สรุป 1พงศาวดาร 1

ภาพรวม

  • เป็นเรื่องราวของประวัติศาสตร์ของอิสราเอล ตั้งแต่ซาอูลขึ้นเป็นกษัตริย์ จนถึงดาวิดเสียชีวิต
  • ใน 1 พวศาวดาร บทที่ 1 กล่าวถึงเชื้อสายของอาดัมไล่ไปจนถึงเชื้อสายของอับราฮัม คือ ลูกหลานของเอซาว

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 1 แสดงเชื้อสายของมนุษย์ ตั้งแต่ อา​ดัม ลงมาทาง เสท
เรื่อยมาจนถึงโน​อาห์ ซึ่งมีบุตรชาย คือ เชม ฮาม และ ยา​เฟท

เชื้อสายของ​ยา​เฟท​ เป็นต้นตระกูลของ ชาว​โก​เมอร์ มา​โกก ทูบัล และเม​เชค (อสค. 38:2)
เชื้อสาย​ของ​ฮาม เป็นต้นตระกูลของชาวคูช อียิปต์ พูต คา​นา​อัน และคัส​ลู​ฮิม (เป็น​ต้น​ตระ​กูล​คน​ฟีลิส​เตีย)
เชื้อสายของ​เชม เป็นต้นตระกูลของชาวเช​ลาห์ ​เอ​ลาม อัส​ชูร อาร​ปัค​ชาด ลูด อา​รัม ​เอ​เบอร์ โอ​ฟีร์ ฮา​วิ​ลาห์ และอิสราเอล

​อับ​รา​ฮัม ผู้เป็นเชื้อสายของเชม มีบุตร​ชื่อ​ อิส​อัค และ​ อิช​มา​เอล และบุตรชายอีก 6 คน ซึ่งเกิดจาก​เคทู​ราห์​ภรร​ยา​น้อย​ของ​อับ​รา​ฮัม

​อิช​มา​เอล​ เป็นต้นตระกูลของชาว​เน​บา​โยท เค​ดาร์ ดู​มาห์ ฮา​ดัด และเท​มา

บุตร​ของ​เคทู​ราห์​ ซึ่งได้แก่ ​มี​ศิม​ราน โยก​ชาน เม​ดาน มี​เดียน อิช​บาก และ​ชู​อาห์ นั้น
เป็นต้นตระกูลของชาว​มี​เดียน​ ​เช​บา เด​ดาน และ​เอ​ฟาห์

​อิส​อัค มีบุตร​ชื่อ​ เอ​ซาว และ​ อิส​รา​เอล

เอ​ซาว​ เป็นต้นตระกูลของชาวเท​มาน โอ​มาร์ เศโฟ เค​นัส ทิม​นา​ อา​มา​เลข เส​อีร์​ ​โฮรี และ​อูส
บรร​ดา​เจ้า​นาย​ที่ปกครองใน​เอ​โดม​ ได้แก่ ทิม​นา ​อา​ลี​ยาห์ ​เย​เธท โอ​โฮ​ลี​บา​มาห์ เอ​ลาห์ ​ปิ​โนน ​เค​นัส ​เท​มาน ​มิบ​ซาร์ ​มัก​ดี​เอล และ​อิราม

1. ต้นตระกูลของชนชาติทั้งหลาย ล้วนมาจากแหล่งเดียวกัน
และพระเจ้าทรงเป็นต้นกำเนิดของประชาชาติทั้งสิ้น
ดังนั้นทุกชนชาติเป็นของพระองค์ พระองค์จึงทรงรักพวกเขา
แต่เพราะพวกเขาหันออกจากพระเจ้า ไปทำสิ่งเลวร้าย
จนทำให้ชนชาติเหล่านี้ต้องหมดสิ้นไปในที่สุด

พระเจ้าไม่ประสงค์ให้ผู้ใดต้องพินาศ
อย่างไรก็ดีผู้ที่ดำเนินต่อไปในบาปอย่างไม่ยอมกลับใจจะพินาศ

2. พระเจ้าทรงรักษาสัญญากับอับราฮัม ถึงแม้เขาจากโลกนี้ไปแล้ว
ลูกหลานเหลนโหลนและเชื้อสายของเขา ก็กลายเป็นชนชาติใหญ่มากมาย
ตามที่พระเจ้าทรงสัญญา
ปฐก. 17:4 “นี่​พันธสัญญา​ของ​เรา​กับ​เจ้า เจ้า​จะ​เป็น​บิดา​ของ​ประชาชาติ​มาก​มาย​”

พระเจ้าทรงรักษาสัญญาเสมอ ถึงแม้ว่าคนที่เป็นคู่สัญญาจะจากโลกนี้ไปนานแล้วก็ตาม

คำคม

“ พระเจ้าทรงรักษาสัญญาเสมอ ”

สรุป 1พงศาวดาร 2

ภาพรวม

  • บทที่ 2 พูดถึงเชื้อสายของอิสราเอลแบบกว้างๆ โดยเน้นว่ายูดาห์ เป็นต้นตระกูลของดาวิด และยูดาห์เป็นต้นตระกูลของคนกลุ่มต่างๆอีกหลายกลุ่มอีกด้วย

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 2 ต่อจากบทที่ 1 ที่กล่าวถึงเชื้อสายของอาดัมไล่ไปจนถึงเชื้อสายของอับราฮัม คือ ลูกหลานของเอซาว

ในบทที่ 2 ได้พูดถึงเชื้อสายของอิสราเอล ดังนี้
​อิส​รา​เอล มีบุตรชาย 12 คน ​คือ​
รู​เบน สิ​เม​โอน เลวี ยู​ดาห์
อิส​สา​คาร์ เศ​บู​ลุน ดาน โย​เซฟ
เบน​ยา​มิน นัฟ​ทาลี กาด และ​อา​เชอร์

บุตร​ยู​ดาห์​ ที่เกิดจากนางทา​มาร์​บุตร​สะใภ้​ของ​เขา คือ ​เป​เรศ และ​เศ-ราห์
บุตร​เป​เรศ​ ชื่อ​ เฮส​โรน และ​ฮา​มูล
บุตร​ของ​เฮส​โรน ชื่อ ราม
ราม​เป็น​พ่อของทวดของ​โบ​อาส
โบ​อาส​เป็นพ่อ​ของ​โอ​เบด
โอ​เบด​เป็น​พ่อของ​เจสซี
เจสซี​ มี ลูกชาย 7 คน ได้แก่
​เอ​ลี​อับ​ อา​บี​นา​ดับ​ ชิ​เม​อา นา​ธัน​เอล​
รัด​ดัย​ โอ​เซม​ และดาวิด​
และ​เจสซีมีลูก 2 คนแรก เป็นลูกสาว คือ​ นาง​เศ​รุ​ยาห์ และ​นางอา​บี​กา​ยิล
บุตร​ของ​นาง​เศ​รุ​ยาห์​ คือ​ อา​บี​ชัย โย​อาบ และ​อา​สา​เฮล (เหล่าแม่ทัพของดาวิด)
บุตรของนาง​อา​บี​กา​ยิล​ ​คือ​ อา​มา​สา (ที่ถูกโยอาบฆ่าตายเพราะความอิจฉา)

เฮอร์(ผู้ช่วยยกมือโมเสสบนภูเขา)​ ก็เป็นเชื้อสายของ​เฮส​โรน บุตร​เป​เรศ​​ ด้วย
เฮอร์ เป็นปู่ของ​เบ​ซา​เลล(สุดยอดช่างฝีมือที่ช่วยโมเสสสร้างพลับพลา)

และเชื้อสายของเฮสโรน ต่อมาเป็นต้นตระกูลของคน​อิท​ไรต์ คน​ปุไท คน​ชุ​มัท คน​มิช​รา คนโศ​ราห์ คน​เอช​ทา​โอล​ คน​เน​โท​ฟาห์ คนอัท​โรท​เบธ​โย​อาบ ครึ่ง​หนึ่ง​ของ​คน​เมนู​โหท คน​ทิรา​ไธต์ คน​ชิ​เม​อี ​คน​สุคา และคนตระ​กูล​เร​คาบ

1. เมื่อสังเกตชื่อบุคคลมากมายในบทนี้ จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า คนทั้งหลายที่มีบทบาทในแผนการของพระเจ้า โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์นั้น ถูกจัดเตรียมไว้อย่างปราณีต อย่างมีวัตถุประสงค์ และในเวลาที่พอเหมาะพอดี เพื่อให้แผนการของพระเจ้า คำพยากรณ์ในพระคำของพระเจ้า สำเร็จเกิดขึ้นเป็นจริง
ตัวอย่างเช่น เฮอร์ บาซาเลล ทามาร์ โบอาส เจสซี นาง​เศ​รุ​ยาห์ ​นางอา​บี​กา​ยิล ​อา​สา​เฮล​ อา​มา​สา เป็นต้น

พระเจ้าให้เราเกิดมาในสมัยปัจจุบันนี้ พระองค์ทรงมีแผนการสำหรับชีวิตของเรา มีวัตถุประสงค์สำหรับเรา และมีเวลาที่เหมาะสมสำหรับเรา
และเพราะเรารู้ว่าพระเจ้าทรงรักเรา จนประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์เพื่อเรา
ดังนั้นแผนการทั้งหมดของพระเจ้า ย่อมเพื่อประโยชน์ที่ดีเลิศสำหรับเราอย่างแน่นอน

2. เมื่อได้พิจารณาดูรายชื่อลำดับเชื้อสายอันยาวเหยียดและละเอียดเหล่านี้
และเมื่อคิดถึงการคัดลอกพระคัมภีร์ด้วยมือ ต่อๆกันไปอีกหลายพันหลายหมื่นฉบับ
แล้วปรากฏว่า เมื่อนักโบราณคดีเอาต้นฉบับเหล่านั้นทั้งสิ้น มาเทียบกัน เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง
ข้อความในฉบับต่างๆเหล่านั้น มีชื่อและลำดับเชื้อสายเหล่านี้ถูกต้องเหมือนกันอย่างแม่นยำ
สิ่งนี้ยิ่งทำให้เป็นสิ่งยืนยันว่า
คัมภีร์ที่ถูกคัดลอกและส่งต่อกันมาจนถึงปัจจุบันนั้น ถูกต้องแม่นยำทุกประการ
เพราะว่า ขนาดรายชื่อเชื้อสายอันยาวเหยียดเหล่านี้ยังถูกต้อง 100%
นับประสาอะไรกับเนื้อหาอื่นๆ ที่ง่ายต่อการคัดลอกยิ่งกว่านี้ ย่อมไม่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนอย่างแน่นอน

คำคม

“ พระเจ้าทรงมีแผนการและเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเรา ”

สรุป 1พงศาวดาร 3

ภาพรวม

  • บทที่ 3 พูดถึงเชื้อสายของดาวิด ไล่ไปจนถึงกษัตริย์องค์สุดท้ายของอิสราเอล และไล่ต่อไปจนถึงช่วงที่พระเจ้าทรงนำคนอิสราเอลกลับมาจากการเป็นเชลยที่บาบิโลน

