​ของ​พระ​องค์

พระเจ้าทอดพระ​เนตร​ ไม่เหมือน​อย่าง​มนุษย์​เห็น​
วัน​ ปี ของ​พระเจ้า​ก็ไม่เหมือน​ของ​มนุษย์

แม้​พระเจ้า​ทรง​ทราบ​ว่า โยบมิ​ได้​เป็น​คน​อธรรม
แต่โยบก็ไม่อาจพ้นผิดและ​ไม่​มีใคร​ช่วย​กู้​เขาออก​จาก​พระ​หัตถ์​ของ​พระ​องค์​ได้

พระเจ้าทรง​สร้างโยบขึ้นมา และ​บัด​นี้​ทำไมพระ​องค์​ทรง​หัน​มา​ทำ​ลายเขาเล่า?
พระเจ้า​ทรง​สร้าง​เขาขึ้นมา ประ​ทาน​ชีวิต​และ​ความ​รัก​มั่น​คง​แก่​เขา และ​ทรง​ปกป้อง​ชีวิตของเขา​ไว้

ถ้า​เขา​ทำ​บาป พระ​องค์​ทรง​ทราบ และจะทรงจัดการ
ถ้า​เขาชอบ​ธรรม เขาก็พูดไม่ออกอยู่ดี และ​เต็ม​ด้วย​ความ​ทุกข์​ใจ​
เนื่องจากถ้าพระเจ้าให้​เหล่า​พยาน​มากล่าวโทษเขา เขาก็ไม่อาจโต้แย้งได้
(เพราะไม่มีใครชอบธรรมถึงมาตรฐานของพระองค์ได้)

โยบกล่าวว่า พระเจ้าไม่น่าให้เขาเกิดมาเลย
วันคืนของชีวิตของเขาก็สั้นนัก
พระเจ้าไม่น่ามาใส่ใจตรวจสอบเขาเลย
เพื่อ​เขา​จะ​ได้​ชื่น​ใจ​สัก​หน่อย
จากนั้นเขาก็จะจากโลกนี้ไปอย่างไม่กลับแล้ว

1. โยบช่างเป็นแบบอย่างของการดำเนินชีวิตชอบธรรมต่อจำเพาะพระพักตร์ของพระเจ้า
ยามที่เขาทุกข์ระทมอย่างแสนสาหัส เขาก็ไม่ได้บ่นต่อว่าพระเจ้า
เขายังคงถ่อมใจต่อพระเจ้า

รู้ตัวเองว่าตนเองต่ำต้อยเพียงใด
และรู้ตัวว่าพระเจ้าทรงใหญ่ยิ่งสักเพียงใด

เขายอมรับว่าไม่ว่าเขาเป็นคนดีสักเพียงใด ก็ไม่พ้นโทษอยู่ดีเพราะมนุษย์ไม่มีวันดีอย่างสมบูรณ์
เขายอมรับว่า ไม่ว่าพระเจ้า ทำอะไรมันก็ถูกต้องไปหมด มนุษย์อย่างเขาไม่อาจโต้แย้งได้เลย

อย่างไรก็ดี เขาก็ได้ระบายความในใจ ทูลความปรารถนาต่อพระเจ้า ว่า
พระเจ้าไม่น่าให้เขาเกิดมาเลย
และเมื่อให้เกิดมาแล้ว ก็น่าจะให้เขาตายไปโดยเร็ว
เพราะชีวิตนี้มันทุกข์เหลือเกิน

เมื่อความทุกข์ระทมใจเกิดขึ้นกับเรา
เราสามารถระบายต่อพระเจ้าได้ แต่ต้องทำด้วยท่าทีที่ยำเกรงพระองค์
แบบยังคงรู้ตัวว่า ใครเป็นใคร

2. พระเจ้าทอดพระ​เนตร​ ไม่เหมือน​อย่าง​มนุษย์​เห็น​
สิ่งที่พระเจ้าทรงให้เกิดขึ้น เราอาจจะไม่เข้าใจ ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
ขอเพียงเราเชื่อใจในความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรา
และรอคอย สิ่งที่พระองค์จะกระทำต่อไป
เราจะเห็นพระคุณของพระเจ้า มีอย่างเหลือล้นสำหรับเรา
รวมทั้งเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับเราในวันนี้ด้วย

เนื่องจากวัน​ ปี ของ​พระเจ้า​ก็ไม่เหมือน​ของ​มนุษย์
ดังนั้น อาจจะมาช้าในสายตาของเรา แต่ไม่เคยสาย
การช่วยเหลือจากพระเจ้า จะมาในเวลาที่เหมาะสมที่สุด ในเวลาของพระองค์

3. โยบทูลพระเจ้าว่า
เขาเล็กนิดเดียว ไม่สำคัญอะไรเลย เกิดมาแป๊บเดียวก็ตายไป
พระองค์ไม่น่าจะมาสนใจเขา มาตรวจสอบเขาเลย
เพราะตรวจสอบยังไงเขาก็ไม่มีทางสอบผ่าน
ปล่อยๆให้เขา มีความสุขตามประสาของเขา สักประเดี๋ยวเดียวเถิด

เมื่ออ่านแล้ว ทำให้รู้ตัวว่า
มนุษย์ผู้เล็กน้อย ช่างเข้าใจผิดคิดว่าตนเองสำคัญและยิ่งใหญ่นักหนา
พระเจ้าไม่จำเป็นต้องสนใจมนุษย์เลย เพียงแป๊บเดียว พวกเขาก็จากไปแบบไม่มีใครจดจำอีกเลยแล้ว

และมนุษย์ไม่สามารถผ่านมาตรฐานของพระเจ้าได้เลย
ดังนั้น ถ้าพระองค์จะเอาเรื่องกับพวกเขา ไม่มีใครสักคนจะรอดพ้นได้เลย

โดยพระเยซูคริสต์ พระองค์ทรงทำให้มนุษย์ผู้เล็กน้อย กลายเป็นบุตรของพระเจ้าที่สำคัญอย่างยิ่ง
โดยพระเยซูคริสต์ พระองค์ทรงทำให้มนุษย์ผู้เป็นคนบาป ได้เป็นผู้ชอบธรรมพ้นการลงโทษ กลายเป็นผู้ได้รับพระพร
ขอบคุณพระเยซู

คำคม

“ มนุษย์สุดแสนจะเล็กน้อย เมื่อเทียบกับพระเจ้า ผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด ”

สรุป โยบ 11

ภาพรวม

  • โศฟาร์เข้าใจผิดโยบ ว่าโยบเยาะเย้ยพระเจ้า เขาจึงตำหนิโยบ และเรียกร้องให้โยบกลับใจใหม่

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

โยบ บทที่ 11 เมื่อโยบทูลพระเจ้าว่า เขาไม่น่าเกิดมาเลย และเมื่อเกิดมาแล้วเขาก็อยากจากโลกไปเหลือเกิน เพราะชีวิตเต็มไปด้วยความทุกข์ ซึ่งความทุกข์ที่เกิดกับเขา เขาก็ไม่สามารถโต้แย้งอะไรต่อพระเจ้าได้เลยเพราะพระองค์ทำถูกต้องเสมอ

แล้ว​โศ​ฟาร์​ ชาว​นา​อา​เมห์ จึง​ตอบ​โยบ ว่า

แม้เขาจะรู้ว่าคนชอบธรรมจะไม่พูดมาก
แต่เขาได้ฟังโยบแล้ว จะเงียบอยู่ก็ไม่ได้

โศฟาร์ ตำหนิว่า
คำพูดของโยบ​ไร้​สาระ​ และ​เป็นคำเยาะ​เย้ย
เพราะ​บอกว่าเขาบริสุทธิ์ และ​​สะอาด​ใน​สาย​พระ​เนตร​พระ​เจ้า
(ซึ่งโยบไม่ได้พูดเช่นนั้น)

โศฟาร์ บอกว่า
อยากให้พระเจ้าบอก​เคล็ด​ลับ​แห่ง​ปัญ​ญา​แก่โยบ จะได้หายโง่
เพราะ​สติ​ปัญญา​มี​ 2 ​ด้าน

พระ​เจ้า​ทรง​เอา​โทษ​โยบ ​น้อย​กว่า​ที่​โยบ​ควร​ได้​รับ

โยบไม่สามารถ​หยั่ง​รู้หรือวัด ​ความ​ลี้ลับ​และความ​ไพ​บูลย์ของ​พระ​เจ้า​ได้หมด​สิ้น​

พระเจ้า​ทรง​ทำอะไรก็ได้ตามแต่พระองค์ประสงค์ ไม่มีใครห้ามได้
ไม่ว่าจะเสด็จไปที่ไหน จะ​คุม​ขังใคร จะ​พิพาก​ษาใคร

