ภาพรวม
- โฮเชยา บทที่ 8 พระเจ้าทรงตำหนิอิสราเอลที่ละทิ้งการแสวงหาพระเจ้า ไปแสวงหารูปเคารพ
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
โฮเชยา บทที่ 8
พระเจ้าตรัสกับโฮเชยา เกี่ยวกับอิสราเอล ว่า
เพราะพวกเขาได้หักพันธสัญญา และละเมิดธรรมบัญญัติของพระเจ้า
ดังนั้นอินทรีตัวหนึ่ง(อัสซีเรีย)จึงมาเหนือพระนิเวศของพระเจ้า
อิสราเอลร้องทุกข์ต่อพระเจ้า และกล่าว่าพวกเขารู้จักพระองค์
แต่พวกเขาได้ปฏิเสธความดีเสีย แล้วจะบอกว่า รู้จักพระเจ้าได้อย่างไร
พวกเขาได้แต่งตั้งกษัตริย์(เยโรโบอัม) แต่พระเจ้ามิได้เสนอให้ทำ
พวกเขาได้สร้างรูปลูกวัว เพื่อนมัสการ
ทำให้ความกริ้วของพระเจ้าพลุ่งขึ้นต่อพวกเขา
เพราะเขาหว่านลม เขาจึงต้องเกี่ยวพายุหมุน
พืชของพวกเขาจึงไม่เกิดผล และที่เกิดผลนั้น คนต่างด้าวก็เอาไปกินเสีย
พวกเขาอยู่ท่ามกลางบรรดาประชาชาติ เป็นเหมือนภาชนะไร้ประโยชน์
พวกเขาขึ้นไปหาอัสซีเรีย พยายามนมัสการรูปเคารพของอัสซีเรีย
แต่ไม่เป็นประโยชน์อะไรต่อพวกเขา
พวกเขาเริ่มลดน้อยถอยลง
พวกเขาได้สร้างแท่นบูชาเพิ่มขึ้น กลับทำบาป
เพราะเป็นแท่นบูชารูปเคารพ
ถึงพวกเขาจะเขียนธรรมบัญญัติไว้ให้สักหมื่นข้อ
พวกเขาก็จะถือว่าเป็นเพียงของแปลก
พวกเขาถวายเครื่องบูชาแด่พระเจ้า
แต่พระองค์มิได้พอพระทัยพวกเขา
พระองค์จะทรงลงโทษพวกเขาเพราะบาปของพวกเขา
แล้วพวกเขาจะกลับไปยังอียิปต์
พวกเขาได้ลืมผู้สร้างของตนแล้ว
พระเจ้าจึงจะส่งไฟมาเผาเมืองทั้งหลายของเขาเสีย
1. คนอิสราเอลร้องทุกข์ต่อพระเจ้า แต่ปฏิเสธที่จะทำตามสิ่งที่พระเจ้าบอกให้ทำ
(ยังคงเอาลูกของตนมาเผาบูชายันต์รูปเคารพอยู่ดี)
พวกเขาคิดว่า ตนรู้จักพระองค์ แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย
ดังนั้นแทนที่พวกเขา จะได้รับการช่วยกู้
แต่กลับได้รับการลงโทษจากพระเจ้า ตามความบาปชั่วของพวกเขา
คำอธิษฐานของคนที่ไม่ยอมกลับใจ จะไม่นำการเปลี่ยนแปลงใดๆมาสู่สถานการณ์ของเขา
2. ไม่ว่าพระเจ้าจะประทานธรรมบัญญัติ มากสักเท่าใด ให้แก่คนอิสราเอล เพื่อสอนทางที่ถูกต้องแด่พวกเขา
พวกเขาก็ไม่สนใจใยดีอยู่ดี
เพราะพวกเขาไม่ฟังสิ่งที่พระเจ้าบอก
พระเจ้าจึงไม่ฟังสิ่งที่พวกเขาร้องทูล
3. คนอิสราเอลได้ลืมผู้สร้างของตน
แล้วไปแสวงหาการช่วยเหลือ จากสิ่งอื่น
พวกเขาจึงพบแต่ความว่างเปล่า และความพินาศ
อย่าให้เราลืมพระเจ้าของเรา
ทุกครั้งที่พบปัญหา ให้เรากลับมาหาพระเจ้า
ร้องทูลขอความช่วยเหลือจากพระองค์ และรับฟังคำแนะนำจากพระองค์
คำคม
“ การรับใช้พระเจ้า ที่พระองค์พอพระทัย คือ การรับใช้อย่างเชื่อฟังพระองค์ ”