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 3 ต่อเนื่องจากบทที่ 2 ที่พูดถึงเชื้อสายของอิสราเอลแบบกว้างๆ โดยเน้นว่ายูดาห์ เป็นต้นตระกูลของดาวิด และยูดาห์เป็นต้นตระกูลของคนกลุ่มต่างๆอีกหลายกลุ่มอีกด้วย

ในบทที่ 3 ได้พูดถึงเชื้อสายของดาวิด ดังต่อ​ไป​นี้
ดาวิด​ ครอง​ราชย์ในเฮโบรน 7 ปี​กับ 6 เดือน มีโอรสที่นั่น ได้แก่
1. อัม​โนน​ (ผู้ข่มขืนทามาร์น้องอับซาโลม จึงถูกอับซาโลมฆ่าตาย)
2. ดา​เนียล
3. อับ​ซา​โลม ​ซึ่งเกิดจาก​พระ​นาง​มา​อา​คาห์​ เจ้าหญิงแห่ง​เมือง​เก​ชูร์
(ผู้แย่งชิงบัลลังก์จากดาวิด แต่ต่อมาถูกโยอาบแม่ทัพของดาวิดฆ่าตาย)
4. อา​โด​นี​ยาห์​ (ผู้พยายามแย่งชิงบัลลังก์จากซาโลมอนแต่ไม่สำเร็จ)
5. เช​ฟา​ทิ​ยาห์​
6. อิท​เร​อัม

ดาวิดครอง​ราชย์​ใน​กรุง​เย​รู​ซา​เล็ม 33 ปี มีโอรสที่เกิดที่นั่น ได้แก่
1. ชิ​เม​อา
2. โช​บับ
3. นา​ธัน
4. ซา​โล​มอน ผู้เป็นกษัตริย์ต่อจากดาวิด
โอรสทั้ง 4 ​องค์​นี้ เกิดจาก​พระ​นาง​บัท​ชู​วา​[บัทเชบา]
5. อิบ​ฮาร์
6. เอ​ลี​ชา​มา
7. เอ​ลี​เฟ​เลท
8. โน​กาห์
9. เน​เฟก
10. ยา​เฟีย
11. เอ​ลี​ชา​มา
12. เอ​ลี​ยา​ดา
13. เอ​ลี​เฟ​เลท
ซึ่งยังไม่รวม ​เหล่า​โอรส​ที่เกิดจาก​นาง​สนม​ทั้ง​หลาย ของดาวิด
และ​ทา​มาร์ผู้​เป็น​ธิดาของดาวิด

เชื้อสาย​ของ​ซา​โล​มอน​ เป็นดังนี้
– ​เร​โห​โบ​อัม ผู้ทำให้อาณาจักรถูกแบ่งเป็น 2
– อา​บี​ยาห์ ผู้ชั่วร้ายแต่ยังร้องทูลพระเจ้า
– อา​สา ผู้พึ่งพาพระเจ้าตอนต้น แต่บั้นปลายพึ่งพาสิ่งอื่น
– ​เย​โฮ​ชา​ฟัท ผู้รักพระเจ้า และพระองค์ช่วยเขารบชนะโดยไม่ต้องสู้แค่ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า
– ​โย​รัม ผู้ร่วมมือกับคนชั่วอย่างอาหับ พ่อตาของตน
– อา​หัส​ยาห์ ผู้ทำชั่วเหมือนพระราชาอิสราเอล แล้วถูกเยฮูฆ่าตาย
– ​โย​อาช ผู้รอดตายหวุดหวิดโดยความช่วยเหลือของเย​โฮ​ยา​ดา จึงรักพระเจ้าในตอนต้น แต่ต่อมาละทิ้งพระเจ้า
– ​อา​มา​ซิ​ยาห์ ผู้รักพระเจ้า แล้วพระเจ้าอวยพร แต่ลืมตัว ไปท้ารบกับพระราชาอิสราเอลด้วยความยโส จึงพ่ายแพ้
– ​อา​ซา​ริ​ยาห์ [อุสซียาห์] ผู้รักพระเจ้า จนได้รับพระพรขยายอาณาจักรออกไปอย่างยิ่งใหญ่ แต่ต่อมาเย่อหยิ่งจะถวายเครื่องบูชาเอง จนกลายเป็นโรคเรื้อน
– โย​ธาม ผู้ดำเนินมั่นคงกับพระเจ้าตั้งแต่ต้นจนจบ
– อา​หัส ผู้ชั่วร้าย ผู้รื้อแท่นบูชาพระเจ้า เพื่อสร้างแท่นบูชารูปเคารพ
– เฮ​เซ​คี​ยาห์ ผู้ยำเกรงพระเจ้า จนเซนนาเคอริบต้องพ่ายแพ้ และจนได้ต่ออายุอีก 15ปี
– ​มนัส​เสห์ ผู้ชั่วร้ายที่สุดในบรรดากษัตริย์ทั้งหมด
– อา​โมน ผู้ทำชั่วได้ไม่แพ้พ่อ
– โย​สิ​ยาห์ ผู้รักพระเจ้า และนำการฟื้นฟูเรื่องฝ่ายวิญญาณมาสู่ประชาชนมากที่สุดในบรรดากษัตริย์ทั้งหมด
โอรส​ของ​โย​สิ​ยาห์​ คือ
1. โย​ฮา​นัน ผู้ชั่วร้าย และถูกฟาโรห์เนโคจับไปอียิปต์
2. ​เย​โฮ​ยา​คิม ผู้ชั่วร้าย และฆ่าตายโดยเนบูคัสนสซาร์
3. ​เศ​เด​คี​ยาห์ ผู้ชั่วร้าย กษัตริย์องค์สุดท้ายของประวัติศาสตร์อิสราเอล
4. ชัล​ลูม

โอรส​ของ​เย​โฮ​ยา​คิม​ คือ ​เย​โค​นิ​ยาห์ ผู้เป็นกษัตริย์แค่ 3 เดือน แล้วถูกจับไปบาบิโลน
เชื้อสาย​ของ​เย​โค​นิ​ยาห์​ ​คือ​เศ​รุบ​บา​เบล ผู้นำคนอิสราเอลกลับมาสร้างเยรูซาเล็มและพระวิหารขึ้นใหม่อีกครั้ง

1. พระเจ้าทรงอวยพระพรให้ดาวิดมีลูกมากมาย
แต่เพราะความบาปที่ดาวิดกระทำ จึงทำให้เกิดเรื่องน่าเศร้าหลายอย่างเกิดขึ้น
ท่ามกลางลูกๆของเขา

เมื่อเราดำเนินในทางของพระเจ้า ทุกอย่างที่เราเกี่ยวข้องจะได้รับพระพร
แต่ถ้าเราหันออกจากพระเจ้า ทำสิ่งชั่วร้ายที่พระเจ้าทรงรังเกียจ
สิ่งเหล่านั้นจะไม่อาจเป็นพระพรแก่เราได้ จนกว่าเราจะกลับใจอย่างแท้จริง

2. เนื่องจากอับซาโลมเป็นลูกของเจ้าหญิง น่าจะหล่อหลอมบุคลิกของเขา
ให้กล้าฆ่าอัมโมนที่มาข่มขืนน้องสาวของตน และกล้ากบฏต่อดาวิด

แต่ละคนนั้นสถานะของเขา และสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา
อยู่ในแผนการของพระเจ้า
ให้อยู่สภาวะที่เหมาะสม ที่จะสำแดงลักษณะแท้ ตัวตนในใจออกมา

3. ซาโลมอน ไม่ใช่บุตรคนต้นๆของดาวิด และไม่ใช่แม้แต่บุตรคนต้นๆของนางบัทเชบา
แต่เพราะพระเจ้าทรงเลือกซาโลมอน ดังนั้นในที่สุดซาโลมอนก็ได้เป็นกษัตริย์ต่อจากดาวิดอยู่ดี

ไม่ว่าจะเป็นไปไม่ได้มากสักเพียงใด
แต่ถ้าพระเจ้าจะให้มันเกิดขึ้น มันก็จะเกิดขึ้น

4. กษัตริย์ที่เป็นเชื้อสายของดาวิดนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนว่า
ผู้ที่รักและยำเกรงพระเจ้าจะได้รับพระพร ตราบเท่าที่เขายังรักและยำเกรงพระเจ้าอยู่
และผู้ที่ละทิ้งพระองค์ ก็จงใจละทิ้งพระพรที่พระเจ้าทรงเตรียมให้แก่เขา

วันนี้ เรายังดำเนินติดตามพระเจ้าอย่างจริงใจอยู่หรือไม่?

คำคม

“ พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ ในพระสัญญา ที่มีต่อผู้ยำเกรงพระองค์ ”

สรุป 1พงศาวดาร 4

ภาพรวม

  • บทที่ 4 พูดถึงเชื้อสายของยูดาห์และสิเมโอน ว่าเป็นต้นตระกูลของคนหลายกลุ่มและได้ครอบครองพื้นที่จำนวนมาก

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 4 ต่อเนื่องจาก บทที่ 3 ซึ่งพูดถึงเชื้อสายของดาวิด ไล่ไปจนถึงกษัตริย์องค์สุดท้ายของอิสราเอล และไล่ต่อไปจนถึงช่วงที่พระเจ้าทรงนำคนอิสราเอลกลับมาจากการเป็นเชลยที่บาบิโลน

ในบทที่ 4 นี้ ได้ย้อนกลับไปพูดเชื้อ​สาย​ของ​ยู​ดาห์ และของสิเมโอน บุตรของอิสราเอล ดังนี้

เชื้อ​สาย​ของ​ยู​ดาห์ ​คือ ​เป​เรศ เฮส​โรน และลูกหลาน
ซึ่ง​เป็น​ตระ​กูล​ของ​ชาว​โศ​ราห์ ชาว​ยิส​เร​เอล ชาว​เป​นู​เอล​ ชาว​เอฟ​รา​ธาห์​ ชาวเบธ​เล​เฮม ชาว​เท​โค​อา ชาวเร​คาห์ ​ชาว​​เน​ทา​อิม​และชาว​เก​เด​ราห์
โอท​นี​เอล ผู้วินิจฉัยคนแรก(วนฉ. 3:9) และ คาเลบ ผู้ไปสำรวจดินแดนพร้อมโยชูวา ก็อยู่ในเชื้อสายของยูดาห์ด้วย

อีกคนหนึ่งในเชื้อสายของยูดาห์ คือ ยา​เบส ซึ่ง​เป็น​ผู้​มี​เกียรติ​กว่า​บรร​ดา​พี่​น้อง​ของ​เขา
แม่ของ​เขา​ ตั้ง​ชื่อ​เขา​ว่า ​ยา​เบส เพราะว่า นาง​คลอด​เขา​ด้วย​ความ​ทุกข์​ยาก​ลำ​บากมาก
ยา​เบส​อธิษฐานต่อพระ​เจ้า ว่า
– ขอ​พระเจ้าอวย​พร​แก่​เขา
– ​ขยาย​เขต​แดน​ของเขา
– ทรงสถิตกับ​เขา
– ขอ​​ให้​เขา​พ้น​จาก​สิ่ง​ชั่วร้าย
เพื่อ​เขาจะไม่​ทุกข์​ยาก​ลำ​บาก ตามชื่อของเขา
แล้ว​พระ​เจ้า​ทรงประ​ทาน​ตาม​ที่​เขา​ทูล​ขอ