​พระ​องค์​ทรง​รู้​จัก​คน​หลอก​ลวง และพระ​องค์​จะ​จัดการเขาแน่นอน

​คน​โง่​(คนที่ไม่ยำเกรงพระเจ้า)จะไม่มีวัน​ได้​ความ​เข้า​ใจ

ถ้า​โยบ​เตรียม​ใจกลับมาหาพระเจ้า ทิ้ง​ความชั่วเสีย​
แล้ว​เขาจะได้รับการอภัย ​จะ​ปลอด​ภัย และ​ไม่​ต้อง​กลัวอีกต่อไป
แล้ว​ชีวิต​ของ​เขา​จะ​สุก​ใส และ​มี​ความ​หวัง
และจะเป็นพระพรต่อคนจำนวนมาก

แต่​คน​อธรรมที่ไม่กลับใจ จะพบกับอันตราย และ​ความ​หวัง​ของ​เขา​ ก็​คือ ความตาย

1. ​โศฟาร์เข้าใจผิดว่า โยบพูดเยาะ​เย้ยพระเจ้า
และบอกว่าตนบริสุทธิ์ และ​​สะอาด​ใน​สาย​พระ​เนตร​พระ​เจ้า
ซึ่งถ้าอ่านดูดีๆ โยบพูดว่า ไม่มีใครชอบธรรมต่อจำเพาะพระพักตร์ของพระเจ้าได้

เอลีฟัส สรุปผิดจึงตำหนิโยบ(บทที่ 4-5)
บิลดัด ไม่ฟังให้ดีจึงตำหนิโยบ(บทที่ 8)
​โศ​ฟาร์​ เข้าใจผิดจึงตำหนิโยบ(บทที่ 11)

เพื่อนของโยบแทนที่จะช่วย เล้าโลมใจโยบกลับมาซ้ำเติมโยบ

จึงเป็นความทุกข์ซ้อนทุกข์ของโยบ ที่นอกจากพบพิภิบัติแล้ว
ยังถูกเพื่อนสนิทเข้าใจผิดและซ้ำเติมอีกด้วย

สำหรับมนุษย์ที่เราหวังพึ่งพา บางครั้งอาจทำให้เราผิดหวังหรือซ้ำเติมเราให้เจ็บปวด
แต่คนที่หวังใจในพระเจ้าจะไม่มีวันผิดหวัง

2. แม้โศฟาร์จะตำหนิโยบ เพราะตนเข้าใจผิดโยบ แต่ในสิ่งที่เขาพูดกับโยบนั้นก็เป็นความจริงในฝ่ายวิญญาณ
– คนชอบธรรมจะไม่พูดมาก
สภษ. 10:19 “พูด​มาก​คำ​ย่อม​ทำ​บาป​ได้ แต่​คน​ที่​ยับ​ยั้ง​ปาก​ของ​ตนก็​เป็น​คน​ฉลาด”

– เมื่อเราเข้าใจ​เคล็ด​ลับ​แห่ง​ปัญ​ญา​ จะก็หายโง่
เคล็ดลับนั้น อยู่พระคำของพระเจ้า
สภษ. 2:6 “เพราะ​พระ​ยาห์​เวห์​ประ​ทาน​ปัญ​ญา และ​จาก​พระโอษฐ์​ของ​พระองค์ ความ​รู้​กับ​ความ​เข้า​ใจ​ก็​ออก​มา”

– สติ​ปัญญา​มี​ 2 ​ด้าน สำหรับมนุษย์เห็นได้เพียงด้านเดียว ตามที่ตาของเรามองเห็น
แต่สำหรับพระเจ้า เมื่อพระองค์ทรงกระทำตามพระสติปัญญาของพระองค์นั้น
เรามองไม่เห็น และเกินกว่าที่เราจะเข้าใจได้
เราจะพอเข้าใจหรือรู้ได้ เมื่อมันได้เกิดขึ้นแล้วเท่านั้น
อสย. 55:9 “เพราะ​ฟ้า​สวรรค์​สูง​กว่า​แผ่น​ดิน​โลก​อย่างไร ทาง​ของ​เรา​ก็​สูง​กว่า​ทาง​ของ​พวกเจ้า
และ​ความ​คิด​ของ​เรา​ก็​สูง​กว่า​ความ​คิด​ของ​เจ้า​อย่าง​นั้น

– สิ่งที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ทุกวันนี้ แท้จริงแล้วพวกเขาได้รับโทษน้อยกว่าที่ควรจะเป็นมาก

– ​ความ​ลี้ลับ​และความ​ไพ​บูลย์ของ​พระ​เจ้า​ มนุษย์ไม่สามารถเข้าใจหรือรับรู้ได้หมด​สิ้น​

– พระเจ้าจะไม่ปล่อยให้คนชั่วร้ายที่ไม่ยอมกลับใจ ลอยนวลไปได้

– ใครก็ตามที่ ​กลับใจ กลับมาหาพระเจ้า และละทิ้ง​ความชั่วเสีย​
​เขาจะได้รับการอภัย ​และกลายเป็นพระพรต่อคนมากมาย

คำคม

“ ความคิดและวิธีการของพระเจ้า เกินความเข้าใจของมนุษย์เสมอ ”

สรุป โยบ 12

ภาพรวม

  • โยบโต้แย้งเพื่อนทั้งสามของเขาว่า คนอธรรมอาจไม่พบกับความทุกข์เสมอไป บางครั้งพระเจ้าก็ทรงให้คนอธรรมจำเริญขึ้นชั่วคราวด้วยพระประสงค์พิเศษของพระองค์

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

โยบ บทที่ 12 เมื่อโศฟาร์เข้าใจผิดโยบ ว่าโยบเยาะเย้ยพระเจ้า เขาจึงตำหนิโยบ และเรียกร้องให้โยบกลับใจใหม่

​โยบจึง​ตอบพวกเขา ​ว่า
พวกเขาพูดอย่างกับ​ว่า ปัญ​ญาทั้งโลกอยู่กับพวกเขา
แต่โยบ​ก็คิดว่า ปัญญาของโยบก็​มิ​ได้​ด้อย​กว่า​พวกเขา

บัดนี้โยบ​ที่​หัว​เราะ​เยาะ​ของ​เพื่อนๆ
คนที่อยู่​สบาย​ ก็​มักเยาะ​หยัน​คนเคราะห์​ร้าย

บางครั้งโจร​และผู้ทำชั่ว ก็​พบความสงบ​สุข และ​​ปลอด​ภัย
(โยบ โต้แย้งข้อสรุปของโศฟาร์ ที่บอกว่า คนชอบธรรมเท่านั้นที่ สงบสุขและปลอดภัย โยบ 11:17-20)

แต่ ถ้าพวกเขาถาม​สัตว์​ทั้ง​หลาย ​ถาม​นก​บน​ฟ้า ถาม​แผ่น​ดิน​โลก และ​ถาม​ปลา​ใน​ทะเล
แล้วพวกมันจะสอนพวกเขา ว่า
พวกมัน​ทั้ง​หมด​ก็ยัง​ทราบเลย​ว่า
“พระ​หัตถ์​พระ​ยาห์​เวห์​ได้​ทำ​สิ่ง​นี้​ขึ้น?”
(หมายถึง ในคนชั่วเจริญในบางครั้ง)

ชีวิต​ของ​สิ่ง​มี​ชีวิต​ทุก​อย่าง​อยู่​ใน​พระ​หัตถ์​พระ​องค์
ปัญ​ญา​และ​พลัง​อยู่​กับ​พระ​องค์
คำ​ปรึก​ษา​และ​ความ​เข้า​ใจ​เป็น​ของ​พระ​องค์
ไม่ว่าพระองค์จะทำอะไร มันก็จะสำเร็จ และไม่มีใครขัดขวางได้

ผู้​ถูก​หลอก​ลวง​และ​ผู้​หลอก​ลวง​ ก็อยู่ในพระหัตถ์​ของ​พระ​องค์

พระ​องค์​ทรง​ให้​ที่​ปรึก​ษาที่ชาญฉลาด กลาย​เป็น​คน​โง่ไป
พระ​องค์​ทรง​​โซ่​ตรวน​ของ​บรร​ดา​พระ​ราชา ไร้ความหมาย
พระองค์​ทรง​คว่ำ​ผู้​มี​กำ​ลัง​เสีย
พระ​องค์​ทรง​เท​ความ​เหยียด​หยาม​ลง​บน​เจ้า​นายผู้มีเกียรติ
พระ​องค์​ทรง​เผย​สิ่ง​ล้ำ​ลึก​จาก​ความ​มืด
พระองค์ทรง​นำ​ความ​มืด​ทึบ​มา​สู่​ความ​สว่าง
พระ​องค์​ทรง​ทำ​ให้​ประ​ชา​ชาติ​ทั้ง​หลาย​ใหญ่​โต หรือ​ทรง​ทำ​ลาย​พวกเขาเสีย
พระ​องค์​ทรง​เอา​ความ​เข้า​ใจ​ไป​จาก​ผู้​นำ​ประ​ชา​ชน และ​ทรง​ทำ​ให้​พวก​เขา​พเน​จร​ไป​อย่างเดียวดาย

