ภาพรวม
- พระเจ้าตรัสถามโยบถึง สิ่งที่เกินเข้าใจ ที่เกิดกับสัตว์บางชนิด ซึ่งโยบเองก็ไม่เข้าใจว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
โยบ บทที่ 39 เมื่อพระเจ้าตรัสถามโยบ ว่าเขาทำอะไรได้บ้างในสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำ และรับรู้อะไรบ้างในสิ่งที่พระองค์ทรงทราบ ซึ่งแน่นอนโยบทำอะไรไม่ได้เลย และไม่รู้อะไรเลย
พระเจ้าทรงถามโยบต่อไป ว่า
โยบรู้เรื่อง การตกลูกของเลียงผา หรือ กวางตัวเมีย หรือไม่?
โยบรู้เวลาเมื่อมันตกลูกไหม?
ใครเป็นผู้ปล่อยให้ลาป่าวิ่งกระเจิงไป ให้มันสำรวจภูเขาอันเป็นลานหญ้าของมัน?
กระทิงยอมรับใช้โยบหรือเปล่า?
โยบรู้ไหมว่า ทำไมปีกของนกกระจอกเทศ จึงไม่เหมือนปีกของนกกระสาดำ?
โยบรู้ไหมว่า ทำไมพระเจ้าทรงทำให้นกกระจอกเทศลืมปัญญา และไม่มีความเข้าใจ ทั้งที่มันวิ่งได้เร็วกว่าม้า?
โยบได้ให้พลังแก่ม้าหรือเปล่า?
โยบเป็นผู้ทำให้ม้ามีขนที่คอของมันหรือเปล่า?
โยบได้ทำให้ม้า เป็นสัตว์ที่เหมาะแก่การใช้ในสงครามหรือเปล่า?
โดยสติปัญญาของโยบ เหยี่ยวนกเขาจึงโผบินไปมาหรือ?
นกอินทรี ทำตามคำสั่งของโยบหรือ มันจึงทะยานขึ้น และทำรังบนที่สูง?
และใครทำให้ตาของมันเห็นเหยื่อได้แต่ไกล
1. พระเจ้าพูดถึงสิ่งต่างๆที่พระองค์ทรงกระทำ ที่โยบรู้จักหรือเห็นได้ แต่โยบสามารถทำได้เลยสักอย่างเดียว
สิ่งต่างๆที่เราเห็นพระเจ้าทรงกระทำในธรรมชาติเกินกว่าที่เราจะเข้าใจได้
แล้วในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ ที่พระเจ้าทรงกระทำตามแผนการนิรันดร์ของพระองค์นั้น
เราจะยิ่งเข้าใจน้อยมากสักเพียงใด
ในเมื่อเราไม่มีทางเข้าใจได้
วิธีที่ดีที่สุดสำหรับเราคือ ไว้วางใจในพระเจ้า เชื่อใจในความรักของพระองค์ที่มีต่อเรา
แล้วขอบคุณพระเจ้าด้วยความเชื่อ สำหรับเหตุการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่นี้
2. โยบไม่ได้ให้ปัญญาแก่สรรพสัตว์(ซึ่งฉลาดน้อยกว่ามนุษย์)
แต่พวกมันก็ยังมีสติปัญญาทำบางอย่าง ที่โยบเองก็ไม่มีทางเข้าใจได้
แล้วพระองค์ผู้ประทานปัญญานั้นแก่สรรพสัตว์
จะมีพระสติปัญญาสูงยิ่งกว่าโยบมากมายสักเพียงใด
สัตว์ที่ฉลาดน้อยกว่ามนุษย์
เมื่อรับปัญญาจากพระเจ้าก็สามารถทำในสิ่งที่มนุษย์ไม่อาจเข้าใจได้
พระสติปัญญาของพระเจ้าสูงเกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้
การเชื่อฟังคำแนะนำของพระองค์ ที่ปรากฏในพระคำของพระองค์
จึงทำให้เราได้รับปัญญา สูงยิ่งกว่าปัญญาที่เราจะจินตนาการได้เสียอีก
คำคม
“ สิ่งที่มนุษย์คิดไม่ถึง ก็ไม่ได้หมายความว่า พระเจ้าจะทำสิ่งนั้นไม่ได้ ”