เชื้อ​สาย​ของ​​สิ​เม​โอน คือ ​เนมู​เอล ยา​มีน ยา​รีบ เศ-ราห์ และ​ชา​อูล
ซึ่งตระกูลของเขา​ไม่​มี​บุตร​ชาย​จำ​นวน​มาก เหมือน​คน​เผ่า​ยู​ดาห์
พวก​อา​ศัย​อยู่​ใน​เมือง​เบ​เออร์​เช​บา บิล​ฮาห์ ศิก​ลาก และเมืองบริเวณใกล้เคียง
ต่อมาพวก​เขา​ก็​เพิ่ม​ขึ้น​มาก จึง​เดิน​ทาง​ไป​ถึง​ทาง​เข้า​เมือง​ที่​เก​โดร์
เพื่อ​หา​ทุ่ง​หญ้า​ให้​ฝูง​แพะ​แกะ​
พวกเขา​พบ​ทุ่ง​หญ้า​อุดม​ดี และ​แผ่น​ดิน​นั้น​ก็​กว้าง​ขวาง​เงียบ​สงบ​สุข ​เป็น​ของคน​เชื้อ​สาย​ฮาม
พวกเขาจึงเข้า​โจม​ตี​และเข้ายึดครองแผ่นดินนั้น

อีกส่วน​หนึ่ง​ของ​​คน​สิ​เม​โอน 500 คน​พา​กัน​ไป​ที่​ภูเขา​เส​อีร์
และ​พวก​เขา​โจม​ตี​คน​อา​มา​เลข​ที่นั่น แล้ว​เข้าอา​ศัย​อยู่​ที่​นั่น

1. ยาเบส มีชื่อที่เป็นคำแช่งสาป แต่ด้วยความเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงเปลี่ยนคำแช่งสาปเป็นพระพรได้
เขาจึงอธิษฐานต่อพระเจ้า ขอให้พระเจ้าอวยพระพรเขา
เมื่อเขากล้าขอ พระเจ้าก็ทรงอวยพระพรเขา เขาไม่พบความทุกข์ยากลำบากเลย ชั่วชีวิต

แม้เขาไม่ได้เปลี่ยนชื่อ ชื่อเขายังคงเป็นคำแช่งสาป
แต่เขาได้รับพระพรตลอดชีวิต เพราะเขากล้าขอพระพรเช่นนั้นจากพระเจ้า

เราไม่ได้เพราะเราไม่ได้ขอ(ยก. 4:2)
เมื่อเราขอด้วยความเชื่อ และด้วยความเชื่อมั่นว่าพระเจ้าทรงรักเราและพระองค์พร้อมที่จะประทานสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่เราอย่างแน่นอน
แล้วเราก็จะพบว่าความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรานั้นมากเหลือล้นจริงๆ

2. เผ่าสิเมโอน จับสลากได้รับแผ่นดินเป็นฉลากที่ 2 (ยชว. 19:1-9) ซึ่งกินบริเวณกว้างขวางมาก
แต่เพราะเขาคิดว่าเขามีกำลังน้อยเขาจึงไม่ได้บุกเข้าไปยึดเอา
ต่อมาเมื่อเขาคิดว่า เขาน่าจะต้องบุกแล้ว เขาก็ยึดได้จริงๆตามที่พระเจ้าบอกไว้

การที่เรามองดูตัวเองมากเกินไป แล้วคิดว่าเราทำไม่ได้
โดยไม่ได้คำนึงถึงพระสัญญาของพระเจ้าว่าพระองค์ทรงสัญญากับเราอย่างไร
จะทำให้เราไม่ได้รับพระพรที่พระเจ้าทรงเตรียมให้แก่เราแล้ว
ซึ่งเราต้องก้าวออกไปรับด้วยความเชื่อจึงจะได้รับ

คำคม

“ เพียงกล้าขอ ด้วยความเชื่อ ก็จะได้รับ ”

สรุป 1พงศาวดาร 5

ภาพรวม

  • บทที่ 5 พูดถึงเชื้อสายของรูเบน และมนัสเสห์ครึ่งเผ่า ที่พระเจ้าทรงช่วยพวกเขาให้ชนะศัตรูเมื่อพวกเขาร้องทูลต่อพระองค์ แต่แล้วพวกเขาก็พ่ายแพ้ศัตรูเมื่อละทิ้งพระองค์

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 5 ต่อเนื่องจาก บทที่ 4 ซึ่งพูดถึงเชื้อสายของยูดาห์และสิเมโอน ว่าเป็นต้นตระกูลของคนหลายกลุ่มและได้ครอบครองพื้นที่จำนวนมาก

ในบทที่ 5 พูดถึงเชื้อสายของรู​เบน​ และมนัสเสห์ดังนี้

รูเบน ​บุตร​หัว​ปี​ของ​อิส​รา​เอล แต่​เพราะ​เขาไปหลับนอนกับ​บิล​ฮาห์​ภรรยา​น้อย​ของ​พ่อ (ปฐก. 35:22) สิทธิ​บุตร​หัว​ปี​ของ​เขา​จึง​ถูก​มอบ​ให้​กับ​บุตร​ของโย​เซฟ

บุตรของ​รูเบน คือ​ ฮา​โนค ปัลลู เฮส​โรน และ​คาร​มี
เชื้อสายของรูเบน รุ่นต่อๆมา คือ ​เบ​เอ​ราห์ เป็นผู้ซึ่ง​ทิ​กลัท​ปิ​เล​เสอร์ กษัตริย์​อัส​ซี​เรีย​จับ​ไป​เป็น​เชลย
เชื้อสายของรูเบน​อา​ศัย​อยู่​ทาง​ทิศ​ตะวัน​ออกของแม่น้ำจอร์แดน
มี​ฝูง​ปศุ​สัตว์มาก​มาย​ใน​แผ่น​ดิน​กิ​เล​อาด ใน​บา​ชาน และ​ใน​บริ​เวณ​รอบ​ชา​โรน​ทั้ง​หมด

ใน​สมัย​ของ​เย​โร​โบ​อัม​ พระ​ราชา​แห่ง​อิส​รา​เอล
คน​รู​เบน คน​กาด และ​คน​เผ่า​มนัส​เสห์​กึ่ง​หนึ่ง ได้​รับ​การ​ฝึก​สำ​หรับ​สง​คราม​จนเก่งกล้า จำ​นวน 44,760 คน
​เข้า​​ทำ​สง​คราม​กับ​คน​ฮา​การ์ เย​ทูร์ นา​ฟิช และ​โน​ดับ
และ​พวก​เขา​ได้​รับ​ความ​ช่วย​เหลือจากพระเจ้า
เพราะ​พวก​เขา​ร้อง​ทูล​ต่อ​พระ​เจ้า​ใน​สง​คราม
​พระ​องค์​ทรงประ​ทาน​ตาม​คำ​ทูล​ของ​พวก​เขา
เพราะ​พวก​เขา​วาง​ใจ​ใน​พระ​องค์
พวกเขาได้รับชัยชนะอย่างงดงาม
เพราะ​สง​คราม​นี้​มา​จาก​พระ​เจ้า
พวก​เขา​ยึด​เอา​ฝูง​​สัตว์​ของ​ศัตรู​มากมาย และ​จับเชลยได้ 100,000 คน

เชื้อสายของ​มนัส​เสห์​กึ่ง​หนึ่ง​อา​ศัย​อยู่​ใน​แผ่น​ดิน​นั้นเช่นกัน
พวก​เขา​มี​จำ​นวน​มาก ตั้ง​แต่​เมือง​บา​ชาน​ ถึง​​ ภู​เขา​เฮอร์​โมน

ต่อมา​คน​รู​เบน คน​กาด และ​คน​เผ่า​มนัส​เสห์​กึ่ง​หนึ่ง ​ทำผิด​ต่อ​พระ​เจ้า
และ​เล่น​ชู้​กับ​พระ​ของ​ชน​ชาติ​แห่ง​แผ่น​ดิน​นั้น
ดัง​นั้น พระ​เจ้า​​จึง​ทรง​เร้า​พระ​ทัย​ของ​ปูล(​ทิ​กลัท​ปิ​เล​เสอร์) พระ​ราชา​แห่ง​อัส​ซี​เรีย
และ​พระ​องค์​ทรง​ยกทัพมากวาด​พวก​เขา​เป็น​เชลย ที่ ฮา​ลาห์ ฮา​โบร์ ฮา​รา และ​แม่​น้ำ​เมือง​โก​ซาน

1. การทำผิดเรื่องเพศของรูเบน นำความเสียหายใหญ่โตมากกว่าที่เขาจะจินตนาการได้
เขาและเชื้อสาย สูญเสียสิทธิบุตรหัวปีไป

ความผิดบาปทางเพศ หากผิดพลาดไปแล้ว มักส่งผลกระทบที่รุนแรงตามมาเสมอ
ดังนั้นการรีบกลับใจให้เร็วที่สุด เมื่อผิดพลาดไปในเรื่องนี้
จะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับการลดความเสียหาย อันเกิดขึ้นมาจากบาปนี้

2. พระเจ้าทรงช่วยคน​รู​เบน คน​กาด และ​คน​เผ่า​มนัส​เสห์​กึ่ง​หนึ่ง ให้รบชนะอย่างงดงามทั้งที่มีกำลังน้อยกว่า
เพราะหลังจากศัตรูล้มตายลงไปเป็นจำนวนมากแล้ว เชลยที่จับมาได้ ก็ยังมีจำนวนมากถึง 100,000 คน
ส่วนพวกเขาเองมีนักรบเพียง 44,760 คน
แต่เพราะพวกเขาร้องทูลขอ​ความ​ช่วย​เหลือจากพระเจ้า อย่างวางใจ
พระเจ้าจึงทรงเมตตาพวกเขา

น่าเสียดายที่พวกเขา ไม่จดจำพระคุณพระเมตตาของพระเจ้า
กลับละทิ้งพระองค์ ไปทำสิ่งที่พระเจ้ารังเกียจและทรงห้ามไว้
พวกเขาจึงต้องพบจุดจบอย่างน่าเศร้า

เมื่อเราร้องทูลต่อพระเจ้าอย่างวางใจ พระเจ้าจะทรงช่วยเราอย่างแน่นอน
และวันนี้ อย่าให้ลืมพระคุณของพระเจ้า ที่เคยช่วยเราในอดีตที่ผ่านมา
ยิ่งวันเวลาผ่านไป เรารับประสบการณ์การช่วยกู้จากพระเจ้ามากขึ้น
เราสมควรที่จะยิ่งรักและยำเกรงพระองค์มากยิ่งขึ้น
อย่าหันกลับจากการติดตามพระเจ้าเหมือนอย่าง 2 เผ่าครึ่งของอิสราเอลนี้