1. โยบตอบโศฟาร์และเพื่อนๆ ว่า สิ่งที่พวกเขาสรุป ไม่ถูกต้องเสมอไป ถ้ามองในสายตาของมนุษย์
คือ ถ้าบอกว่า คนชอบธรรมเท่านั้นที่จะพบแต่สิ่งที่ดี
มีคนอธรรมจำนวนไม่น้อยที่พบชีวิตที่ดีเช่นกัน

ที่เป็นเช่นนั้น ไม่ใช่เพราะพวกเขารอดพ้นสายตาของพระเจ้าไปได้
แต่เพราะพระเจ้ามีแผนการบางอย่าง ตามพระสติปัญญาของพระองค์
ซึ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโลก ล้วนแต่อยู่ภายใต้การควบคุมของพระเจ้า

วันนี้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเรา พระเจ้าควบคุมสถานการณ์ไว้อยู่
อย่ากลัวเลย

2. บ่อยครั้งคนที่อยู่​สุขสบาย​ ก็​มักตำหนิคนที่กำลังพบกับความทุกข์
ว่า ทำไมอ่อนแอขนาดนี้? ทำไมไม่อดทน? ทำไมไม่ฉลาดเลย? ทำไม…ฯลฯ

ขอให้เราระมัดระวังที่จะไม่ตำหนิคนอื่นมากเกินไปนัก
เพราะเราเองไม่ได้อยู่ในสภาพเดียวกับเขา เราไม่มีทางเข้าใจเขาได้อย่างแท้จริง

3. การเรียนรู้ความเข้าใจฝ่ายวิญญาณ เราสามารถเรียนรู้
จากสรรพสัตว์ จากสิ่งต่างๆ และจากแผ่นดินโลก
หากเราสังเกตให้ดีพอเราก็จะเรียนรู้

4. พละกำลัง สติปัญญา อำนาจปกครอง กำลังทหาร หรืออะไรก็ตามที่มนุษย์มีนั้น
พระเจ้าจะทำให้มันหมดไป หรือไร้ประโยชน์ไปสำหรับเขา เมื่อไหร่ก็ได้
วันนี้ เหตุผลเดียวที่มันยังมีอยู่กับพวกเขา ก็เพราะว่า พระเจ้ายังให้มันยังคงมีอยู่

อย่าวางใจในมนุษย์ ซึ่งถูกเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
แต่จงไว้วางใจในพระเจ้า ผู้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

คำคม

“ ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ก็เพราะพระเจ้าทรงมีพระประสงค์บางอย่าง ”

สรุป โยบ 13

ภาพรวม

  • โยบบอกเพื่อทั้งสามว่า พวกเขาไม่ควรพูดใส่ร้ายป้ายสีโยบ แล้ว๋ก็หันไปอธิษฐานร้องทูลต่อพระเจ้า

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

โยบ บทที่ 13 เมื่อโยบโต้แย้งเพื่อนทั้งสามของเขาว่า คนอธรรมอาจไม่พบกับความทุกข์เสมอไป บางครั้งพระเจ้าก็ทรงให้คนอธรรมจำเริญขึ้นชั่วคราวด้วยพระประสงค์พิเศษของพระองค์

โยบก็กล่าวต่อไปว่า
สิ่ง​ที่เพื่อนทั้งสาม​รู้ โยบ​ก็​รู้​ด้วยเหมือนกัน
แต่​ตอนนี้ โยบ​จะ​ทูลพระเจ้าอยู่ดี ว่า
เขาปรารถ​นา​จะ​สู้​ความ​กับ​พระ​เจ้า

ส่วน​พวกเขา​นั้น เต็มไป​ด้วย​การ​โกหก ​เป็นเหมือน​แพทย์​ที่​ใช้​ไม่​ได้

ดังนั้นพวกเขาน่า​จะ​นิ่ง​เสีย และ​ความ​นิ่ง​นั้น​จะ​เป็น​ปัญ​ญา​ของ​พวกเขา

พวก​เขาไม่ควร​พูด​เท็จ หรือพูดหลอกลวง ​หรือลำเอียง เพื่อ​พระ​เจ้า
เพราะนั่นจะทำให้พระเจ้าไม่พอพระทัย
แล้วคำพูดและการกระทำของพวกเขาก็จะไร้ค่า

พวกเขาอาจหลอกมนุษย์ได้ แต่ไม่มีทาง​หลอก​ลวงพระเจ้าได้

โยบขอ​เสี่ยง​ชีวิตพูดสิ่งต่อไปนี้
คือ เขาขอ​สู้​ความ​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระเจ้า
นี่​จะ​เป็น​ความ​รอด​ของเขา คือ​คน​ที่​ไม่​นับ​ถือ​พระ​เจ้า​จะ​ไม่​ได้​เข้า​มา​อยู่​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระ​องค์
วันนี้เขามาสู้ความ เฉพาะ​พระ​พักตร์​ ก็เพราะว่าเขานับถือพระองค์

โยบขอ​พระเจ้า​ทรง​เรียก​เถิด แล้ว​เขาจะ​ทูล​ตอบ
หรือ​ขอให้​เขาร้อง​ทูล และ​ขอ​พระ​องค์​ทรง​ตอบ​เขา​เถิด

โยบทูลว่า
ขอ​พระเจ้าทรง​ให้​ข้า​พระ​องค์​ทราบ​ถึง​ความผิดความบาป​ของเขาด้วยเถิด
ขออย่าทรงซ่อน​พระ​พักตร์ เหมือน​ทรง​ถือ​ว่า​เขาเป็น​ศัตรู
เพราะเขาช่างเล็กน้อยเมื่อเทียบกับพระองค์ อย่าถือสาเขาเลย
อย่าถือสาความ​ผิด​ที่​ทำ​เมื่อ​เยาว์​วัยเลย
เพราะเขากำลัง​โทรม​ไป​เหมือน​ไม้​ผุ หรือเหมือน​เครื่อง​แต่ง​กาย​ที่​ตัว​แมลง​กิน

1. เพื่อนของโยบ พยายามช่วยพระเจ้า ด้วยการกล่าวหาโยบในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง
โยบจึงเตือนพวกเขาว่า การกล่าวหาเช่นนั้นไม่เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า
อีกทั้งพระเจ้าไม่จำเป็นต้องให้พวกเขาช่วย

เราไม่สามารถรับใช้พระเจ้า ด้วยวิธีของมารได้

มีบางคนพยายามบิดเบือนคำพยาน เพื่อให้ดูสิ่งที่พระเจ้าทำนั้นยิ่งใหญ่กว่าที่เกิดขึ้นจริง
การกระทำเช่นนั้น นอกจากจะไม่เป็นพระพรแล้ว ยังเป็นสิ่งที่พระเจ้าไม่พอพระทัยอีกด้วย

2. คนโง่เขลาที่ยับยั้งไม่ให้พูดอะไรเลย ให้อยู่นิ่งๆ
ก็นับว่าเขามีปัญญาอยู่พอสมควร
สภษ. 17:28 “แม้​คน​โง่​หาก​นิ่ง​เสีย​ก็​นับ​ว่า​มี​ปัญ​ญา เมื่อ​เขา​ปิด​ปาก​ของ​ตน​ก็​นับ​ว่า​มี​ความ​คิด”

หากเราไม่รู้หรือเข้าใจสิ่งนั้นดีพอ จะเป็นการฉลาดมากที่เราจะนิ่งไว้
แทนที่จะพูดสำแดงความโง่ออกมา

3. บางคนอาจหลอกมนุษย์ได้ แต่พวกเขาไม่มีทาง​หลอกพระเจ้าได้
และพระเจ้าจะตอบแทนการกระทำของพวกเขา อย่างยุติธรรมเสมอ

4. เมื่อโยบจะขอสู้คดีกับพระเจ้า ว่า เขาไม่ได้ทำบาป
เขารู้ดีว่า นั่นเขากำลังทำสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง
ที่เขารู้ตัวเช่นนั้น ก็เพราะเขายำเกรงพระเจ้า รู้ว่าพระเจ้าทรงใหญ่ยิ่งสูงส่งสักเพียงใด เมื่อเทียบกับเขา

และเพราะเขาทำสิ่งอันตรายนี้ ด้วยความเกรงกลัวพระเจ้า
สิ่งที่เขาทำจึงไม่เป้นอันตรายต่อเขา

การกระทำใดๆที่ทำด้วยความยำเกรงพระเจ้า
จะพบพระเมตตาของพระเจ้าในการกระทำนั้นเสมอ

5. ในการสนทนากับพระเจ้า โยบร้อง​ทูลต่อพระองค์ ขณะเดียวกันก็พร้อมฟังสิ่งที่พระองค์จะตรัส
ในการอธิษฐานของเรา เราควรทั้งทูลต่อพระเจ้า และ เปิดใจรับฟังสิ่งที่พระองค์จะบอกกับเรา

