ภาพรวม
- โยเอล บทที่ 2 พระเจ้าเรียกให้คนอิสราเอล รีบกลับใจ ละทิ้งบาป หันกลับมาแสวงหาพระเจ้า และรับการอภัย ก่อนที่วันแห่งการพิพากษาของพระเจ้าจะมาถึง
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
โยเอล บทที่ 2
พระเจ้าตรัสว่า
จงเป่าเขาสัตว์ในศิโยนเพื่อเตือนภัย
ให้ทุกคนในแผ่นดินตัวสั่น เพราะวันแห่งพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว
เป็นวันที่มืดทึบ
กองทัพที่ใหญ่โตและทรงพลังยิ่ง และน่าสะพรึงกลัวกำลังบุกมา
ไม่มีอะไรรอดพ้นจากมันได้เลย
ใบหน้าของทุกคนที่เห็นพวกมัน จะซีดเซียว
พวกมันตะลุยฝ่าอาวุธ และไม่มีอะไรอาจยับยั้งได้
พวกมันจะบุกเข้าไปในบ้าน เยี่ยงโจร
แผ่นดินโลกสั่นไหวต่อหน้ามัน
กองทัพใหญ่โตนั้น ทำตามคำบัญชาของพระองค์
เพราะว่าวันแห่งพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่ และน่ากลัวอย่างยิ่ง ใครเล่าจะทนอยู่ได้?
พระเจ้าตรัส ว่า
ถึงกระนั้นก็ดี บัดนี้ คนอิสราเอล จงกลับมาหาเราด้วยสุดใจ
ด้วยการอดอาหาร และการร้องไห้
จงฉีกใจ ไม่ใช่ฉีกเสื้อของตน
จงกลับมาหาพระเจ้า
เพราะว่าพระองค์ทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและพระกรุณา
พระองค์กริ้วช้าและบริบูรณ์ด้วยความรักมั่นคง
และเปลี่ยนพระทัยไม่ลงโทษ
จงรวบรวมประชาชน ผู้ใหญ่ และเด็กๆ แม้แต่เด็กที่ยังกินนม
ให้มาร้องทูลต่อพระเจ้า
แล้วจะทรงสงสารประชากรของพระองค์
พระองค์จะส่งข้าว เหล้าองุ่น และความอิ่มหนำสำราญ มาให้พวกเขา
พวกเขาจะไม่ถูกเยาะเย้ยท่ามกลางประชาชาติอีก
พวกเขาจะไล่ศัตรู ให้ห่างไกลจากพวกเขา
อย่ากลัวเลย จงยินดีและเปรมปรีดิ์เถิด
เพราะพระยาห์เวห์ทรงทำการใหญ่โตมาก
โอ บุตรทั้งหลายของศิโยนเอ๋ย
จงยินดีเถิด จงเปรมปรีดิ์ในพระเจ้า
เพราะว่าพระองค์ประทานฝนต้นฤดูแก่เจ้า เพื่อแสดงความชอบธรรม
และทรงเทฝนลงมาให้พวกเจ้า คือ
ฝนต้นฤดูและฝนชุกปลายฤดูอย่างแต่ก่อน
พระเจ้าจะชดเชยปีเดือนของพวกเขา ที่ถูกทำลายไป
พวกเขาจะรับประทานอย่างอิ่มหนำ
และสรรเสริญพระเจ้า ผู้ทรงทำกับพวกเขาอย่างอัศจรรย์
พวกเขาจะรู้ว่า พระเจ้าทรงอยู่ท่ามกลางอิสราเอล
ประชากรของพระเจ้า จะไม่ต้องอับอายอีกต่อไป
และต่อมาภายหลังจะเป็นอย่างนี้ คือ
พระเจ้าจะเทวิญญาณของพระองค์มาเหนือมนุษย์ทุกคน ทั้งชายและหญิง
พวกเขาจะเผยพระวจนะ จะฝัน และจะเห็นนิมิต
แล้วพระเจ้าจะสำแดงการอัศจรรย์ในท้องฟ้าและบนแผ่นดิน
เป็นเลือด เป็นไฟและลำควัน
ดวงอาทิตย์จะกลายเป็นความมืด ดวงจันทร์กลายเป็นเลือด
ก่อนวันแห่งพระเจ้าจะมาถึง คือ
วันอันยิ่งใหญ่และน่าสยดสยอง
แล้ว ทุกคนที่ร้องทูลออกพระนามขอพระเจ้า จะรอด
ในบรรดาคนที่เหลืออยู่นั้น จะเป็นคนที่พระเจ้าทรงเรียก
1. เมื่อวันแห่งการพิพากษามาถึง เป็นวันที่น่ากลัวอย่างยิ่ง ใครเล่าจะทนได้?
ดังนั้นก่อนวันนั้นจะมา พระเจ้าจึงเรียกให้คนอิสราเอลกลับใจ เพื่อจะรอดพ้นความน่าสะพรึงกลัวนั้น
ด้วยการกลับใจอย่างจริงใจ ไม่ใช่เพียงแค่พิธีกรรมภายนอก
แล้วแทนที่พวกเขาจะพบหายนะ แต่จะพบกับพระเมตตาและพระพรจากพระเจ้า
วันนี้ เราเข้าใกล้วันแห่งการพิพากษาโลก เข้าไปทุกทีแล้ว
พระเจ้าไม่ประสงค์ให้ใครต้องพินาศเลย
จึงประทานทางออกให้ โดยทางพระเยซูคริสต์
ให้เรารีบช่วยคนให้พ้นจากความพินาศด้วยการนำพวกเขามาถึงความรอดในพระเยซูคริสต์
2. พระเจ้าทรงสัญญาว่า จะทรงเทฝนลงมาให้ประชากรของพระองค์
เป็นฝนต้นฤดูและฝนชุกปลายฤดู
ในคริสตจักรยุคแรกพระวิญญาณบริสุทธิ์ เทลงมาท่ามกลางเหล่าสาวก
และเกิดการฟื้นฟู คนมากมายได้กลับใจมาหาพระเจ้า
แล้วเรื่องจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ห่างหายไปจากคริสตจักรนับพันปี
ในช่วง ไม่กี่ศตวรรษที่ผ่านมา มีการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในคริสตจักรทั่วโลกอย่างมากมายอีกครั้ง
เป็นเหมือนดังฝนชุกปลายฤดู
ทำให้เรารู้แน่ว่า วาระสุดท้ายของยุคนี้กำลังจะมาถึงแล้ว
ให้เราเร่งทำงานที่พระเจ้าทรงมอบให้แก่เรา โดยไม่รอช้าอีกต่อไป
3. พระเจ้าทรงสัญญาว่า ถ้าอิสราเอลกลับใจใหม่ พระองค์จะชดเชยปีเดือนของพวกเขา ที่ถูกทำลายไปนั้น
วันนี้ก็เช่นกัน หากความบาป หรือการถอยห่างจากพระเจ้า ทำให้เราพบกับความสูญเสียบางอย่าง
หากเรากลับใจใหม่อย่างแท้จริง พระเจ้าจะทรงชดเชยสิ่งที่เสียไปนั้นให้แก่เรา
คำคม
“ การกลับใจ ต้องเริ่มจากข้างในใจ ไม่ใช่จากคำพูด ”