คำคม

“ ผู้ที่ร้องทูลต่อพระเจ้า อย่างวางใจ จะได้รับการช่วยกู้ ”

สรุป 1พงศาวดาร 6

ภาพรวม

  • พระเจ้าทรงเลือกเชื้อสายของเลวีให้ปรนนิบัติรับใช้พระองค์ในพระนิเวศน์ของพระองค์

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 6 ต่อเนื่องจาก บทที่ 5 ซึ่งพูดถึงเชื้อสายของรูเบน และมนัสเสห์ครึ่งเผ่า ที่พระเจ้าทรงช่วยพวกเขาให้ชนะศัตรูเมื่อพวกเขาร้องทูลต่อพระองค์ แต่แล้วพวกเขาก็พ่ายแพ้ศัตรูเมื่อละทิ้งพระองค์

ในบทที่ 6 พูดถึง เชื้อสาย​ของ​เลวี ​คือ ​เกอร์​โชม โค​ฮาท และ​เม​รา​รี

บุตร​ของ​โค​ฮาท​ คือ ​อัม​ราม
อัม​ราม เป็นพ่อของ ​อา​โรน โม​เสส และ​นาง​มิ​เรียม
บุตร​อา​โรน​คือ​นา​ดับ อา​บีฮู (ลูก 2คนแรกของอาโรน ที่ตายเพราะนำไฟต้องห้ามมาถวายพระเจ้า) เอ​เล​อา​ซาร์ และ​อิ​ธา​มาร์
เชื้อสายเอ​เล​อา​ซาร์​ (ผู้ทำหน้าที่ปุโรหิตแทนอาโรน ฉธบ. 10:6) คือ
​ฟี​เน​หัส (ผู้ที่ช่วยยับยั้ง​ความ​กริ้ว​ของพระเจ้า​ต่อ​คน​อิส​รา​เอล กดว. 25:11)
อา​บี​ชู​วา
​บุค​คี
อุส​ซี
​เศ-รา​หิ​ยาห์
เม​รา​โยท​
อา​มา​ริ​ยาห์​
อา​หิ​ทูบ​
ศา​โดก​ (ผู้เป็นปุโรหิตสมัยดาวิด 1พกษ. 1:8)
อา​หิ​มา​อัส (ผู้คอยส่งข่าวให้ดาวิด หลังจากที่อับซาโลมยึดอำนาจจากดาวิด 2ซมอ. 15:36)
อา​ซา​ริ​ยาห์
โย​ฮา​นัน​ (ผู้​เป็น​ปุโร​หิต​อยู่​ใน​พระ​วิหาร ซึ่ง​ซา​โล​มอน​ทรง​สร้าง​ใน​เย​รู​ซา​เล็ม)
​อา​ซา​ริ​ยาห์
อา​มา​ริ​ยาห์
อา​หิ​ทูบ
ศา​โดก
ชัล​ลูม​
ฮิล​คี​ยาห์ (ผู้เป็นปุโรหิตสมัยโยสิยาห์ ผู้พบหนังสือธรรมบัญญัติในพระนิเวศน์ 2พกษ. 22:12)
อา​ซา​ริ​ยาห์​ (ผู้เมื่ออายุมากแล้วได้ เป็นหัวหน้าดูแลพระวิหารของพระเจ้า ช่วงกลับจากเป็นเชลยในบาบิโลน 1พศด. 9:11)
เส​ไร​อาห์ (ผู้เป็นปุโรหิตที่เยบูคัสเนศซาร์ฆ่าตาย เมื่อกรุงเยรูซาเล็มถูกทำลาย 2พกษ. 25:18)
เย​โฮ​ซา​ดัก​ (ผู้ถูก​จับ​ไป​เป็น​เชลย เมื่อเย​รู​ซา​เล็ม​ถูกทำลาย)

บุตรคนที่ 2 ​ของ​โค​ฮาท ​คือ ​อัม​มี​นา​ดับ (อิส​ฮาร์)
เชื้อสายของอัม​มี​นา​ดับ​ คือ​เอล​คา​นาห์ ผู้เป็นพ่อของ ผู้เผยพระวจนะซา​มู​เอล​

​ดาวิด​ทรง​แต่ง​ตั้ง​เชื้อสายของโคฮาทให้​ดูแล​เรื่อง​เพลง​ใน​พระ​นิเวศ​ของ​พระเจ้า
โดยมีเชื้อสายของ​เกอร์​โชมและของเม​รา​รี เป็นผู้ช่วย
พวกเขา​ปรน​นิบัติ​ด้วย​เพลง ​หน้า​พลับ​พลา จน​ซา​โล​มอน​ทรง​สร้าง​พระ​นิ​เวศ​ของ​พระเจ้าเสร็จ

ที่​อยู่​ที่​ตั้ง​ถิ่น​ฐาน​​ของบุตร​หลาน​ของ​อา​โรน​ ตระ​กูล​คน​โค​ฮาท ได้แก่
​เมือง​เฮ​โบรน เมือง​ลิบ​นาห์​ เมือง​ยาท​ทีร์ เมือง​เอช​เท​โม​อา​ เมืองฮี​เลน​ เมืองเด​บีร์​ เมืองอา​ชาน เมืองเบธ​เช​เมช​ เมือง​เก​บา​ ​เมืองอา​เล​เมท ​เมืองอา​นา​โธท​

ส่วน​บุตร​หลาน​ของ​โค​ฮาท​ที่​เหลือ ​ได้​รับ​ 35 เมือง

1. พระเจ้าทรงเลือกเชื้อสายเลวีให้ปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า
พวกเขาไม่ได้มรดกครอบครองดินแดน ยกเว้นเมืองบางเมืองที่เผ่าต่างๆยกให้
ถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่ขาดสิ่งดีใดๆ เพราะพระเจ้าทรงเลี้ยงดูพวกเขา
ยิ่งไปกว่านั้น เขาเป็นหนึ่งไม่กี่เผ่าที่เหลือกลับมา และยังมีบทบาทสำคัญในการรับใช้พระเจ้า เมื่ออิสราเอลกลับมาจากการเป็นเชลยในบาบิโลน

การปรนนิบัตรับใช้พระเจ้า ดูเหมือนจะขาดทุนหรือเสียสิทธิบางอย่างในสายตาของมนุษย์
แต่ความจริงแล้วกลับได้รับสิทธิพิเศษยิ่งกว่าใครๆ เมื่อเราปรนนิบัติรับใช้พระองค์

2. เชื้อสายของอาโรนบางคนก็เป็นปุโรหิตที่ดี บางคนก็ไม่ดี
อย่างไรก็ตามพระเจ้าก็ยังใช้เชื้อสายของอาโรนในการปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าอยู่ดี
เพียงแต่ ปุโรหิตที่ดีจะพบจุดจบที่ดี และปุโรหิตที่ไม่ดีจะพบจุดจบที่น่าเศร้า

วันนี้ ที่พระเจ้ายังคงใช้เราในการปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าอยู่นั้น
ไม่ใช่เพราะเราเป็นคนดี หรือทำได้ดี
แต่เป็นเพราะพระเจ้าทรงเมตตาเรา ทรงเลือกเราให้ปรนนิบัติรับใช้พระองค์
ดังนั้นเราควรทำอย่างดีที่สุดให้สมกับเกียรติที่พระเจ้าประทานให้นี้
เพื่อเราจะได้พบกับจุดจบที่ดีอย่างสง่างาม

คำคม

“ การรับใช้พระเจ้า เป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่ ”

สรุป 1พงศาวดาร 7

ภาพรวม

  • ในบทที่ 7 นี้ พูดถึง เชื้อสาย​ของ​อิส​สา​คาร์​ เผ่า​เบน​ยา​มิน​ เผ่า​นัฟ​ทาลี​ เผ่ามนัส​เสห์ เผ่าเอฟ​รา​อิม​ และเผ่าอา​เชอร์​

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 7 ต่อเนื่องจาก บทที่ 6 ซึ่งพูดถึงเชื้อสายของของเลวี ซึ่งพระเจ้าทรงเลือกให้ปรนนิบัติรับใช้พระองค์ในพระนิเวศน์ของพระองค์

ในบทที่ 7 พูดถึง เชื้อสาย​ของเผ่าต่างๆดังนี้

เชื้อสาย​ของ​อิส​สา​คาร์​ คือ​ โท​ลา ปู​อาห์ ยา​ชูบ และ​ชิม​โรน
เฉพาะเชื้อสาย​ของ​โท​ลา มี​นัก​รบ​กล้า​หาญ​ใน​สมัย​​ของ​ดาวิด​คือ 58,600 คน
และญาติ​พี่​น้อง​ของ​พวก​เขา เป็น​นัก​รบ​กล้า​หาญ​ อีก 87,000 คน

เชื้อสายของ​เบน​ยา​มิน​ คือ ​เบ​ลา เบ​เคอร์ และ​เย​ดี​ยา​เอล
เฉพาะเชื้อสาย​ของ​เบ​ลา​ มีนัก​รบ​กล้า​หาญ 22,034 คน ตาม​ทะ​เบียน​ลำดับ​พงศ์
เชื้อสาย​ของ​เบ​เคอร์ มี​นัก​รบ​กล้า​หาญ​ 22,000 คน
เชื้อสาย​ของ​​เย​ดี​ยา​เอล​ มี​นัก​รบ​กล้า​หาญ​ 17,200 คน

เชื้อสาย​ของ​นัฟ​ทาลี​ (​บุตร​ของ​นาง​บิล​ฮาห์) คือ ​ยา​ซี​เอล กุนี เย​เซอร์ และ​ชัล​ลูม

เชื้อสายของ​มนัส​เสห์ ​คือ ​อัส​รี​เอล
ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของ​เศ​โล​เฟ​หัด ที่​เหล่าบุตรสาว​ของเขา ได้ไปขอกรรมสิทธิ์ที่ดินจากโมเสส(กดว. 27:1-11)

เชื้อสายของ​เอฟ​รา​อิม ​คือ​ ชูเธ​ลาห์ เบรี​ยาห์ ​เร​ฟาห์
ซึ่งเร​ฟาห์ เป็นบรรพบุรุษของ นูน ผู้เป็นพ่อของ โย​ชู​วา (ผู้นำต่อจากโมเสส)
เมืองในดินแดนของ​พวก​เขา​ คือ​ เบธ​เอล​ นา​อา​รัน​ด้าน​ตะวัน​ออก ​เก​เซอร์​ด้าน​ตะวัน​ตก​ ​เช​เคม​ อัย​ยาห์ เบธ​ชาน​ ทา​อา​นาค​ เม​กิด​โด และ โดร์​