6. พระเจ้าทรงซ่อน​พระ​พักตร์พระองค์ จากคำร้องทูลของ​ศัตรู ของพระองค์

นั่นคือ คนที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับพระเจ้า คำอธิษฐานของเขาจะไม่ได้รับคำตอบ

ยก. 4:4 “คน​ไม่​ซื่อ​สัตย์​ต่อ​พระ​เจ้า ท่าน​ทั้ง​หลาย​รู้​ว่า​การ​เป็น​มิตร​กับ​โลก​นั้น​คือ​การ​เป็น​ศัตรูกับ​พระ​เจ้า​ไม่​ใช่​หรือ? เพราะ​ฉะนั้น ใคร​ก็​ตาม​ที่​ต้อง​การ​เป็น​มิตร​กับ​โลก ก็​ตั้ง​ตัว​เป็น​ศัตรู​กับ​พระ​เจ้า “

คำคม

“ คนที่ยำเกรงพระเจ้า จะได้รับพระเมตตาเสมอ ”

สรุป โยบ 14

ภาพรวม

  • โยบทูลต่อพระเจ้าว่า ชีวิตมนุษย์แสนสั้นและอ่อนแอ ขอพระเจ้าอย่าทรงเอาโทษพวกเขาเลย

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

โยบ บทที่ 14 โยบบอกเพื่อทั้งสามว่า พวกเขาไม่ควรพูดใส่ร้ายป้ายสีโยบ แล้วก็หันไปอธิษฐานร้องทูลต่อพระเจ้า ว่าขออย่าถือสาเขาเลย

โยบทูลพระเจ้าต่อไป ว่า
มนุษย์มีชีวิตแค่​น้อย​วัน และ​เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​ยุ่ง​ยาก​ใจ
ไม่นานเขาก็จะ​หาย​ไป​อย่าง​เงา
แล้ว​พระ​องค์​จะไปใส่ใจเขาทำไม?

สิ่ง​สะ​อาดไม่สามารถ​ออก​มา​จาก​สิ่ง​มลทิน​ได้
(หมายถึง มนุษย์ผู้เต็มด้วยมลทินจะสะอาดในสายพระเนตรของพระเจ้าได้อย่างไร?)

วัน​เวลา​ของ​มนุษย์ก็​ถูก​กำ​หนด​ไว้​เสีย​แล้ว โดยพระเจ้า
พระ​องค์​ทรง​จำกัด​ขอบ​เขต​ไว้ ไม่​ให้​เขา​ผ่าน​ไป​ได้

ดังนั้น ขอ​พระเจ้าอย่า​ไปใส่ใจ​จาก​เขาเลย เพื่อ​เขา​จะ​ได้​พัก
(หมายถึง ถ้าพระเจ้าทรงตรวจสอบเขา ยังไงเขาก็คงจะต้องถูกลงโทษ)

ต้น​ไม้​ที่​ถูก​ตัด​ลง ยังงอกขึ้นมาใหม่ได้
แต่​มนุษย์​เมื่อตายแล้ว ก็​ไม่​ลุก​ขึ้น​อีก​
โยบเองก็กำลังรอ​คอย​ วันที่ความตาย​จะ​มา​ถึงเขา
เพื่อวันนั้น พระเจ้าจะมิ​ได้​จ้อง​จับ​ผิด​เขาอีกต่อไป
และความบาปของเขาจะถูกปิดทับไว้ ไม่ถูกจดจำอีกต่อไป
โดยความตายความหวังของมนุษย์ก็หมดสิ้น
มนุษย์ไม่มีวันชนะ​พระเจ้าได้ เพราะในที่สุดเขา่ก็​ล่วง​ลับ​ไป

แล้วบรร​ดา​บุตร​ของ​เขา​จะเป็นเช่นไร เขา​ก็จะ​ไม่​ทราบ

1. โยบทูลอย่างถ่อมใจต่อพระเจ้าว่า
มนุษย์ช่างเล็กน้อย ชีวิตแสนสั้น และเต็มด้วยมลทิน
ถ้าพระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่ จะเอาเรื่องพวกเขา
คงไม่มีใครจะสามารถอยู่สงบสุขได้ ตลอดเวลาอันแสนสั้นของพวกเขา

หากเรารู้ตัวว่า เราเล็กน้อยสักเพียงใด สมควรถูกลงโทษมากเพียงใด
เราก็จะยิ่งยำเกรงพระเจ้า และตระหนักในพระเมตตาของพระองค์

หลายคนเข้าใจผิดว่า ตนสำคัญนักหนา
พระเจ้าต้องมาง้อเขา ถ้าพระเจ้าอยากให้เขาเชื่อพระองค์
พระองค์ต้องทำโน่นนี่นั่น ให้เขาก่อน
ช่างไม่รู้ตัวเองเลย ว่าเล็กน้อยสักเพียงใด

2. พระเจ้าทรงกำหนดวัน​เวลา​ของ​มนุษย์แต่ละคนไว้​แล้ว
ไม่ว่ามนุษย์คนนั้นจะพยายามมากสักเพียงใดก็ตาม
เขาก็ไม่สามารถผ่าน​ขอบ​เขตเวลาชีวิต ที่กำหนด​ไว้แล้ว สำหรับเขาได้

วันที่เราต้องตาย ไม่ว่าเราดิ้นรนแค่ไหน เราก็ต้องตายวันนั้นอยู่ดี

วันที่คนที่เรารักต้องจากโลกนี้ไป พระเจ้าทรงกำหนดไว้แล้ว
ไม่ขึ้นอยู่กับความสามารถ ความพยายาม หรือการทุ่มเทของเรา
ขอเพียงเราทำอย่างดีที่สุดนั่นก็เพียงพอแล้ว
เมื่อพวกเขายังต้องจากไป ก็ให้รู้เถิดว่า
นั่นเป็นเวลาของพระเจ้า ที่กำหนดไว้สำหรับพวกเขา
มนุษยไม่มีวัน ชนะพระเจ้าได้

คำคม

“ พระเจ้าทรงกำหนดวันเวลาของเราแต่ละคนไว้แล้ว ”

สรุป โยบ 15

ภาพรวม

  • เอลีฟัสตำหนิโยบว่าเป็นคนอธรรม จึงได้รับผลร้ายเกิดขึ้นในชีวิตของโยบ

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

โยบ บทที่ 15 หลังจากที่โยบพูดกับเพื่อนทั้งสามว่า บางครั้งพระเจ้าก็ทรงให้คนอธรรมจำเริญขึ้นชั่วคราว และ โยบทูลต่อพระเจ้าว่า ชีวิตมนุษย์แสนสั้นและอ่อนแอ ขอพระเจ้าอย่าทรงเอาโทษมนุษย์เลย

แล้ว​เอลี​ฟัส ​ชาว​เท​มาน​ (ซึ่งเริ่มโต้แย้งโยบเป็นคนแรก ในบทที่ 4) จึงตอบ​ว่า

คำพูดของโยบไร้ปัญญา ไร้​ประ​โยชน์ และไม่​เป็น​แก่น​สาร​

โยบกำลังเลิก​ยำ​เกรง​พระ​เจ้า​ และ​ขัด​ขวางการอธิษฐานต่อ​พระ​เจ้า

ความ​ชั่ว​ของโยบ ​สอน​ปาก​ของโยบให้พูดจา​เจ้า​เล่ห์
ปาก​ของโยบ กำลัง​กล่าว​โทษ​ตัวโยบเอง

โยบไม่ได้เข้า​ใจ​อะไร​ไปมากกว่าพวกเขาดอก
เพราะใน​พวก​เขา​มี​บางคนแก่​ยิ่ง​กว่า​บิดา​ของ​โยบเสียอีก

โยบ​เห็น​คำ​ปลอบ​โยน​ของ​พระ​เจ้า​เป็น​สิ่งไม่สำคัญ
ด้วยการไม่รับฟังคำพูดของเพื่อนทั้งสาม
การทำเช่นนั้น เป็นการหัน​จิต​ใจ​ต่อ​สู้​พระ​เจ้า

มนุษย์​ไม่สามารถ​เป็นคนชอบ​ธรรม​ได้ด้วยตนเอง
(อันนี้ โยบก็พูดไว้ก่อนแล้ว)
เพราะแม้แต่ทูต​สวรรค์​ก็​ถือว่ามัวหมองเมื่อเทียบกับพระเจ้า
แล้ว​โยบผู้​ที่​น่า​เกลียด​น่า​ชัง​และ​เสื่อม​ทราม
ผู้​ทำ​ความ​อธรรม​อยู่เสมอ จะ​สะ​อาด​น้อย​ยิ่ง​กว่า​นั้น​สัก​เท่า​ใด

