สรุป โยบ 22

ภาพรวม

  • เอลีฟัสกล่าวหาว่าโยบเป็นคนอธรรมชั่วช้า ต้องกลับใจใหม่ จึงจะสามารถรอดพ้นภัยพิบัติในครั้งนี้ไปได้

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

โยบ บทที่ 22 เมื่อโยบชี้ให้เพื่อนๆของเขาเห็นว่า ในบางกรณีคนอธรรมก็เจริญขึ้น และพบกับความสุขสบายจนวันตาย พระเจ้าทรงมีแผนการสำหรับแต่ละคนไม่เหมือนกัน

​เอลี​ฟัส​ ชาว​เท​มาน​ เพื่อนของโยบที่พูดมา 2 ครั้งแล้ว ในบทที่ 4-5 และ 15 ตอบ​ว่า

การกระทำใดๆของมนุษย์ ก็ไม่สามารถ​เป็น​ประ​โยชน์แด่​พระ​เจ้า​ได้
ไม่ว่ามนุษย์จะ​ฉลาด หรือจะชอบธรรม หรือจะเป็นคนดี ​ก็ตาม

เอลีฟัสกล่าวว่า
เขาไม่เชื่อว่าเพราะโยบ​ยำ​เกรงพระเจ้า พระ​องค์​จึง​ทรง​กล่าว​โทษ​ และ​ทำให้ภัยพิบัติเกิดขึ้นกับโยบ
โยบต้องทำความ​ชั่ว​​ใหญ่​โตแน่นอน
โยบคงจะเอาเปรียบ​พี่​น้อง และคนยากจน
โยบคงไม่ยอมช่วยเหลือ คนที่​หิวโหย
โยบคงเอาเปรียบและโกงที่ดินของหญิงม่าย และลูกกำพร้า
โยบคงคิดว่า พระเจ้าทรงไม่ทราบสิ่งที่โยบทำ โยบจึงดำเนินในทางของคนชั่ว

ดังนั้น​กับ​ดัก​และความหวาดกลัว จึงอยู่​รอบโยบเต็มไปหมด และ​ความ​กลัว​อย่าง​ฉับ​พลัน​ก็​ท่วม​ทับ​ท่าน
คนชั่วย่อมตายก่อน​เวลา​กำ​หนด ทุกสิ่งที่เป็นของ​เขา​ก็ถูก​กวาด​ล้าง​ไป

คน​ชอบ​ธรรม​จะเห็น​และ​ยินดี

หากโยบกลับใจมา คืนดีกับพระเจ้า แล้ว​สิ่ง​ดี​จะ​มา​ถึงโยบ
และชีวิตของโยบจะได้รับการซ่อมแซม

โยบควรยอมรับคำ​สั่ง​สอน​ของพระเจ้า และ​เก็บรักษา​ไว้​ใน​ใจ​

ถ้าโยบ​ถือ​ว่าทรัพย์สินเงินทอง​เป็น​เหมือน​ผง​คลี​ดิน
และ​ถ้า​ถือว่า พระเจ้า​เป็น​สิ่ง​ล้ำค่าของ​โยบ แล้วแสวงหาพระองค์ด้วยเต็มใจ
แล้ว​พระ​องค์​จะ​ทรง​ฟัง​คำอธิษฐานของโยบ
และสิ่งต่างๆที่ทำก็​จะ​สำ​เร็จ​สม​ประ​สงค์
และ​จะ​มี​​ทาง​ในชีวิตสำหรับโยบ

เพราะ​พระ​เจ้า​ทรง​กด​ผู้​เย่อ​หยิ่ง​ลง​ต่ำ
แต่​พระ​องค์​ทรง​ช่วย​คน​ถ่อม​ใจ​ให้​รอด