เชื้อสายของ​อา​เชอร์​ คือ อิม​นาห์ อิช​วาห์ อิช​วี เบรี​ยาห์ และ​เส​ราห์​น้อง​สาว​ของ​เขา
เชื้อสายของพวกเขา เป็น​นักรบ​กล้า​หาญ​ที่​ถูก​คัด​เลือก​ไว้​เป็น​ผู้นำ​ 26,000 คน

1. สมัยโมเสส จำนวนนักรบ​ใน​เผ่า​อิส​สา​คาร์​คือ 54,400 คน(กดว. 1:29 ​) พอถึงสมัยดาวิดเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า เป็น 145,000 คน
​ส่วน​เผ่า​เบน​ยา​มิน เพิ่มขึ้นจาก 35,400 คน(กดว. 1:37) เป็น 61,234 คน
นี่เป็นเพียงตัวอย่างของบางเผ่า
เพราะพระเจ้าทรงสัญญากับอับราฮัมที่จะอวยพรลูกหลานของเขา
เมื่อวันเวลาผ่านไป จำนวนลูกหลานของเขา ก็เพิ่มทวีมากขึ้นจริงๆ ตามพระสัญญา
ถึงแม้ว่า ที่ผ่านมาลูกหลานของอับราฮัมหลายต่อหลายคน ทำตัวไม่เหมาะสม
พระเจ้าก็ยังคงรักษาสัญญากับอับราฮัมอยู่ดี

หมายเหตุ :
ส่วนเผ่า อา​เชอร์ แม้จำนวนนักรบจะลดลงจาก 41,500 คน (กดว. 1:41 ​) เหลือ 26,000 คน แต่คนเหล่านี้เป็น​นักรบ​ที่​ถูก​คัด​เลือก​ไว้​เป็น​ผู้นำ​ (ข้อ 40)ซึ่งแสดงว่ามีมากกว่านี้ แต่เผ่านี้คัดออกมาเฉพาะผู้นำ

2. ในบทนี้ พูดถึงเผ่าเอฟราอิม ด้วยการอ้างถึงว่า
โยชูวา ผู้นำคนสำคัญที่สุดรองจากโมเสส มาจากเผ่านี้
โมเสส มาจากเผ่าเลวี ซึ่งเป็นเผ่าที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกำลังทหารในการศึกสงคราม
จึงเรียกได้ว่า เผ่าของโยชูวาสำคัญที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในการศึกสงคราม คือเผ่าเอฟราอิม
และในบทนี้ยังบอกถึงดินแดนอันกว้างใหญ่ ที่เผ่าเอฟราอิมครอบครองอีกด้วย

ที่บันทึกเรื่องนี้ ไว้บทต้นๆของหนังสือพงศาวดาร
คงเป็นเพราะ ต่อไปเผ่าเอฟราอิม จะเป็นเผ่าหลักในการทำให้อิสราเอลแบ่งเป็น 2 อาณาจักร
(เยโรโบอัม ก็มาจากเผ่านี้)
ผู้เขียนจึงบันทึกเพื่อให้เห็นความยิ่งใหญ่ และมีชื่อเสียงของเอฟราอิม

ความยิ่งใหญ่ของเอฟราอิม ถูกเตรียมไว้ เพื่อแผนการของพระเจ้าสำหรับอิสราเอลจะสำเร็จ

วันนี้ การที่ใครบางคนได้ดิบได้ดี เป็นใหญ่เป็นโต
ทั้งที่ดูแล้ว ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับเขาได้เลย
ให้เราพึงรู้เถิดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขานั้น ไม่ใช่เพราะเขาเก่งหรือดี
แต่เพราะว่าพระเจ้าทรงมีแผนการบางอย่าง สำหรับความสำเร็จของเขา

คำคม

“ พระสัญญา และ แผนการ ของพระเจ้า จะเกิดขึ้นเป็นจริงเสมอ ”

สรุป 1พงศาวดาร 8

ภาพรวม

  • ในบทที่ 8 นี้ พูดถึง เชื้อสาย​ของเบนยามิน ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของซาอูล กษัตริย์องค์แรกของอิสราเอล

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 8 ต่อเนื่องจาก บทที่ 7 ซึ่งพูดถึง เชื้อสาย​ของ​อิส​สา​คาร์​ เผ่า​เบน​ยา​มิน​ เผ่า​นัฟ​ทาลี​ เผ่ามนัส​เสห์ เผ่าเอฟ​รา​อิม​ และเผ่าอา​เชอร์​

ในบทที่ พูดถึงเชื้อสายของเบน​ยา​มินอีกครั้ง แต่เน้นให้เห็นว่า เบนยามินเป็นบรรพบุรุษของซาอูล
บุตรของเบนยามิน ได้แก่ ​เบ-ลา​ , อัช​เบล(​เย​ดี​ยา​เอล 1พศด. 7:6)​ , อา​หะ​ราห์(อา​หิ​รัม​ กดว.26:38 หรือ เอไฮ ปฐก. 46:21) , โน​ฮาห์(เบเคอร์ 1พศด. 7:6) , รา​ฟา(โรช ปฐก. 46:21)​
ซึ่งต่อมาเชื้อสายของ​เบ-ลา ​​เป็นผู้นำอาศัย​ใน​เย​รู​ซา​เล็มและ​ใน​กิเบ​โอน

ใน​กิเบ​โอน มีชายชื่อ​อา​บี​เอล(1ซมอ. 9:1) หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า ​เย​อี​เอล​(1พศด. 9:35) ​อาศัย​อยู่ มี​ภรร​ยา​ชื่อ​ มา​อา​คาห์
เขาบรรพบุรุษของ​คีช ซึ่งคีช​เป็น​บิดา​ของ​ซาอูล (กษัตริย์องค์แรกของอิสราเอล)
ซาอูล มีบุตรชื่อ โย​นา​ธาน มัล​คี​ชู​วา อา​บี​นา​ดับ และ​เอช​บา​อัล

1. พระเจ้าทรงจัดเตรียมให้ซาอูล เกิดในเผ่าเบนยามิน เผ่าที่เป็นนักรบที่เก่งกาจ โดยที่เผ่าเบนยามินเผ่าเดียว สามารถต่อกรกับเผ่าของอิสราเอลทั้ง 11 เผ่า รวมกันได้ (วนฉ.20)
เพื่อให้เขาเหมาะที่จะเป็นกษัตริย์องค์แรกของอิสราเอล

พระเจ้าทรงเตรียมซาอูลเป็นกษัตริย์ ก่อนที่เขาจะเกิดมาเสียอีก

พระเจ้าทรงมีแผนการสำหรับชีวิตของเรา ที่ให้เราเกิดมาในครอบครัวของเราในปัจจุบันนี้
เราควรให้พระเจ้าสอนและนำเราว่า
พระองค์มีพระประสงค์อะไรในชีวิตของเรา ที่ให้เราเกิดมาในครอบครัวของเรานี้

2. บุตรของเบนยามิน ในพระคัมภีร์ 1พศด.7 , กดว.26 , ปฐก.46 และ 1พศด.8 นี้ มีชื่อไม่เหมือนกัน
ซึ่งกรณีที่เราเห็นสิ่งที่ผิดปกติในพระคัมภีร์
สรุปได้เลยว่า ไม่ใช่พระคัมภีร์ผิดปกติ แต่เราคงเข้าใจหรือมีข้อมูลไม่มากพอ
และเมื่อเราศึกษาต่อไปเรื่อยๆ ก็จะพบความจริงว่า พระคัมภีร์ถูกต้องเสมอ
จากประเด็นข้างต้น หลังจากศึกษาเพิ่มเติมจากคู่มืออธิบายพระคัมภีร์อีกหลายเล่ม
ก็ทำให้เข้าใจว่า คนเหล่านั้นบางคนมีชื่อที่แตกต่างกัน มากกว่า 1 ชื่อ

พระคัมภีร์เป็นจริงเสมอ เพียงแต่เราอาจจะยังมีข้อมูลไม่พอที่จะเข้าใจบางประเด็นเท่านั้นเอง

คำคม

“ พระเจ้าทรงมีแผนการสำหรับชีวิตของเรา ตั้งแต่ก่อนที่เราจะเกิดมา ”

สรุป 1พงศาวดาร 9

ภาพรวม

  • ในบทที่ 9 นี้ พูดถึง ผู้​กลับ​มา​จาก​การเป็นเชลยในกรุง​บา​บิ​โลน และทบทวนถึงต้นตระกูลของกษัตริย์ซาอูลอีกครั้ง

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 9 ต่อเนื่องจาก บทที่ 8 ซึ่งพูดถึงเชื้อสาย​ของเบนยามิน ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของซาอูล กษัตริย์องค์แรกของอิสราเอล

ในบทที่ 9 นี้ พูดถึง พงศ์พันธุ์​อิส​รา​เอลที่กลับมาจากการ​ถูก​จับ​ไป​เป็น​เชลย​ใน​บา​บิ​โลน ดังนี้
พวก​แรก​ที่​เข้า​มา​อาศัย​ใน​ที่​กรรม​สิทธิ์​ของ​เขา ใน​บรร​ดา​เมือง​ของ​เขา​ ​คือ พวก​ปุโร​หิต พวก​เลวี และ​พวก​คน​ใช้​ประ​จำ​พระ​วิหาร
และ​ใน​เย​รู​ซา​เล็ม​มี​บุตร​หลาน​ ของ​ยู​ดาห์ 690 คน
ของเบน​ยา​มิน 956 คน และบางส่วนจากเผ่า​เอฟ​รา​อิม และเผ่า​​มนัส​เสห์ อาศัย​อยู่

จาก​พวก​ปุโร​หิต มี​เย​ดา​ยาห์ , เย​โฮ​ยา​ริบ , ยา​คีน , อา​ซา​ริ​ยาห์(ผู้ซึ่งเป็นหัว​หน้า​ผู้​ดูแล​พระ​วิหาร​ของ​พระ​เจ้า) , อา​ดา​ยาห์ ​และ​มา​อา​สัย และ​บรร​ดา​ญาติ​ของ​พวก​เขา รวม​เป็น 1,760 คน
พวกเขาเป็น​คน​มีความ​สา​มารถ​มาก​สำ​หรับ​งาน​ปรน​นิบัติ​ใน​พระ​วิหาร​ของ​พระ​เจ้า

จาก​คน​เลวี มี​เช​ไม​อาห์​ , ​บัค​บัค​คาร์ , เฮ​เรช , กา​ลาล , มัท​ธา​นิ​ยาห์ , ​โอ​บา​ดีห์ และ​เบ​เรค​ยาห์​