คน​อธรรม​จะทน​ทุกข์​ทร​มาน​ตลอดชีวิต
เสียง​น่า​กลัว​อยู่​ใน​หู​ของ​เขา
ผู้​ทำ​ลาย​จะ​มา​หา​เขา​ใน​ยาม​มั่งมี​ศรี​สุข
เขาจะอดอยาก
​เขา​จะไม่อาจ​กลับ​ออก​มา​จาก​ความ​มืด
วัน​แห่ง​ความ​มืด​อยู่ใกล้แค่​เอื้อม สำหรับเขา
เขาจะหวาดกลัว ด้วยความ​ทุกข์​ใจ​ ​แสน​ระทม​
มัน​ชนะ​เขา​

เพราะ​เขา​ได้​เหยียด​มือ​ของ​เขา​ออก​สู้​พระ​เจ้า และ​​ท้า​ทาย​พระองค์​
เพราะเขา​ดื้อ​ดึงต่อพระองค์

ดังนั้นความมั่ง​มี และ​ทรัพย์​สม​บัติ​ของ​เขา​จะ​ไม่​ทน​ทาน
และ​มัน​จะ​ไม่​เพิ่ม​พูน​ขึ้น​
เขา​จะ​หนี​ความ​มืด​ไม่​พ้น
สิ่ง​อนิจ​จัง ซึ่ง​เขาวางใจ จะเป็น​สิ่งหลอก​ลวง​เขา
สิ่งที่​คน​อธรรมทำจะไม่เกิดผล

พวกเขาตั้ง​ท้อง​ความ​ชั่ว​และ​คลอด​ความ​ร้าย​ออก​มา
และ​จิต​ใจ​ของ​เขา​ตระ​เตรียม​การ​ล่อ​ลวง

1. เอลีฟัส พูดหลายสิ่งที่ถูกต้อง แต่เขาประเมินโยบผิด
เขาไม่ได้ฟังสิ่งที่โยบพูดให้ดี แล้วมาตัดสินว่า
โยบเป็นคนอธรรม เป็นคนที่ไม่ยำเกรงพระเจ้า
ซึ่งเมื่อเราพิจารณาคำพูดของโยบดีๆ เขาพูดด้วยความยำเกรงพระเจ้าเรื่อยมา

การที่เรามีความเข้าใจในเรื่องฝ่ายวิญญาณในหลายอย่าง
ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะสามารถสรุปตัวตนของคนอื่นได้อย่างถูกต้องเสมอไป
ดังนั้นไม่ควรตัดสิน(หรือด่วนตัดสินคนอื่น)

2. ถึงแม้ว่าเอลี​ฟัส จะเข้าใจโยบผิด แต่เขาก็พูดสิ่งที่เป็นความจริงฝ่ายวิญญาณหลายประการ
– ความ​ชั่ว​ในใจ จะสะท้อนออกเป็นคำพูดหลอกลวง ซึ่งคำพูดเหล่านั้นกำลัง​กล่าว​โทษ​ตนเอง ให้คนรู้ว่า ตนเป็นคนชั่วร้าย
– การไม่ฟังคำเตือนจากพระเจ้า เป็นการหัน​จิต​ใจ​ต่อ​สู้​พระ​เจ้า
(แต่ในกรณีนี้ เอลีฟัส เข้าใจผิด ว่า คำพูดของตน เป็นคำเตือนมาจากพระเจ้า)
– มนุษย์ไม่สามารถชอบธรรมด้วยตัวเองได้
– คน​อธรรม​จะพบทุกข์​ ต่อให้เขา​มั่งมี​ศรี​สุข อีกไม่นานก็จะถูกทำลาย
ความ​ทุกข์ที่มาถึงเขา ​เขาจะทำให้เขาหวาดกลัว และมันจะ​ชนะ​เขา​
นั่นคือ คนชอบธรรมจะพบความสุข แม้ยามที่มีทุกข์อีกไม่นานก็จะถูกเปลี่ยนเป็นความสุข
ความทุกข์จะไม่ทำให้เขาหวาดกลัว เขาจะผ่านมันไปได้อย่างมีชัยชนะ
– คนที่วางใจในสิ่งอนิจจัง กำลังถูกสิ่งอนิจจังหลอกลวง

คำคม

“ ความทุกข์จะชนะคนอธรรมและมันจะทำให้เขาหวาดกลัว ”

สรุป โยบ 16

ภาพรวม

  • โยบบอกว่าคำพูดของเพื่อนๆไม่ช่วยอะไรเขาเลย ตอนนี้เขาทุกข์หนัก ขอพระเจ้าทรงให้ความทุกข์ของเขา ทำให้พระเจ้าทรงเมตตาเขาด้วยเถิด

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

โยบ บทที่ 16 เมื่อเอลีฟัสตำหนิโยบว่าเป็นคนอธรรม จึงได้รับผลร้ายเกิดขึ้นในชีวิตของโยบ

โยบ 16:1 แล้ว​โยบ​จึงตอบ​ว่า

พวกเขา ช่าง​เป็น​ผู้​ปลอบ​โยน​ ที่​ทำ​ให้คนทุกข์ใจ ​ยิ่ง​ทุกข์​ใจเพิ่มขึ้นอีก
เมื่อไรจะหยุดพูดเสียที?
ถ้าเขามาลองเป็นโยบดู โยบก็พูด​เยาะเย้ยแบบเขาได้เหมือน​กัน

โยบกล่าวต่อไปว่า
ถ้าโยบ​พูด ความ​เจ็บ​ปวด​​ก็​ไม่​บรร​เทา
แต่​ถ้า​ไม่พูดอะไรเลย ก็จะยิ่งทุกข์เข้าไปอีก

พระ​เจ้า​ทรง​ให้​โยบเหนื่อย​ยาก และหด​หู่​ลง
ซึ่ง​สภาพ​เช่นนี้ และ​ความ​ผ่าย​ผอม​ของเขา
​เป็น​พยาน​ใส่เขา ว่า
เขาเป็นผู้ที่พระเจ้า​ทรง​พิโรธ​และ​เกลียด​ชัง​

ศัตรูก็มาโจมตีเขาด้วยคำพูด และ​ตบ​แก้ม​ประ​จานเ​ขา และ​สุม​หัว​กัน​เล่น​งาน​เขา
พระ​เจ้าก็​ทรง​มอบ​โยบ​ให้​แก่​พวกเขา

เหมือนพระเจ้ากำลัง ฟาด​เขาให้​แหลก​เป็น​ชิ้นๆ
และ​ไม่​เพลา​พระ​หัตถ์​เลย
พระ​องค์​ทรง​ถล่ม​เขา​ครั้ง​แล้ว​ครั้ง​เล่า

โยบจึงเต็มไปด้วยความทุกข์ และ​ศักดิ์​ศรีก็หมดไป
เต็มไป​ด้วย​การ​ร่ำ​ไห้

แม้​ว่าโยบไม่ได้ทำการ​ทา​รุณต่อผู้ใด​เลย
และ​คำ​อธิษ​ฐาน​ของโยบก็ทำอย่างจริงใจ ไม่หน้าซื่อใจคต

บัดนี้โล​หิต​และเสียง​ร้อง​ของโยบ
ได้เป็นพยานว่า โยบทุกข์ระทมเพียงใด
ขอ​ให้​พยาน​นั้น​ร้อง​ทูล​พระ​เจ้า​เพื่อเขา
เพราะ​ว่า​อีกไม่นานเขาก็จะต้องตายแล้ว

1. โยบบอกเพื่อนเขาว่า ยิ่งพวกเขาปลอบใจโยบ โยบก็ยิ่งทุกข์ใจ
คำพูดของพวกเขาไม่เป็นประโยชน์ต่อโยบเลย
และที่พวกเขาห้ามไม่ให้โยบพูดกลับยิ่งเพิ่มความทุกข์ใจให้กับโยบ

สำหรับผู้ที่ทุกข์ใจ บางครั้งการไม่ต้องพูดอะไรเลย เพียงอยู่กับเขา และฟังที่เขาพูด
อาจจะเป็นประโยชน์ยิ่งกว่า คำพูดมากมายที่เราพยายามพูดกับเขา

2. โยบกำลังพบกับทุกข์อย่างหนักหน่วง
ราวกับว่า พระเจ้ากำลังโกรธ และ​เกลียด​ชัง​เขา
ราวกับว่าพระเจ้ากำลังโจมตีเขาอย่างไม่ยั้งมือ

แต่แทนที่เขาจะต่อว่าพระเจ้า หรือสาปแช่งพระองค์
เขากลับกล่าวว่า
ขอให้เลือดและน้ำตาของเขา เป็นเสียงร้องทูลขอความเมตตาจากพระเจ้า

คือ ขอให้สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา ช่วยทำให้พระเจ้าเมตตาเขาด้วยเถิด

สำหรับความเข้าใจของโยบ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเป็นการกระทำของพระเจ้า
แทนที่เขาจะต่อต้านพระเจ้า เขากลับถ่อมใจลงขอพระเมตตาจากพระองค์