1. เอลีฟัสยังคงพูดในแนวคิดเดิม คือเขาคิดว่าโยบคงเป็นคนอธรรม จึงพบเจอเหตุร้ายถึงเพียงนี้
แต่ในบทนี้ เขาพูดอย่างมั่นใจในแนวคิดของเขาว่า
โยบต้องเป็นคนชั่วช้าแน่ๆ คงจะรังแกคนยากจน ไม่เมตตาผู้เดือดร้อน และเอาเปรียบคนไม่มีทางสู้ แน่ๆ
เขาจึงบอกโยบว่าต้องกลับใจใหม่ ที่บาปชั่วเสีย กลับมาหาพระเจ้า
ชีวิตโยบจึงจะดีขึ้นได้

เอลีฟัสไม่เคยเห็นหรือได้ยินข่าวว่า โยบทำชั่วช้า เลย
แต่เขากลับกล่าวอย่างมั่นใจ
ที่เป็นเช่นนั้น อาจจะเป็นเพราะว่า เขายึดแนวคิดของเขาที่เคยรู้มาเป็นใหญ่
ไม่เชื่อว่า พระเจ้าจะทำอะไรนอกเหนือจาก สิ่งที่เขาเคยรู้ เคยเข้าใจมาได้
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงตัดสินโยบอย่างคลาดเคลื่อนอย่างยิ่ง

สิ่งที่เรารู้และเคยเข้าใจมานั้น ไม่มีทางมากพอที่จะเข้าใจแผนการของพระเจ้าได้
ดังนั้นเราไม่ควรตัดสินผู้อื่นก่อนถึงเวลาอันสมควร คือเวลาที่พระเยซูคริสต์เสด็จกลับมา

1คร. 4:5 “ฉะนั้น​อย่า​ตัด​สิน​สิ่ง​ใด​ก่อน​ถึง​เวลา จง​คอย​จน​กว่า​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เสด็จ​มา พระ​องค์​จะ​ทรง​เปิด​เผย​สิ่ง​ที่​ซ่อน​อยู่​ใน​ความ​มืด และ​จะ​ทรง​เผย​ความ​มุ่ง​หมาย​ของ​จิต​ใจ​ทั้ง​หลาย เมื่อ​นั้น​แต่​ละ​คน​จะ​ได้​รับ​คำ​ชม​เชย​จาก​พระ​เจ้า”

2. แม้เอลีฟัสจะเข้าใจผิด จึงกล่าวหาโยบแบบผิดๆ แต่ในคำพูดของเขาก็มีความจริงฝ่ายวิญญาณอยู่ด้วย
– ไม่ว่ามนุษย์จะทำอะไรก็ตาม ก็ไม่ได้ทำให้สิ่งนั้นเป็น​ประ​โยชน์ต่อพระ​เจ้า​ได้เลย
บางคนเข้าใจผิดว่า ที่เขาทำโน่นนี่นั่น ที่เรียกกันว่ารับใช้พระเจ้านั้น
เขาได้ทำคุณประโยชน์ต่อพระเจ้ามากมายนักหนา
เขาหารู้ไม่ว่า พระเจ้าทรงทำให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นได้ ดีกว่าที่เขาทำเป็นล้านเท่า โดยไม่ต้องพึ่งเขาเลย

– การเอาเปรียบผู้อื่น การไม่เมตตาผู้ขัดสน การข่มเหงคนที่อ่อนแอกว่า สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่พระเจ้าไม่พอพระทัย

– คนบาปที่กลับใจ จะได้รับการซ่อมแซมชีวิตขึ้นมาใหม่

– ผู้ที่แสวงหาพระเจ้าอย่างสุดใจ จะถือว่า พระเจ้า​เป็น​สิ่ง​ล้ำค่ากว่า ทรัพย์สินเงินทอง และสิ่งใดๆ

– พระ​เจ้า​ทรง​ช่วยผู้ที่ถ่อมใจ แต่จะกด​ผู้​เย่อ​หยิ่ง​ให้​ต่ำลง

คำคม

“ ผู้แสวงหาพระเจ้าอย่างสุดใจ จะใช้เวลาและพลัง
ในการแสวงหาพระเจ้า มากกว่า แสวงหาเงินทองและสิ่งใดๆ ”