บรร​ดา​ผู้​เฝ้า​ประ​ตู ​คือ ชัล​ลูม อัก​ขูบ ทัล​โมน อา​หิ​มาน และ​บรร​ดา​ญาติ​ของ​พวก​เขา (ชัล​ลูม​เป็น​ผู้นำ)
คน​โค​ราห์ เป็น​ผู้​ดูแล​การ​งาน​ปรน​นิบัติ เป็น​ผู้​เฝ้า​ธรณี​ประ​ตู​ของ​เต็นท์
เศ​คา​ริ​ยาห์ เป็น​ผู้​เฝ้า​ทาง​เข้า​ประ​ตู​เต็นท์​นัด​พบ
​ผู้​เฝ้า​ประ​ตู​ที่​ธรณี​ทั้ง​หมด​มี 212 คน
ผู้​เฝ้า​ประ​ตู​เหล่านี้ ต้อง​เข้า​มา​ทุกๆ 7 วัน​ตาม​เวลา​กำ​หนด
หัวหน้าของพวกเขา คือ นาย​ประ​ตู มี​ตำ​แหน่ง​รับ​ผิด​ชอบ เป็น​ผู้​ดูแล​ห้อง​และ​คลัง​ของ​พระ​วิหาร​ของ​พระ​เจ้า
​พวก​เขา​พัก​อาศัย​อยู่​รอบ​พระ​วิหาร​ของ​พระ​เจ้า
พวก​เขา​มี​หน้า​ที่​เปิด​ประ​ตู​ทุก​เช้า
บาง​คน​ในพวก​เขา​ เป็น​คน​ดูแล​เครื่อง​ใช้​ใน​การ​ปรน​นิบัติในพระวิหาร และจัดเตรียมอุปกรณ์สิ่งของต่างๆ

เหล่า​นัก​ร้อง ​คือ​ผู้​นำ​ตระ​กูล​คน​เลวี​ ผู้​อา​ศัย​อยู่​ใน​ห้อง​ใน​พระ​วิหาร ไม่​ต้อง​ทำ​การ​ปรน​นิบัติ​อย่าง​อื่น
เพราะ​พวก​เขา​อยู่​เวร​ทั้ง​กลาง​วัน​และ​กลาง​คืน

แล้วผู้เขียน 1 พงศาวดาร ย้อนกลับไปสรุปต้นตระกูลของกษัตริย์ซาอูลอีกครั้งในบทนี้ ข้อความเหมือนกับใน 1พศด. 9:35-44 ก่อนที่จะพูดถึงการ​สิ้น​พระ​ชนม์ของซา​อูลในบทถัดไป

1. ก่อนหน้าที่จะตกเป็นเชลยอาณาจักรอิสราเอลแตกแยกเป็น 2 อาณาจักร
แต่เมื่อกลับมาจากเป็นเชลย พวกเขาเข้ามาอาศัยอยู่ด้วยกัน
เฉพาะในเยรูซาเล็มมีเผ่ายูดาห์ เผ่าเบนยามิน เผ่าเลวี เผ่าเอฟราอิม และเผ่ามนัสเสห์ (ข้อ 3)

การที่กรุงสะมาเรียแตก และกรุงเยรูซาเล็มแตก สาเหตุจากการที่พวกเขาละทิ้งพระเจ้า
หันไปทำสิ่งชั่วร้าย เช่นเอาลูกมาเผาบูชายันต์แก่รูปเคารพ ฯลฯ
พระพิโรธของพระเจ้าจึงตกมาสู่พวกเขา

ท่ามกลางพระพิโรธนั้น เรายังเห็นพระเมตตาของพระเจ้า ต่อประชากรของพระองค์
ในที่สุดพระองค์ทรงนำพวกเขากลับมา
และในที่สุดพวกเขากลับเป็นชนชาติเดียวกันอีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเกิดขึ้น

สถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญ สาเหตุอาจจะเกิดจากความผิดพลาดหรือความบาปของเราเอง
ถึงกระนั้นในท่ามกลางสถานการณ์นี้ เรายังสามารถเห็นพระคุณพระเมตตาของพระเจ้าที่มีต่อเราได้

2. คนกลุ่มแรกๆที่ได้กลับมาจากการเป็นเชลย ไม่ใช่เหล่านักรบผู้กล้าหาญ
แต่เป็นเหล่าปุโรหิตและเลวี ผู้ทำหน้าที่ปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า
เพื่อให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า
การได้กลับมาจากการเป็นเชลยนี้ เป็นมาจากพระเจ้าแน่นอน

พระเจ้าจะทรงดูแล ผู้ที่ปรนนิบัติรับใช้พระองค์เสมอ
ไม่ว่าคนนั้นจะทำสิ่งเล็กน้อยสักเพียงใดก็ตาม
เช่นเป็นเพียงคนเฝ้าธรณีประตู เป็นต้น

หากเราสัตย์ซื่อในการรับใช้พระเจ้า พระองค์จะทรงสำแดงความสัตย์ซื่อในพันธสัญญาของพระองค์แก่เรา

3. เหล่านักร้อง ต้องอาศัยในพระวิหาร และไม่ต้องทำงานรับใช้อื่นๆ เพราะงานของพวกเขามีการเข้ากะทั้งกลางวันและกลางคืน

เราไม่จำเป็นต้องเก่งทุกอย่าง หรือรับใช้ทุกด้าน
เพียงแค่ทำด้านที่พระเจ้าเปิดโอกาสให้เราทำ อย่างเต็มกำลังนั่นก็เพียงพอแล้ว
มันอาจจะดูไม่หรูหรา ไม่ตื่นเต้น ไม่น่าท้าทายเหมือนของคนอื่น
ซึ่งนั่นก็ไม่สำคัญเลย
ขอเพียงเราได้ทำหน้าที่ของเราที่ได้รับมอบหมายอย่างสัตย์ซื่อ
แม้จะดูเหมือนเราไม่ทำมากมายหลายอย่างเหมือนคนอื่น
แต่เรายังคงเป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ หากเราทำส่วนของเราอย่างสัตย์ซื่อ

คำคม

“ ผู้ที่สัตย์ซื่อในการรับใช้ จะได้รับพระพรตามพระสัญญาจากพระเจ้าผู้ทรงสัตย์ซื่อ ”

สรุป 1พงศาวดาร 10

ภาพรวม

  • ซาอูลและโอรสทั้ง 3 ตายในสงครามสู้รบกับพวกฟิลิสเตีย สาเหตุเพราะซาอูลไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 10 ต่อเนื่องจาก บทที่ 9 ซึ่งพูดถึง ผู้​กลับ​มา​จาก​การเป็นเชลยในกรุง​บา​บิ​โลน และทบทวนถึงต้นตระกูลของกษัตริย์ซาอูลอีกครั้ง
จากนั้นในบทที่ 10 ก็เริ่มพูดถึงเรื่องของกษัตริย์ซาอูล ดังนี้

มีสงครามระหว่าง คน​ฟีลิส​เตีย​กับ​คน​อิส​รา​เอล
​และ​คน​อิส​รา​เอล​ก็พ่ายแพ้ ล้ม​ตาย​อยู่​ที่​บน​ภูเขา​กิล​โบ​อา
โย​นา​ธาน อา​บี​นา​ดับ และ​มัล​คี​ชู​วา พวกโอรส​ของ​ซา​อูล​ ก็ถูกฆ่าตาย

ซา​อูล ถูกธนูยิงบาด​เจ็บ​
​ซา​อูล​จึงสั่ง​ให้คน​ถือ​อาวุธ​ของ​พระ​องค์ ฆ่าพระองค์เสีย อย่าให้พวกฟิลิสเตียจับตัวได้
แต่เขากลัวมากจึง​ไม่​ยอม​ทำ​ตาม
ซา​อูล​จึง​ชัก​ดาบ​ออก ทรง​ล้ม​ทับ​ดาบ​นั้นจนตาย
แล้วผู้​ถือ​อาวุธ​นั้น​ก็​ล้ม​ทับ​ดาบ​ของ​เขา​ตาย​ด้วย

เมื่อ​คน​อิส​รา​เอล ผู้​อยู่​ใน​หุบ​เขา​ เห็น​ว่า​พวก​ทหาร​หนี​ไป และ​ซาอูล​กับ​พวก​โอรส​ตายแล้ว
พวก​เขา​ก็​ทิ้ง​เมือง​ ​และ​หลบ​หนี​ไป
คน​ฟีลิส​เตีย​ก็​เข้า​มา​อาศัย​อยู่​ใน​ที่​เหล่า​นั้น

วัน​รุ่ง​ขึ้น เมื่อ​คน​ฟี​ลิส​เตีย ​พบ​ศพ​ซา​อูล​และ​โอรส​ทั้ง​สาม​
จึงตัดเอา​ศรีษะของซาอูล​ไป​ไว้​ใน​วิหาร​ของ​พระ​ดา​โกน
และเอาศพแขวนไว้ที่​กำแพง​เมือง​เบธ​ชาน (1ซมอ. 31:10)

​เมื่อ​ชาว​ยา​เบช​กิ​เล​อาด​ ​ได้​ยิน​เรื่อง​ทั้ง​หมด​
นักรบ​เก่ง​กล้า​ทุก​คน​ก็​บุกไป เอา​ศพ​ของ​ซา​อูล และเหล่า​โอรส​ มาเผา (1ซมอ. 31:12) แล้วนำ​อัฐิมาฝังใน​ยา​เบช และ​อด​อา​หาร 7 วัน

ซา​อูล​ตายเพราะความ​ไม่​ซื่อ​สัตย์​ของ​เขา ไม่​ได้​ปฏิบัติ​ตาม​พระ​บัญชา​ของพระเจ้า และ​ยัง​ทรง​ไป​แสวง​หา​คำ​ทำ​นาย​จาก​คน​ทรง ​ไม่​ได้​ทรง​แแสวงหาพระเจ้า
พระเจ้า​จึง​ทรง​ประ​หารเขาเสีย และ​ทรง​ยก​ราช​อา​ณา​จักร​ให้​แก่​ ดาวิด​ บุตร​เจส​ซี

1. เนื้อหาในบทนี้ ข้อ 1-12 เป็นเนื้อหาซ้ำกับใน 1ซมอ. 31 มีรายละเอียดต่างกันบ้างเพียงเล็กน้อย
น่าจะเพื่อชี้ให้เห็นถึงข้อสรุปในข้อที่ 13-14 ที่สรุปว่า
สิ่งที่เกิดขึ้นกับซาอูลและครอบครัวนั้น ก็เพราะว่า
เขาไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า ไม่เชื่อฟังพระองค์ ละทิ้งพระเจ้า
จนมีเหตุร้ายเกิดขึ้น ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่แสวงหาความช่วยเหลือจากพระเจ้า
แต่ไปแสวงหาคนทรงแทน

เมื่อผู้ใดทำสิ่งที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า หรือไม่เชื่อฟังพระองค์ หรือหันหลังให้กับพระองค์
เขากำลังวิ่งออกไปจากที่กำบังเข้มแข็งที่คอยปกป้องเขามาโดยตลอด
เมื่อนั้นเขากำลังตกอยู่ในอันตราย
สิ่งที่เขาสมควรทำอย่างที่สุดคือ
หันกลับมาหาพระเจ้า แทนที่จะไปหาความช่วยเหลือจากสิ่งอื่น หรือพึ่งพาสิ่งอื่น
เมื่อเขาขอพระเมตตาและการช่วยเหลือจากพระเจ้า
เขาจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

2. ซาอูลพ่ายแพ้ฟิลิสเตีย และถูกสงครามกดดันจนฆ่าตัวตายเอง
แต่พระคัมภีร์กล่าวว่า พระเจ้าทรงประหารเขา
เพราะว่าแม้ซาอูลตายเพราะทำศึกพ่ายแพ้เอง แต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของพระเจ้า
เพื่อให้คำตรัสของพระองค์และแผนการของพระองค์สำเร็จ
จนดาวิดที่พระองค์ทรงเจิมตั้งไว้ ได้เป็นกษัตริย์แทนซาอูล

วันนี้ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ว่าสาเหตุเกิดจากการกระทำของใครก็ตาม
ทั้งหมดยังอยู่ภายใต้การควบคุมของพระเจ้า ผู้ทรงรักเราอย่างที่สุด

คำคม

“ ผู้ทอดทิ้งพระเจ้า ก็กำลังวิ่งออกจากที่กำบังเข้มแข็งที่คอยปกป้องเขา ”

สรุป 1พงศาวดาร 11

ภาพรวม

  • ดาวิดได้ถูกเชิญขึ้นเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล โดยมีเหล่านักรบที่เก่งกาจจำนวนมากที่อยู่ข้างกาย ทำให้แผ่นดินของดาวิดมั่นคง

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 11 หลังจากที่ซาอูลและโอรสทั้ง 3 ตายในสงครามสู้รบกับพวกฟิลิสเตียแล้ว

อิส​รา​เอล​ทั้ง​หมดก็​มาหา​ดาวิด​ที่​เมือง​เฮ​โบรน​
เพื่อทูลขอให้ดาวิดขึ้นเป็น​พระ​ราชาปกครองอิสราเอล
ดาวิด​ทรง​ทำ​พันธ​สัญ​ญา​กับพวก​เขา​ ​เฉพาะ​พระ​พักตร์พระเจ้า
และพวก​เขา​​ก็​เจิม​ตั้ง​ดาวิด​ให้​เป็น​พระ​ราชา​เหนือ​อิส​รา​เอล
ตาม​พระ​ดำรัส​ของ​พระเจ้าโดย​ซา​มู​เอล

ดาวิด​และ​คน​อิส​รา​เอล​ทั้ง​สิ้น​ไป​ยัง​เย​รู​ซา​เล็ม​(​เย​บุส)
ทรง​ยึด​ป้อม​ศิ​โยน​ได้ (ต่อมาเรียกว่า ​นคร​ดาวิด)

ดาวิด​รับ​สั่ง​ว่า ใครโจม​ตี​คน​เย​บุส​ก่อน​จะ​ได้​เป็น​หัว​หน้า และ​ผู้​บัง​คับ​บัญชา
และ​โย​อาบก็​ยก​ขึ้น​ไป​ก่อน เขา​จึง​ได้​เป็น​หัว​หน้า

ดาวิดทรง​ขยาย​เมือง​ให้​กว้าง​ออก​ไป
และ​ดาวิด​ทรง​จำ​เริญ​ยิ่งๆ ขึ้น เพราะ​ว่า​พระเจ้า​สถิต​กับ​พระ​องค์

​ผู้นำของนักรบ​ของ​ดาวิด ผู้​สนับ​สนุน​ดาวิดอย่าง​เข้ม​แข็ง​ใน​ราช​อา​ณา​จักร​ของ​พระ​องค์ มีดังนี้
​ยา​โช​เบ​อัม เป็น​หัว​หน้า
คน​ที่​ถัด​จากเขา​ไป​คือ​เอ​เล​อา​ซาร์
คนที่ 3 คือ ชัม​มาห์(ไม่ได้ถูกเอ่ย ในบทนี้ แต่มีกล่าวไว้ใน 2ซมอ. 23:11)

3 ​คนนี้ ได้บุกไปตักน้ำจากท่ามกลางค่ายของ​คน​ฟีลิส​เตีย​
เพียงเพราะดาวิดตรัสว่า
“ใคร​หนอ​จะ​นำ​น้ำ​จาก​บ่อ​ที่​ข้าง​ประตู​เมือง​เบธ​เล​เฮม​มา​ให้​เรา​ดื่ม​ได้?”
อย่างไรก็ดีดาวิดไม่​ดื่มน้ำนั้น แต่ทรง​เท​น้ำ​นั้น​ถวาย​แด่พระเจ้า

นอกจากนี้ ดาวิดยังมีนักรบที่เก่งกาจ ได้แก่
​อา​บี​ชัย​น้อง​ชาย​ของ​โย​อาบ
​เบ​ไน​ยาห์​
อา​สา​เฮล น้อง​ชาย​ของ​โย​อาบ
และอีกหลายคนรวมทั้ง นา​หะ​รัย ผู้​ถือ​อาวุธ​ของ​โย​อาบ
และ อุรี​ยาห์ คน​ฮิต​ไทต์ (สามีของบัทเชบา)

1. เนื้อหาใน ข้อที่ 1-3 เหมือนกับใน 2ซมอ. 5:1-3 แต่ต่างกันตรงวลีสุดท้ายของ 1พศด.11:3 มีวลีว่า
“ตาม​พระ​ดำรัส​ของ​พระ​ยาห์​เวห์​โดย​ซา​มู​เอล”

ดังนั้นใน บทนี้ 3 ข้อแรก น่าจะเน้นว่า การที่ดาวิดได้เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลนั้น
เป็นเพราะพระเจ้าทรงกำหนดไว้แล้ว ทรงประกาศไว้แล้วโดยผู้เผยพระวจนะของพระองค์

ถึงแม้ในเวลานั้นที่พระเจ้าตรัสโดยซามูเอลนั้น มองไม่เห็นความเป็นไปได้เลยที่ดาวิดจะได้เป็นกษัตริย์ของอิสราเอล
แต่ในที่สุดเขาก็ได้เป็นกษัตริย์ของอิสราเอล
สิ่งที่พระเจ้าตรัสไว้ จะเกิดขึ้นเป็นจริงเสมอ

2. ทหารเอกของดาวิดล้วนแต่เก่งกาจ
โยอาบได้ขึ้นเป็นหัวหน้าของพวกเขาทั้งหมด ไม่ใช่เพราะเก่งกว่าพวกเขา
แต่เพราะว่าบุกขึ้นไปสู้กับเยบุสก่อนใคร
ซึ่งโยอาบนี่เอง ทำให้เกิดเรื่องราวขึ้นมากมาย รวมถึงการฆ่าอับซาโลม โอรสที่กบฏต่อดาวิดด้วย

การที่ใครสักคนหนึ่ง ได้มีบทบาทใดบทบาทหนึ่ง
ไม่จำเป็นว่าเพราะเขามีความสามารถเหมาะสมกับบทบาทนั้น
แต่เมื่อพระเจ้าประสงค์จะใช้บุคลิกของเขา สำหรับแผนการบางอย่างของพระองค์
คนนั้นก็จะได้รับบทบาทนั้น

วันนี้ ไม่ว่าเรามีบทบาทอะไรก็ตาม ไม่ใช่บังเอิญ
แต่พระเจ้าทรงมีแผนการพิเศษบางอย่างสำหรับชีวิตของเรา

และวันนี้ ใครบางคนที่เรารู้จักได้รับบทบาทบางอย่าง ที่เราดูแล้วเขาไม่คู่ควรเลย
พึงรู้เถิดว่า นั่นยังคงอยู่ในแผนการของพระเจ้า
พระองค์ทรงมีแผนการบางอย่างสำหรับบทบาทของเขาในครั้งนี้

คำคม

“ สิ่งที่พระเจ้าตรัส จะเกิดขึ้นเสมอ ”

สรุป 1พงศาวดาร 12

ภาพรวม

  • บทนี้กล่าวถึง ทหารของดาวิด เมื่อดาวิดอยู่ที่ศิกลาก และเมื่อดาวิดอยู่ที่เฮโบรน

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 12 อธิบายเพิ่มเติมจาก บทที่ 11 ที่พูดถึงเหล่านักรบที่เก่งกาจจำนวนมากที่อยู่ข้างกายของดาวิด ซึ่ง ทำให้แผ่นดินของดาวิดมั่นคง

ในบทนี้พูดเกี่ยวกับเหล่าทหารของดาวิด ตอนก่อนดาวิดจะเป็นกษัตริย์เมื่ออยู่ที่ศิกลาก และตอนที่ดาวิดเป็นกษัตริย์แล้วที่เฮโบรน ดังนี้

​คน​ที่​มา​หา​ดาวิด​ที่​ศิก​ลาก ตอนที่ดาวิด​ถูก​ขับ​ไล่​ไป​จาก​ซา​อูล ได้แก่
– คน​เบน​ยา​มิน​ญาติ​ของ​ซาอูล พวกเขาเหวี่ยง​หิน​ด้วย​สลิง​และ​ยิง​ธนู​ได้​ด้วย​มือ​ขวา​หรือ​มือ​ซ้าย ซึ่งมี อา​หิ​เย​เซอร์​เป็น​หัว​หน้า
– นักรบจากอีกหลายเมืองได้แก่ ​ชาวกิเบ​อาห์ ​ชาวอา​นา​โธท ชาว​กิเบ​โอน ชาวเก​เด​ราห์ ชาว​เก​โดร์
– นักรบ​กล้า​หาญ​พร้อม​ทำ​ศึก​สง​คราม​จาก​คน​กาด​ พวก​เขา​ชำ​นาญ​โล่​และ​หอก พวก​เขา​รวด​เร็ว​เหมือน​ละมั่ง​บน​ภูเขา ซึ่งมี เอ​เซอร์​เป็น​หัว​หน้า
– นักรบจากยู​ดาห์​ ซึ่งมี ​อา​มา​สัยเป็นหัว​หน้า
– นักรบจาก​เผ่า​มนัส​เสห์​ ซึ่งเป็นบรร​ดา​หัว​หน้า​กอง​พัน​ใน​เผ่า​มนัส​เสห์

ทุกๆ วัน​มี​คน​มา​เข้า​ฝ่าย​ดาวิด เพื่อ​จะ​ช่วย​เหลือ​พระ​องค์ จน​เป็น​กอง​ทัพ​ใหญ่​อย่าง​กอง​ทัพ​ของ​พระ​เจ้า