วันนี้เมื่อเราเผชิญหน้ากับความทุกข์ยากลำบากอย่างหนึ่งอย่างใด
ให้เราถ่อมใจลงขอพระเมตตาจากพระเจ้า
แล้วเราจะพบว่าพระเมตตาของพระเจ้ามีมากมายเพียงพอสำหรับเรา

คำคม

“ ผู้ที่ขอพระเมตตา จะพบพระเมตตา ในเวลาแห่งพระเมตตา ”

สรุป โยบ 17

ภาพรวม

  • โยบระบายถึงความสิ้นหวังของตน แต่เขาก็ยังหวังในพระเจ้า

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

โยบ บทที่ 17 เมื่อโยบบอกเพื่อนทั้งสาม ว่าคำพูดของพวกเขาไม่ช่วยอะไรโยบเลย ตอนนี้เขาทุกข์หนัก ขอพระเจ้าทรงให้ความทุกข์ของเขา ทำให้พระเจ้าทรงเมตตาเขาด้วยเถิด

โยบกล่าวต่อไปว่า
ชีวิตของเขาก็ใกล้จะถึงจุดจบแล้ว
พวกคนที่ชอบ​เยาะ​เย้ย​ก็​อยู่​รอบๆ​เขา

ขอพระเจ้า​ทรงอยู่ข้างเขาด้วยเถิด
เพราะไม่มีใครอยู่ฝ่ายเขาเลย

โยบตก​เป็น​ขี้​ปากของ​ชน​ชาติ​ทั้ง​หลาย
และพวก​เขาก็เยาะเย้ย ถากถางโยบ

ดวง​ตา​ของ​โยบ ก็​มืด​มัว​ไป ด้วย​ความ​โศก​สลด
และ​แขน​ขา​ของ​ข้า​ก็​ไม่มีเรี่ยวแรง

แต่โยบก็ยังจะยึดมั่นในทาง​ชอบ​ธรรม​ของ​เขาต่อไป

ความ​ปรา​รถ​นา​ใน​ใจ​ของ​โยบ​นั้น ไม่เกิดขึ้น
บัดนี้โยบสิ้นความ​หวัง​
และกำลัง​จะ​ลง​ไป​สู่​แดน​คน​ตาย​

1. ในยามที่โยบรู้สึกท้อแท้ หมดหวัง อ้างว้างและเดียวดาย
ไม่มีใครอยู่ข้างเขาเลย เพื่อนๆก็ได้แต่ซ้ำเติมเขา
แม้แต่พระเจ้าก็ดูเหมือน ทำราวกับว่ากำลังทรงโจมตีเขา ด้วยพระพิโรธ

แล้วสิ่งที่โยบทำก็คือ
ร้องขอให้พระเจ้าทรงอยู่ข้างเขา

โยบรู้สึกหมดหวัง แต่เขาก็ไม่ยอมหมดหวังในพระเมตตาของพระเจ้า
และในที่สุดพระเจ้าก็ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง

2. แม้โยบกำลังตรอมตรมด้วยความทุกข์ กำลังสิ้นหวัง
รู้ว่าความตายคงอยู่อีกไม่ไกล
ถึงกระนั้นเขายังยึดมั่นในความชอบธรรม

ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นกับเรา ก็ไม่สามารถมาใช้เป็นข้ออ้าง
ในการเลิกดำเนินตามทางแห่งความชอบธรรมได้

คำคม

“ พระเจ้ายังคงเป็นความหวัง ท่ามกลางความสิ้นหวัง ”

สรุป โยบ 18

ภาพรวม

  • บิลดัด คิดว่าโยบเป็นคนอธรรม เขาจึงพูดให้โยบฟังว่า คนอธรรมจะพบกับเหตุร้ายอะไรบ้าง

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

โยบ บทที่ 18 เมื่อโยบระบายถึงความสิ้นหวังของตน แต่ตัวเขาก็ยังหวังในพระเจ้า

แล้ว​บิล​ดัด ​ชาว​ชูอาห์ (เพื่อนที่พูดกับโยบ เป็นคนที่ 2 ในบทที่ 8 )​ ก็ตอบโยบ​ว่า

ทำไมโยบหาว่าพวกเขา​เป็น​สัตว์หรือเป็น​คน​โฉด​?
ด้วย​ความ​โกรธของโยบ โยบคิดจะ​ให้​แผ่น​ดิน​โลก​ถูก​ทอด​ทิ้ง​และ​ให้​ก้อน​หิน​โยก​ย้าย​จาก​ที่​ เพราะเห็นแก่โยบหรือ?
(เนื่องจาก ในโยบ 14:18 โยบกล่าวว่า “แต่​ภูเขา​ก็​ทลาย​ลง​และ​ผุ​พัง​ไป ก้อน​หิน​ก็​ถูก​ย้าย​ไป​จาก​ที่​ของ​มัน” ซึ่งความหมายคนละเรื่องกับที่บิลดัดเข้าใจเลย)

คน​อธรรม​
– จะพบกับชีวิตที่มืดมิด
– ครอบครัวของเขาก็จะมืดมิด
– ความเจริญก้าวหน้าของเขา จะไม่ยั่งยืน
– ​แผน​การ​ของ​เขาจะทำร้าย​เขา​เอง
– ตัวเขา​เองจะ​ตก​หลุม​พรางของคนอื่น
– เขาจะพบกับสิ่ง​น่า​กลัว​รอบ​ด้าน ที่ทำ​ให้​เขาหวาดกลัว
– เขาจะอดอยาก จนหมดเรี่ยวแรง
– ​เขาจะพบกับภัย​พิบัติ​
– เขาจะพบกับโรคร้าย
– เขาจะพบกับ​ความ​สยด​สยอง
– เขาจะสูญเสียทรัพย์สมบัติของ​เขา ​ไปจนหมด
– เขาจะพบกับความพินาศ
– แล้วจะไม่มีใครจดจำเขาอีกต่อไป
– ลูกหลานของเขาเองก็จะพบกับสิ่งเลวร้าย
– คนทั้งหลายก็จะ​ตก​ตะ​ลึงและหวาด​กลัว ​ด้วยเรื่องที่เกิดขึ้นกับ​เขา

1. ตั้งแต่บิลดัดพูดกับโยบครั้งแรกในบทที่ 8 เขามีความคิดว่า
โยบเป็นคนอธรรม จึงถูกพระเจ้าทำลาย
ดังนั้นไม่ว่าโยบพูดอะไรมา เขาจึงฟังไม่เข้าใจ
ทั้งหมดที่เขาได้ยิน เขาล้วนแต่นำมาสนับสนุนแนวคิดของเขา ว่า โยบเป็นคนอธรรม

การตั้งธงไว้ก่อนแล้วว่า “คนๆนั้นต้องเป็นเช่นนี้แน่ๆ”
จะทำให้เราไม่สามารถเข้าใจเขาได้ ตามที่เขาเป็นจริงๆ

ในการรับฟังคนอื่น จึงควรลดอคติลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

2. บิลดัด เข้าใจผิดโยบ จึงตำหนิโยบ แต่สิ่งที่เขาพูดก็ยังคงเป็นความจริงในฝ่ายวิญญาณ
– พระเจ้าผู้ทรงยุติธรรม จะจัดการกับคนชั่วร้าย
เขาจะไม่เจริญยั่งยืน ภัยจะมาถึงเขาและครอบครัว
ไม่ว่าเขาวางแผนอะไร ต่อให้ดูเหมือนจะสำเร็จ แต่สุดท้ายจะนำภัยมาสู่ตัวเขาเอง
ชีวิตของเขาจะเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และพบกับความพินาศ
ลูกหลานของเขาจะขาดพระพร
และ เรื่องราวของเขาจะทำให้คนทั้งหลายก็จะ​ตก​ตะ​ลึงและหวาด​กลัว

ในทางตรงกันข้าม
– พระเจ้าผู้ทรงยุติธรรม จะอวยพระพรคนที่เดินทางในของพระองค์
เขาจะเจริญขึ้นอย่างยั่งยืน แม้ภัยดูเหมือนจะเกิดกับเขาแต่ในที่สุดมันจะกลายเป็นพระพร
แผนการที่เขาวางไว้ จะเกิดผลสำเร็จ และนำพระพรมาสู่ตนเองและคนมากมาย
ชีวิตของเขาจะมีชัยเหนือความหวาดกลัว และไม่พินาศ
ลูกหลานของเขาก็จะได้รับพระพร
และ เรื่องราวของเขาจะทำให้คนทั้งหลายยำเกรงและสรรเสริญพระเจ้า

คำคม

“ คนอธรรมที่ไม่ยอมกลับใจ จะไม่มีวันรอดพ้นการลงโทษจากพระเจ้าได้ ”

สรุป โยบ 19

ภาพรวม

  • โยบบอกกับพวกเพื่อนๆว่า แม้เขาทุกข์ระทมเช่นนี้ เขาก็ยังหวังในพระเจ้า และถ้าพวกเพื่อนๆคอยซ้ำเติมเขา พวกเขาต้องระวังพระพิโรธจากพระเจ้าที่จะมาถึงพวกเขา

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

โยบ บทที่ 19 เมื่อบิลดัด ซึ่งคิดว่าโยบเป็นคนอธรรม เขาจึงพูดให้โยบฟังว่า คนอธรรมจะพบกับเหตุร้ายอะไรบ้าง

โยบ​จึงตอบพวกเขา ว่า

พวก​เขากำลัง​ทร​มาน และ​บด​ขยี้โยบ ​ด้วย​ถ้อย​คำ​ของพวกเขา
ทำไมพวกเขา​ไม่รู้สึกละ​อาย​บ้างเลย?

