ภาพรวม
- หลังจากซามูเอลเสียชีวิตแล้ว ดาวิดก็ไปอยู่ในถิ่นทุรกันดารปาราน และได้พบกับอาบีเกล ซึ่งต่อมานางได้มาเป็นภรรยาของดาวิด
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
1 ซามูเอล บทที่ 25 หลังจากที่ดาวิดไว้ชีวิตซาอูลที่เอนเกดีแล้ว ซาอูลก็ยกทัพกลับไป
ต่อมาซามูเอลก็สิ้นชีวิต
และถูกฝังไว้ในบ้าน ที่รามาห์
ส่วนดาวิดก็ไปยังถิ่นทุรกันดารปาราน
คราวนั้นดาวิดได้ส่งคนไปขอเสบียงจาก นาบาล เศรษฐีแห่งคารเมล
ซึ่งกำลังจัดงานเลี้ยงใหญ่โตอยู่
นาบาล เป็นคนประพฤติตัวเลวทราม
แต่มีภรรยา ที่ฉลาดและสวยมาก ชื่อ อาบีกายิล
เมื่อคนของดาวิดมาพบนาบาล
ก็บอกให้นาบาลทราบว่า
คนของดาวิดคอยคุ้มกัน คนตัดขนแกะของนาบาลตลอด เมื่อพวกเขาอยู่ในถื่นทุรกันดาร
นาบาลตอบว่า
ดาวิด ไม่ใช่คนสำคัญอะไรเลย ก็แค่คนใช้ที่หนีไปจากนายของตน
จึงไม่คู่ควรจะได้อาหารของเขา
คนของดาวิดจึงไปแจ้งแก่ดาวิด
ดาวิดก็กล่าวว่า
เขาได้เฝ้าขอดูแลสมบัติของนาบาลในถิ่นทุรกันดาร
แต่นาบาลยังกระทำความชั่วตอบแทนความดีของเขา
ดังนั้นก่อนรุ่งเช้า ดาวิดจะฆ่าชายทุกคนที่อยู่กับนาบาล
ดาวิดจึงนำผู้ติดตาม 400 คน พร้อมอาวุธตรงมาหานาบาล
ส่วนคนของดาวิดอีก 200 คน อยู่เฝ้ากองสัมภาระ
มีคนมาบอกนางอาบีกายิล ถึงสิ่งที่นาบาลทำกับคนของดาวิด
นางจึงรีบจัดขนมปัง และเหล้าองุ่น เสบียงต่างๆ บรรทุกหลังลา
แล้วเดินทางออกไปพบดาวิด
เมื่อนางพบดาวิดระหว่างทาง
นางก็รีบลงจากหลังลา กราบลงถึงดินต่อดาวิด แล้วกล่าวว่า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นความผิดของนางคนเดียว
ขออย่าได้เอาความกับนาบาลเลย
เพราะนาบาลเป็นคนโง่เขลา สมกับชื่อของเขา
เนื่องจากนางไม่ทราบเรื่อง จึงทำให้คนของดาวิดไม่ได้ต้อนรับอย่างเหมาะสม
ขอพระเจ้าทรงป้องกันดาวิดจากความผิดที่ทำให้โลหิตตก
และจากการแก้แค้นด้วยมือของตนเอง
นางขอมอบเสบียงทั้งหมดที่นำมาแก่คนของดาวิด
ขอโปรดอภัยความผิดของนางด้วยเถิด
เพราะที่ผ่านมา ดาวิดทำสงครามอยู่ฝ่ายพระเจ้า ไม่ทำสิ่งชั่วใดๆเลย
แม้มีคนไล่ตามฆ่าดาวิด ดาวิดก็ยังรอดปลอดภัยเสมอมา
และอีกไม่นาน ดาวิดก็จะได้เป็นกษัตริย์ของอิสราเอล ตามที่พระเจ้าสัญญา
เมื่อนั้นดาวิดจะได้ไม่เสียใจ ที่ได้ทำให้โลหิตเขาตกในครั้งนี้
ดังนั้นเมื่อพระเจ้าทรงเมตตาต่อดาวิดถึงเพียงนี้ ขอเมตตานางด้วยเถิด
ดาวิดจึงกล่าวแก่อาบีกายิล ว่า
พระเจ้าทรงใช้นางให้มา ป้องกันดาวิด จากการทำความผิดครั้งนี้
ดีที่นางมาห้ามดาวิดทัน มิฉะนั้น ก่อนพรุ่งนี้เช้า ดาวิดจะฆ่าชายทุกคนที่อยู่กับนาบาลเสียเป็นแน่
แล้วดาวิดก็รับเสบียงที่นางนำมาให้ แล้วบอกให้นางกลับไปได้
ดาวิดจะฟังคำขอของนางไม่บุกไปฆ่านาบาลแล้ว
เมื่ออาบีกายิลก็กลับไปหานาบาล เล่าเหตุการณ์เหล่านี้ให้ฟัง
เขาก็ช๊อค กลายเป็นดังก้อนหิน
อีก 10 วันต่อมา เขาก็เสียชีวิต
เมื่อดาวิดได้ยินว่านาบาลตายแล้ว
จึงส่งคนไปสู่ขออาบีกายิลให้มาเป็นภรรยา
นางก็ยินยอมมาเป็นภรรยาของดาวิด
ดาวิดได้รับนางอาหิโนอัม ชาวยิสเรเอล มาเป็นภรรยาด้วย
ส่วนมีคาล ภรรยาของดาวิด ซาอูลยกให้แก่ปัลที ชาวกัลลิม
1. ดาวิดผู้ยำเกรงพระเจ้า ก็โมโหเป็นเหมือนกัน จนเกือบจะทำความผิดครั้งใหญ่
แต่โดยพระคุณของพระเจ้า พระเจ้าได้ส่งการเตือนมา และเขารับฟังการเตือนจึงไม่ได้ทำผิดพลาดไป
ชีวิตของเรามีโอกาสผิดพลาดไปได้เสมอในทุกวัน
แต่โดยพระคุณของพระเจ้า ก่อนที่เราจะผิดพลาดนั้น
จะการเตือนจากพระเจ้ามาถึงเราก่อนเสมอ
เพียงแต่ว่าเราจะรับรู้ รับฟัง หรือไม่เท่านั้นเอง
2. ไม่ผิดที่ดาวิดโกรธ ใครๆก็โกรธกันได้
แต่หากดาวิดพยายามแก้แค้นด้วยตนเอง ดาวิดกำลังทำผิด
ดาวิดเลือกไม่แก้แค้นเอง ในไม่ช้าเขาก็ได้เห็นความยุติธรรมของพระเจ้า
ให้เรามอบการแก้แค้นให้เป็นของพระเจ้า
เชื่อใจในพระเจ้าผู้ทรงยุติธรรม
พระองค์จะประทานความยุติธรรมให้เราอย่างแน่นอน
3. อาบีเกล หญิงที่สวยและมีปัญญา
– เธอถ่อมตน ก้มกราบลงถึงดิน
– เธอกล้าหาญ ยอมรับผิดแต่ผู้เดียว
– เธอรู้พระคำ เตือนสติดาวิด
– เธอเชื่อมั่นใจพระเจ้า ว่าพระองค์จะรักษาสัญญา
– เธอรู้จักเชื่อมทุกอย่างเข้าด้วยกัน เพื่อสรุปว่าดาวิดควรเมตตาเธอ
เราควรดำเนินชีวิตอย่างมีปัญญา
คำคม
“ ผู้ใช้ชีวิตอย่างมีปัญญา จะเป็นพรทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ”