ภาพรวม
- ดาวิดออกจากฟิลิสเตีย กลับมาอยู่ในอิสราเอล จึงมีหลายคนมาเข้าร่วมกับดาวิด
ส่วนซาอูลโกรธปุโรหิตที่ให้อาหารและดาบแก่ดาวิด จึงสั่งฆ่าทิ้งทั้งเมือง
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
1 ซามูเอล บทที่ 22 หลังจากดาวิดหนีการตามฆ่าของซาอูลไปขออาหารและอาวุธจากปุโรหิตที่เมืองโนบ และก็หนีต่อไปยังฟิลิสเตีย
ต่อมาดาวิดก็ออกจากที่นี่ หนีไปอยู่ที่ถ้ำอดุลลัม
บรรดาญาติๆของดาวิด รวมทั้งคนที่มีความทุกข์ยาก ก็มาร่วมกับดาวิด ประมาณ 400 คน
ดาวิดก็ออกจากที่นั่นไปยังเมืองมิสปาห์ในโมอับ
แล้วฝากพ่อแม่ของเขาไว้กับพระราชาแห่งโมอับ
แล้วผู้เผยพระวจนะกาด พูดกับดาวิดว่า
ให้ออกจากที่กำบังเข้มแข็ง เข้าไปในแผ่นดินยูดาห์
ดาวิดจึงไปอยู่ในป่าเฮเรท
ต่อมาซาอูลทรงทราบว่ามีผู้พบดาวิด
ซาอูลจึงตำหนิพวกมหาดเล็ก ที่ไม่ได้รีบแจ้งเรื่องนี้แก่พระองค์
โดเอกคนเอโดม จึงทูลตอบว่า
เขาเห็นดาวิดมาหาอาหิเมเลค ปุโรหิต
แล้วอาหิเมเลคก็ทูลถามพระเจ้าให้ดาวิด และให้เสบียงอาหาร และให้ดาบของโกลิอัทแก่ดาวิด
ซาอูลจึงเรียกอาหิเมเลค และพงศ์พันธุ์บิดาของท่านทั้งสิ้น ให้มาหา
แล้วตำหนิอาหิเมเลค ว่า ร่วมกับดาวิดกบฏต่อพระองค์
แม้อาหิเมเลค พยายามอธิบาย แต่ซาอูลก็ไม่ฟัง
รับสั่งให้ราชองครักษ์ ฆ่าพวกปุโรหิตของพระเจ้า ให้หมด
แต่พวกเขาไม่ยอมลงมือ
ซาอูลจึงสั่งโดเอก ให้ลงมือแทน
โดเอกคนเอโดม ได้ฆ่าปุโรหิตที่สวมเอโฟดผ้าป่านเสีย 85 คน
และเขายังประหารชาวเมืองโนบ ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก และเด็กกินนม รวมทั้งสัตว์เลี้ยงในเมืองนั้นอีกด้วย
แต่อาบียาธาร์ บุตรของอาหิเมเลค หนีรอดไปหาดาวิด
ดาวิดจึงพูดกับเขาว่า
ในวันนั้น ดาวิดก็นึกแล้วเชียวว่า โดเอกคนเอโดม จะทูลซาอูลแน่ ดาวิดไม่น่าปล่อยเขาไปเลย
ดาวิดจึงบอกให้อาบียาธาร์อยู่กับดาวิด เพื่อจะได้ปลอดภัย
1. เพราะเหตุดาวิดกำลังประสบความทุกข์ยาก จึงทำให้คนที่กำลังทุกข์เหมือนกัน กล้าที่จะเข้ามาหาดาวิด
แล้วดาวิดจึงกลายเป็นผู้นำของพวกเขา
เมื่อพระเจ้าทรงนำเรา ให้ไปอยู่ในสถานะใดๆ
พระองค์ทรงมีแผนการที่ดีสำหรับเราในสถานะนั้นเสมอ
เพียงแค่ให้เราตอบสนองอย่างถูกต้อง ตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ก็เพียงพอแล้ว
เมื่อดาวิดหนีไปพึ่งกษัตริย์ฟิลิสเตีย ที่ดูเหมือนจะปลอดภัย แต่เขากลับพบความอับอาย
เมื่อดาวิดกลับมาที่ถ้ำอดุลลัม ดินแดนของยูดาห์ ดูเหมือนจะอันตราย แต่เขากลับปลอดภัยยิ่งขึ้น เพราะมีพรรคพวกเพิ่มขึ้นถึง 400 คน
ไม่มีที่ใดอันตราย หากเราทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า
และไม่มีที่ใดปลอดภัย เมื่อเราขัดขืนน้ำพระทัยของพระองค์
2. เมื่อดาวิดออกจากแผ่นดินอิสราเอล ไปอาศัยในที่กำบังเข้มแข็ง ในโมอับ
พระเจ้าทรงสั่งให้เขาออกจากที่นั่น กลับเข้าไปในแผ่นดินยูดาห์
เขาก็เชื่อฟัง แต่พอกลับมาก็ไม่มีที่หลบภัยได้ ต้องไปอาศัยอยู่ในป่า
เมื่อเชื่อฟังพระเจ้า บางครั้งอาจอันตรายขึ้น ลำบากขึ้น
แต่นั่นก็เป็นโอกาสพิสูจน์การเชื่อฟังของเราที่มีต่อพระองค์
3. แม้แต่ราชองค์รักษ์ของซาอูล ยังไม่กล้าแตะต้องปุโรหิตของพระเจ้า
แต่ซาอูลกลับไม่ยำเกรงพระเจ้า สั่งฆ่าปุโรหิตเหล่านั้น
และยังให้คนเอโดม ไปฆ่าคนในเมืองของปุโรหิตเหล่านั้นทั้งผู้หญิงและเด็ก และทารก
ซึ่งการกระทำนี้ จะนำการลงโทษจากพระเจ้ามาถึงซาอูลและวงศ์วานของเขา
และการกระทำนี้ทำให้เห็นว่า การที่พระเจ้าผู้ทรงทราบล่วงหน้า ทรงตัดสินพระทัยถอดซาอูลนั้นเป็นสิ่งที่ชอบธรรมแล้ว
และการกระทำนี้ ทำให้ซาอูล ไม่เหลือปุโรหิตอยู่เคียงข้างเขา แต่กลับทำให้ดาวิดมีอาบียาธาร์ ปุโรหิต อยู่เคียงข้าง
การตัดสินของพระเจ้า ผู้ทรงสัพพัญญู ทรงยุติธรมและถูกต้องเสมอ
การกระทำของคนชั่วร้าย ตัวเขาเองจะได้รับผลร้ายของมัน
แต่พระเจ้าจะทรงทำให้การกระทำนั้นกลับกลายเป็นผลดีต่อผู้ยำเกรงพระองค์
เมื่อเห็นคนทำชั่ว อย่าอิจฉา เพราะในไม่ช้าเขาจะรับผลแห่งการกระทำของเขาเอง
แต่เราจงยำเกรงพระเจ้าต่อไป ไม่ว่าคนอื่นจะทำชั่วเพียงใด ในที่สุดเราจะได้รับพระพร
คำคม
“ การกระทำของคนชั่ว จะนำผลร้ายมาสู่คนชั่ว และนำผลดีมาสู่ผู้ยำเกรงพระเจ้า ”