ถ้าโยบ​ทำ​ผิด​จริง ก็เป็นความ​ผิด​ของ​โยบ
แล้วพวกเขาก็ถือโอกาส ​ยก​ตัว​ข่มโยบ และ​ใช้​ความ​ต่ำ​ต้อย​ของโยบ​ปรัก​ปรำ​เขา
นั่นเป็นงานของพระเจ้า ไม่ใช่งานของพวกเขา

พระเจ้า​ทรงทำให้ไม่มีใครมาช่วยโยบได้
พระเจ้าทรงขวาง​กั้น​ทางไม่​ให้​โยบผ่านทางมืดมิด​ของเขา​ไปได้
พระเจ้า​ทรง​ปลด​ศักดิ์​ศรี​ไป​จากโยบ
พระเจ้า​ทรง​​ถอน​ความ​หวัง​ทั้งหมดของโยบออกไปเสีย
พระเจ้าทรงพระ​พิโรธ​ใส่​โยบ ราวกับเขาเป็นศัตรู​ของ​พระ​องค์
พระเจ้าทรง​ให้ญาติ ​พี่​น้อง​ หรือแม้แต่คนใช้ ​หมาง​เมิน​ ทอดทิ้ง และรังเกียจโยบ
พระเจ้าทรงทำให้โยบ เป็นที่น่า​ขยะ​แขยง​สำหรับ​ภรร​ยา​ของเขา
พระเจ้าทรงทำให้ แม้​เด็กๆ ก็​ยังดู​หมิ่น ​เย้ย​หยัน​โยบ
พระเจ้าทรงทำให้เพื่อนสนิทและบรรดาคนที่​โยบรัก ​รัง​เกียจเขา
พระเจ้าทรงทำให้เขาป่วยจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก

โยบจึงบอกเพื่อนของเขาว่า
สง​สาร​เขาเถิด เพราะถูก​พระ​เจ้า​จัดการก็หนักหนาสาหัสแล้ว
อย่า​โจมตีโยบ เหมือนอย่างที่พระเจ้าที่ทรงกระทำแล้วเลย

แต่​ในท่ามกลางเหตุการณ์เหล่านี้ โยบก็ยัง​ทราบ​ว่า
พระเจ้าทรงเป็นพระ​ผู้​ไถ่​ของ​เขา
และ​ใน​ที่​สุดเขา​จะได้พบกับ​พระ​เจ้าด้วยตัวของเขาเอง

ดังนั้นพวกเขา จงเกรงกลัวพระเจ้า มิฉะนั้นพระ​พิโรธจะมาถึงพวกเขา

1. เพื่อนของโยบคิดว่าสิ่งที่พวกเขาพูดกำลังช่วยโยบ
แต่ความจริงแล้วกลับกำลังทำร้ายโยบ
พวกเขาคิดว่าจะได้รับพระพร
แต่ความจริงแล้วพวกเขากำลังจะได้รับพระพิโรธ

การกระทำบางอย่างที่ดูเหมือนเป็นสิ่งดีในสายตาของเรา
อาจเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็ได้
ดังนั้นเราควรใช้พระคำของพระเจ้าเป็นบรรทัดฐานในการตัดสินใจกระทำหรือไม่กระทำสิ่งต่างๆ

2. โยบเชื่อว่าสิ่งสารพัดที่เกิดขึ้นกับเขา เป็นการกระทำโดยสิทธิอำนาจของพระเจ้า
ไม่ว่าจะเป็น ความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว การถูกทอดทิ้ง การถูกรังเกียจ การถูกดู​หมิ่น การพบภัยพิบัติต่างๆ และการเจ็บป่วยจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก

ถึงกระนั้นโยบยังคงยำเกรงพระเจ้า หวังใจในพระเจ้า และเชื่อว่าพระเจ้ายังคงเป็นผู้ไถ่ที่จะทรงช่วยเขา

วันนี้ ท่ามกลางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเรา
เรายังคงเลือกที่จะ ยำเกรงพระเจ้า หวังใจในพระเจ้า และเชื่อไว้วางใจในพระองค์อยู่หรือไม่?

3. โยบเตือนเพื่อนของเขาว่า แม้ต่อให้โยบจะทำผิด หน้าที่การลงโทษก็เป็นของพระเจ้า ไม่ใช่ของพวกเขา
การที่พวกเขามาซ้ำเติมโยบเช่นนี้ พระพิโรธของพระเจ้าจะตกมาสู่พวกเขา

ให้เรารู้ตัวอยู่เสมอว่า หน้าที่ของการพิพากษานั้น เป็นของพระเจ้า
อย่าทำตัวเป็นผู้พิพากษาเสียเอง แต่ให้มอบการตัดสินนั้นแก่พระเจ้าผู้ทรงยุติธรรม
หน้าที่ของเรา เพียงแต่เชื่อฟังและทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า นั่นก็เพียงพอแล้ว

คำคม

“ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเรา จงยังคงหวังใจในพระเจ้าต่อไปให้ถึงที่สุด ”

สรุป โยบ 20

ภาพรวม

  • โศฟาร์ เข้าใจว่าโยบเป็นคนอธรรมชั่วร้าย เขาจึงเตือนโยบให้รู้ถึงหายนะของคนอธรรม

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

โยบ บทที่ 20 เมื่อโยบบอกกับพวกเพื่อนๆว่า แม้เขาทุกข์ระทมเช่นนี้ เขาก็ยังหวังในพระเจ้า และถ้าพวกเพื่อนๆคอยซ้ำเติมเขา พวกเขาต้องระวังพระพิโรธจากพระเจ้าที่จะมาถึงพวกเขา

​โศ​ฟาร์ ​ชาว​นา​อา​เมห์​ จึงตอบ ​ว่า
เขาได้​ยิน​คำของโยบ ที่​ตำ​หนิ​และ​สบ​ประ​มาท​เขา เขาจึงขอพูดสักหน่อย
(ความจริงไม่ได้สบประมาทเขา เพียงแต่ขอให้อย่ามาพูดซ้ำเติมโยบ)

ตั้ง​แต่​ดึก​ดำ​บรรพ์​มา ชัยชนะและความ​ชื่น​บาน​ ​ของ​คน​อธรรม​นั้น​ สั้นแค่ครู่​เดียว
ไม่ว่าเขาจะ​สูง​ส่งเพียงใด
เขา​จะ​พินาศ​เป็น​นิตย์​อย่างน่าอับอาย
ลูก​หลาน​ของ​เขา​จะเป็นคนยากจนของ​คน​ยาก​จน
กำลังและเรี่ยวแรงของเขาจะสูญไป
ความ​ชั่ว​ร้าย​​ของ​เขา กลับ​กลาย​เป็นอันตรายต่อ​ตัว​เขาเอง
เขา​จะ​ไม่​ได้​ชื่น​ชม​ ผลงานที่เขาทุ่มเททำ หรือผลจากจาก​กำ​ไร​ของ​เขา
ความ​เจริญ​ของ​เขา​จะ​ไม่​ถา​วร
ความ​ทุกข์​ยาก​และความขัดสน จะ​มา​ถึง​เขา อย่างปัจจุบันทันด่วน
​พระเจ้าจะ​ทรง​ส่ง​พระ​พิโรธ​อัน​ดุ​เดือด​มา​ยัง​เขา
เมื่อหนีจากอันตรายอย่างหนึ่ง จะไปพบอันตรายอีกอย่างหนึ่ง
ทุกสิ่ง​ที่​เหลือ​อยู่​ในบ้าน​ของ​เขา​จะ​ถูก​เผา​ผลาญ
ฟ้า​สวรรค์​และ​แผ่น​ดิน​โลก สำ​แดง​ความ​บาป​ชั่ว​ของ​เขาให้ปรากฏ

นี่​เป็น​ส่วน​ของ​คน​อธรรม​ ​ที่​พระ​เจ้า​ทรง​กำ​หนด​ให้​แก่เขา

เพราะ​เขา​ได้​เอาเปรียบ​และ​ทอด​ทิ้ง​คน​จน
เพราะ​เขา​โลภ​​ไม่​รู้​จัก​พอ
เพราะเขา​ปล่อยตัวไปตามความปรา​รถ​นา​ของตน

