ภาพรวม
- โยบบอกว่าคำพูดของเพื่อนๆไม่ช่วยอะไรเขาเลย ตอนนี้เขาทุกข์หนัก ขอพระเจ้าทรงให้ความทุกข์ของเขา ทำให้พระเจ้าทรงเมตตาเขาด้วยเถิด
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
โยบ บทที่ 16 เมื่อเอลีฟัสตำหนิโยบว่าเป็นคนอธรรม จึงได้รับผลร้ายเกิดขึ้นในชีวิตของโยบ
โยบ 16:1 แล้วโยบจึงตอบว่า
พวกเขา ช่างเป็นผู้ปลอบโยน ที่ทำให้คนทุกข์ใจ ยิ่งทุกข์ใจเพิ่มขึ้นอีก
เมื่อไรจะหยุดพูดเสียที?
ถ้าเขามาลองเป็นโยบดู โยบก็พูดเยาะเย้ยแบบเขาได้เหมือนกัน
โยบกล่าวต่อไปว่า
ถ้าโยบพูด ความเจ็บปวดก็ไม่บรรเทา
แต่ถ้าไม่พูดอะไรเลย ก็จะยิ่งทุกข์เข้าไปอีก
พระเจ้าทรงให้โยบเหนื่อยยาก และหดหู่ลง
ซึ่งสภาพเช่นนี้ และความผ่ายผอมของเขา
เป็นพยานใส่เขา ว่า
เขาเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงพิโรธและเกลียดชัง
ศัตรูก็มาโจมตีเขาด้วยคำพูด และตบแก้มประจานเขา และสุมหัวกันเล่นงานเขา
พระเจ้าก็ทรงมอบโยบให้แก่พวกเขา
เหมือนพระเจ้ากำลัง ฟาดเขาให้แหลกเป็นชิ้นๆ
และไม่เพลาพระหัตถ์เลย
พระองค์ทรงถล่มเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
โยบจึงเต็มไปด้วยความทุกข์ และศักดิ์ศรีก็หมดไป
เต็มไปด้วยการร่ำไห้
แม้ว่าโยบไม่ได้ทำการทารุณต่อผู้ใดเลย
และคำอธิษฐานของโยบก็ทำอย่างจริงใจ ไม่หน้าซื่อใจคต
บัดนี้โลหิตและเสียงร้องของโยบ
ได้เป็นพยานว่า โยบทุกข์ระทมเพียงใด
ขอให้พยานนั้นร้องทูลพระเจ้าเพื่อเขา
เพราะว่าอีกไม่นานเขาก็จะต้องตายแล้ว
1. โยบบอกเพื่อนเขาว่า ยิ่งพวกเขาปลอบใจโยบ โยบก็ยิ่งทุกข์ใจ
คำพูดของพวกเขาไม่เป็นประโยชน์ต่อโยบเลย
และที่พวกเขาห้ามไม่ให้โยบพูดกลับยิ่งเพิ่มความทุกข์ใจให้กับโยบ
สำหรับผู้ที่ทุกข์ใจ บางครั้งการไม่ต้องพูดอะไรเลย เพียงอยู่กับเขา และฟังที่เขาพูด
อาจจะเป็นประโยชน์ยิ่งกว่า คำพูดมากมายที่เราพยายามพูดกับเขา
2. โยบกำลังพบกับทุกข์อย่างหนักหน่วง
ราวกับว่า พระเจ้ากำลังโกรธ และเกลียดชังเขา
ราวกับว่าพระเจ้ากำลังโจมตีเขาอย่างไม่ยั้งมือ
แต่แทนที่เขาจะต่อว่าพระเจ้า หรือสาปแช่งพระองค์
เขากลับกล่าวว่า
ขอให้เลือดและน้ำตาของเขา เป็นเสียงร้องทูลขอความเมตตาจากพระเจ้า
คือ ขอให้สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา ช่วยทำให้พระเจ้าเมตตาเขาด้วยเถิด
สำหรับความเข้าใจของโยบ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเป็นการกระทำของพระเจ้า
แทนที่เขาจะต่อต้านพระเจ้า เขากลับถ่อมใจลงขอพระเมตตาจากพระองค์
วันนี้เมื่อเราเผชิญหน้ากับความทุกข์ยากลำบากอย่างหนึ่งอย่างใด
ให้เราถ่อมใจลงขอพระเมตตาจากพระเจ้า
แล้วเราจะพบว่าพระเมตตาของพระเจ้ามีมากมายเพียงพอสำหรับเรา
คำคม
“ ผู้ที่ขอพระเมตตา จะพบพระเมตตา ในเวลาแห่งพระเมตตา ”