1. โศ​ฟาร์ ได้พูดกับโยบ ในบทที่ 11 เขาเข้าใจผิดว่า โยบเยาะเย้ยพระเจ้า เขาจึงตำหนิโยบ และเรียกร้องให้โยบกลับใจใหม่
บทนี้ เขาก็เข้าใจผิดอีกว่า โยบสบประมาทเขา และด้วยสมมติฐานเดิม เขาจึงยิ่งมั่นใจว่า โยบเป็นคนอธรรมแน่นอน

ด้วยข้อสรุปในใจของเขา เขาจึงคิดว่า โยบคงเอาเปรียบ​และ​ทอด​ทิ้ง​คน​จน ​โลภ​​ไม่​รู้​จัก​พอ และ​ปล่อยตัวไปตามความปรา​รถ​นา​ของตนเอง

การสรุปด้วยการคิดในใจแบบไม่ได้เห็นด้วยตนเอง ว่า คนอื่นมีนิสัยไม่ดี ชั่วร้าย อย่างนั้นแน่ๆ
เป็นการใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น
ไม่ว่าคนนั้น จะเป็นคนที่มีนิสัย เราไม่ชอบสักเพียงใดก็ตาม
เราเองไม่ควรรีบตำหนิหรือตัดสินเขา โดยไม่ได้รับรู้ข้อความที่แท้จริงอย่างรอบด้านเสียก่อน

2. แม้ว่าโศฟาร์จะตำหนิผิดคน แต่ในคำพูดของเขา ก็เป็นความจริงในฝ่ายวิญญาณเกี่ยวกับคนอธรรม

– คนอธรรม อาจจะพบความเจริญ ชัยชนะและความ​ชื่น​บาน​ แต่ก็ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น
แล้วก็จะพบกับความพินาศอันน่าอับอายและโศกเศร้า
– ลูก​หลาน​ของ​คนอธรรม ที่ไม่กลับใจ จะไม่เจริญ
– ความ​ชั่ว​ร้าย​​ของคนอธรรม จะทำร้าย​ตัว​เขาเอง
– พระเจ้าจะ​ทรง​ส่งภัยอันน่ากลัว​มา​ยัง​เขา และเขาจะหนีไม่พ้น
– ในที่สุดความชั่วร้ายของเขาจะถูกเปิดเผยให้ปรากฏ

เมื่อเราทราบผลปลายทางของคนอธรรมเช่นนี้แล้ว
ก็อย่าให้เรา ริษยาคนชั่ว เพราะอีกไม่นานเขาจะได้รับสิ่งที่พวกเขาหว่านเอาไว้

แต่เราควรที่จะสงสารพวกเขา และพยายามช่วยพวกเขาให้กลับใจ
ก่อนที่หายนะ อันน่าสะพรึงกลัวจะมาถึงเขา

คำคม

“ ความเจริญของคนชั่วร้าย ไม่น่าอิจฉา แต่เราน่าจะสงสารเขา ”

สรุป โยบ 21

ภาพรวม

  • โยบชี้ให้เพื่อนๆของเขาเห็นว่า ในบางกรณีคนอธรรมก็เจริญขึ้น และพบกับความสุขสบายจนวันตาย พระเจ้าทรงมีแผนการสำหรับแต่ละคนไม่เหมือนกัน

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

โยบ บทที่ 21 เมื่อโศฟาร์ เข้าใจว่าโยบเป็นคนอธรรมชั่วร้าย เขาจึงเตือนโยบให้รู้ถึงหายนะของคนอธรรม

​โยบ จึง​ตอบ​ว่า
ขอฟังโยบพูดสักหน่อย ​แล้วถ้าจะเยาะเย้ยโยบ ก็​เยาะ​เย้ย​ต่อ​ไป​เถอะ
มอง​ดู​โยบสิ ว่าสิ่งเกิดขึ้นกับโยบน่าตก​ตะ​ลึงเพียงใด

โยบกล่าวต่อไปว่า
ทำไม​พวก​คน​อธรรม​จึง​มี​ชีวิต​อยู่จน​แก่​เฒ่า และ​เจริญ​​ขึ้น?
ลูก​หลาน​ของ​เขา​ก็ เจริญอยู่​ต่อ​หน้า​เขา
ครอบครัว​ของ​เขา​ก็​ปลอด​จาก​ความ​กลัว และ​ไม่พบการลงโทษจากพระ​เจ้า​
กิจการก็เจริญก้าวหน้า ครอบครัวล้วนมีความสุข
เขา​มั่งมี​ศรีสุข​ตลอด​วัน​เวลา​ของ​เขา และตาย​อย่าง​สงบ

แม้เขาปฏิเสธพระเจ้า ไม่ใส่ใจพระองค์ ไม่​อธิษ​ฐาน​ต่อ​พระ​องค์
เขาก็ยังพบกับความ​เจริญ
ความ​ยาก​ลำ​บาก​ ความเจ็บปวด และการลงโทษจากพระเจ้า ก็มา​เหนือ​เขา​น้อยครั้งเหลือเกิน

ถ้าเพื่อนๆของโยบคิด​ว่า
‘พระ​เจ้า​ทรง​สะสม​ความ​บาป​ชั่ว​ของ​เขา​ไว้​ให้​ลูก​หลาน​ของ​เขา’

​เขา​จะ​สน​ใจ​อะไร​เกี่ยว​กับลูกหลาน​ที่​เกิด​มา​ภาย​หลัง
ในเมื่อ​ตอนนั้น เขาก็จากโลกนี้ไป​แล้ว

พระเจ้าเป็นผู้กำหนดให้
คนหนึ่ง​ตาย​ เมื่อ​ยัง​แข็ง​แรง​เต็ม​ที่ สบาย​และ​ปลอด​ภัย​ทั้ง​สิ้น
อีก​คน​หนึ่ง​ตาย​ ด้วย​ใจ​ขม​ขื่น ไม่​เคย​ได้​ชิม​ของ​ดี

ถ้าเพื่อนๆของโยบจะพูดว่า
มีคนอธรรมที่พบแบบนี้ที่ไหน?
ก็ลองไปถามนักเดินทาง ที่เดินทางไปทั่วดูสิ ก็จะพบว่า
​ใน​คราว​ที่​เกิด​ภัย​พิบัติ​นั้น คน​อธรรม​มัก​รอด​ได้
ใน​วัน​แห่ง​พระ​พิโรธ เขา​ก็​ได้​รับ​การ​ช่วย​ให้​พ้น
แม้เมื่อเขาจากโลกนี้ไป ​หลุม​ศพของเขาก็ยัง​มี​ยาม​เฝ้า​ที่​อุโมงค์
สำ​หรับ​เขา ความตายก็เบา​สบาย และ​มีคนตายก่อนหน้าเขานับ​ไม่​ถ้วน

โยบจึงถามเพื่อนว่า
แล้ว​ ทำไมพวกเขายัง​จะ​มา​ปลอบ​ใจ​โยบ​ด้วย​สิ่ง​ว่าง​เปล่า ว่า คนอธรรมจะพบหายนะอีกเล่า?

1. โศฟาร์ บอกว่า คนอธรรมจะพบหายนะ โยบจึงชี้ให้เขาคิดดูดีๆ
วันนี้โยบกับพบกับความทุกข์ระทมแสนเข็น ซึ่งมีแต่พระเจ้าอนุญาตมันจึงจะเกิดขึ้นได้
แล้วจะสรุปได้จริงๆหรือว่า โยบเป็นคนอธรรม

เพราะว่ามีตัวอย่างของคนอธรรมชั่วร้ายบางคนที่
เจริญก้าวหน้าตลอดชีวิต พบแต่ความสุขสบาย
แทบไม่เจอสิ่งร้ายใดๆเลย
มีอายุยืนยาวนานจนแก่เฒ่า แล้วจากโลกนี้ไปอย่างสงบ

ดังนั้น ถ้ามีคนอธรรมบางคน พบแต่สิ่งดี
แล้วจะสรุปได้ยังไงว่า
โยบซึ่งพบแต่สิ่งร้าย เป็นคนอธรรมหรือคนชอบธรรม

เป็นไปได้ไหมว่า โยบเป็นคนชอบธรรมบางคน ที่พบแต่สิ่งเลวร้าย

จากมุมมองที่แคบเกินไปของโศฟาร์ ทำให้เขาประเมินโยบผิดพลาดไป
สิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำ เกินกว่าที่มนุษย์จะเข้าใจ
การพยายามตัดสินใคร ด้วยมุมมองของเราเพียงด้านเดียว
มีแนวโน้มที่จะตัดสินเขาผิด กลายเป็นการปรักปรำเขาได้

2. ในบทนี้ถ้าอ่านเผินๆ จะงง และผิดคาดมาก