ต่อมาเมื่อ​ดาวิด​อยู่ที่​เมือง​เฮ​โบรน ทหารที่มาหาดาวิด เพื่อ​ตั้ง​ดาวิด​ให้​เป็น​พระ​ราชา​เหนือ​อิส​รา​เอล ได้แก่
– คน​ยู​ดาห์​ที่​ถือ​โล่​และ​หอก​มี 6,800 คน
– ​คน​สิ​เม​โอน มี​นักรบ​กล้า​หาญ 7,100 คน
– ​คน​เลวี 4,600 คน
– พงศ์​พันธุ์​อา​โรน นำโดย เย​โฮ​ยา​ดา​ 3,700 คน
– คน​จาก​ตระ​กูล​ของศา​โดก​ นัก​รบ​กล้า​หาญ​หนุ่ม 22 คน
– ​คน​เบน​ยา​มิน​ญาติ​ของ​ซาอูล 3,000 คน
– ​คน​เอฟ​รา​อิม ​นักรบ​กล้า​หาญ​ผู้​มี​ชื่อ​เสียง​ 20,800 คน
– ​คน​มนัส​เสห์​ครึ่ง​เผ่า 18,000 คน
– คน​อิส​สา​คาร์ หัว​หน้า 200 คน ซึ่งญาติ​ทั้ง​หมด​ของ​พวก​เขา​ที่​อยู่​ใต้​บัง​คับ​บัญชา​ของ​พวกเขา​
– ​คน​เศ​บู​ลุน ที่​เตรียม​พร้อม​ออก​รบ​ใน​สง​คราม 50,000 คน​
– ​คน​นัฟ​ทาลี ผู้​บัง​คับ​บัญชา 1,000 คน ซึ่ง​มี​คน​ถือ​โล่​และ​หอก​มา​ด้วย 37,000 คน
– คน​ดาน มี​คน​พร้อม​ทำ​สง​คราม 28,600 คน
– ​คน​อา​เชอร์ ที่​พร้อม​ออกรบ​ใน​สง​คราม 40,000 คน​
– ​คน​รูเบน และ​คน​กาด และ​คน​มนัส​เสห์​ครึ่ง​เผ่า ​จาก​ฟาก​ตะวัน​ออก​ของ​แม่​น้ำ​จอร์​แดน พร้อม​อาวุธ​สง​คราม​ทุก​อย่าง120,000 คน

​คน​อิส​รา​เอล​ที่​เหลือ​อยู่ ก็​เป็น​ใจ​เดียว​กัน​ที่​จะ​ตั้ง​ดาวิด​เป็น​พระ​ราชา

1. ตอนที่ดาวิดตกอับ หนีตายจากซาอูลไปพึ่งฟิลิสเตีย
พระเจ้ายังคงให้มีนักรบมากมาย จากหลายต่อหลายเมืองมาช่วยเสริมกำลังดาวิด
และคนที่มาล้วนเก่งกาจ สังเกตได้จาก ใน 1ซมอ.30 ดาวิดกับพรรคพวกแค่ 400 คน สามารถฆ่าฟันคนอามาเลขที่มาปล้นเมืองศิกลาก ได้อย่างมากมายมหาศาล

ไม่ว่าเราจะตกที่นั่งลำบากสักเพียงใด หากเรายังคงยึดมั่นในความเชื่อวางใจในพระเจ้า
พระองค์จะส่งคนที่พระองค์จัดเตรียมไว้ มาช่วยเราเสมอ

2. ตอนที่ดาวิดจะได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นกษัตริย์ สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งของกษัตริย์ คือ กำลังทหารและการยอมรับจากประชาชน
ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้ ยากเกินกำลังที่ดาวิด ซึ่งมีผู้ติดตามเพียงหยิบมือจะสามารถทำได้

แต่พระเจ้าทรงจัดเตรียมให้แก่ดาวิด มียอดทหารมาสวามิภักดิ์เข้ากับดาวิดมากกว่า 340,000 คน
และประชาชนเองก็ชื่นชมและยอมรับดาวิดเป็นกษัตริย์

ตอนอยู่ศิกลาก ดาวิดจำเป็นต้องมีทหาร สัก 600 คน พระเจ้าก็เตรียมให้ 600 คน
แต่ตอนที่อยู่เฮโบรน พระเจ้าทรงทราบดีว่า 600 คน ไม่เพียงพอแน่สำหรับการเป็นกษัตริย์
พระเจ้าจึงทรงจัดเตรียมทหาร 340,000 คน ให้แก่ดาวิด

พระเจ้าทรงรู้ดีว่า ในสถานการณ์ใดๆของชีวิตของเรา
เราจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือเพียงใด
และพระองค์จะประทานอย่างเพียงพอ ในเวลาของพระองค์ สำหรับเราผู้ดำเนินในความยำเกรงพระองค์

คำคม

“ การจัดเตรียมของพระเจ้า เพียงพอสำหรับเราในทุกสถานการณ์ ”

สรุป 1พงศาวดาร 13

ภาพรวม

  • ดาวิดและคนอิสราเอล พยายามนำหีบพันธสัญญาของพระเจ้า จาก​คีริ​ยาท​เย​อา​ริม มาเยรูซาเล็ม แต่ไม่สำเร็จ

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 13 เมื่อดาวิดได้ขึ้นเป็นกษัตริย์แล้ว ต่อมาก็ย้ายเมืองหลวงมาที่เยรูซาเล็ม

ดาวิด​ทรง​หา​รือ​กับผู้นำประชาชน ให้​เรียกประชาชนทั้ง​หลาย​รวม​ตัว​กัน
และ​ให้​พวก​เรา​นำ​หีบ​แห่ง​พระ​เจ้า​มายังเยรูซาเล็ม
ชุม​นุม​ชน​ทั้ง​สิ้น​นั้น​ก็​ตก​ลง​ที่​จะ​ทำ​ตาม​

ดาวิด​กับ​อิส​รา​เอล​ทั้ง​ปวง​ ​ไป​ยัง​บา​อา​ลาห์​ คือ​ คีริ​ยาท​เย​อา​ริม ในยู​ดาห์
เพื่อ​จะ​ได้​นำ​หีบ​ของ​พระ​เจ้า​มาที่เยรูซาเล็ม

พวกเขา​บรร​ทุก​หีบ​ของ​พระ​เจ้า​ไป​ใน​เกวียน​เล่ม​ใหม่
และ​ดาวิด​กับ​อิส​รา​เอล​ทั้ง​ปวง​ก็​ร่า​เริง​กัน​อยู่​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระ​เจ้า​
เมื่อ​มา​ถึง​ลาน​นวด​ข้าว​ของ​คิโดน โค​ก็สะดุด
อุส​ซาได้​เหยียด​มือ​ออก​จับ​หีบ​ไว้​ พระเจ้าทรง​ประ​หาร​เขา

​ดาวิด​ไม่​พอ​พระ​ทัย​พระเจ้า และ​ทรง​เกรง​กลัว​พระ​เจ้า​ใน​วัน​นั้น
ดาวิด​จึง​ไม่​ได้​ทรง​ย้าย​หีบ​ไป​ถึง​พระ​องค์​ที่เยรูซาเล็ม
แต่​ทรง​นำ​หีบ​อ้อม​ไป​ที่​บ้าน​โอ​เบด​เอ​โดม คน​กัท
พระเจ้า​ทรง​อวย​พร​แก่​ครัว​เรือน​ของ​โอ​เบด​เอ​โดม​กับ​ทั้ง​สิ้น​ซึ่ง​เขา​มี​อยู่

1. ดาวิดปรารถนาที่จะทำถวายพระเจ้า แต่คำด้วยวิธีของตนเอง ซึ่งขัดกับวิธีของพระเจ้า เขาจึงทำไม่สำเร็จ
บัญญัติของโมเสสให้ใช้คนหาม แต่ดาวิดให้ขนด้วยเกวียนใหม่ ซึ่งดูดีกว่า
แม้วิธีของเราซึ่งดูดีกว่าวิธีของพระเจ้า
แต่วิธีของพระเจ้าย่อมได้รับพระพรมากกว่าเสมอ

2.บัญญัติของโมเสสห้ามแตะต้อง แต่อุสซาร์คิดว่ามีความจำเป็นจริงๆเขาจึงยื่นมือไปจับไม่ให้หีบตก
เขาจึงตาย
ไม่มีความจำเป็นใด ที่เป็นเหตุผลที่มากพอจนเราสามารถไม่เชื่อฟังพระเจ้าได้

3. เพราะความไม่พอใจและความกลัว ของดาวิด มีมากจนกลบผลดีของการนำหีบมายังเยรูซาเล็ม
ดังนั้นเขาจึงเลิกนำหีบมาที่เยรูซาเล็มอย่างที่ตั้งใจ
ซึ่งต่อมา เมื่อเขาเห็นผลดีมากมาย จนกลบความไม่พอใจและความกลัวของเขาได้
เขาจึงได้กลับมาเริ่มโครงการนี้อีกครั้ง ในบทที่ 15

จนกว่าเราจะเข้าใจผลดีอย่างแท้จริง ของการทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า
แล้วเราก็จะทำตามน้ำพระทัยแบบไม่ยอมให้มีอะไรเป็นอุปสรรคขัดขวางได้

คำคม

“ วิธีของพระเจ้า นำพระพรมาสู่ชีวิต มากกว่าวิธีของเราเสมอ ”

สรุป 1พงศาวดาร 14

ภาพรวม

  • พระเจ้าอวยพระพรดาวิดในทุกๆด้าน เพราะดาวิดเชื่อฟังและยำเกรงพระเจ้า

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 14 แม้ดาวิดและคนอิสราเอล พยายามนำหีบพันธสัญญาของพระเจ้า จาก​คีริ​ยาท​เย​อา​ริม มาเยรูซาเล็ม แต่ไม่สำเร็จ ถึงกระนั้นพระเจ้าก็ยังคงอวยพระพรดาวิด

ฮี​ราม​ พระ​ราชา​เมือง​ไทระ ได้​ส่ง​ไม้​สน​สีดาร์ ทั้ง​ช่าง​ก่อ​และ​ช่าง​ไม้​เพื่อ​ช่วย​สร้าง​วัง​ให้ดาวิด
ดาวิด​ทรง​ทราบ​ว่า​พระเจ้าทรง​ตั้ง​พระ​องค์​เป็น​พระ​ราชา​เหนือ​อิส​รา​เอล
เพราะ​อา​ณา​จักร​ของ​ดาวิดเจริญก้าวหน้าอย่างมาก

เมื่อย้ายมาที่กรุง​เย​รู​ซา​เล็ม ดาวิด​ทรง​รับ​มเห​สี​เพิ่ม​ขึ้น​ และทรง​มี​โอรส​และ​พระ​ธิดา​อีกหลายองค์ ดังนี้
​ชัม​มุ​วา โช​บับ นา​ธัน ซา​โล​มอน อิบ​ฮาร์(พระเจ้าทรงเลือก) เอ​ลี​ชู​วา(พระเจ้าทรงเป็นความรอด) เอล​เป​เลท(พระเจ้าทรงเป็นผู้ปลดปล่อย) โน​กาห์ เน​เฟก ยา​เฟีย เอ​ลี​ชา​มา(พระเจ้าของข้าพเจ้าทรงสดับ) เบ​เอล​ยา​ดา (พระเจ้าทรงทราบ) และเอ​ลี​เฟ​เลท

ต่อมา​คน​ฟีลิส​เตีย​ได้ยกทัพมาต่อสู้​ดาวิด และเข้ามา​ปล้น​ใน​หุบ​เขา​เร​ฟา​อิม
ดาวิด​ก็​ทูล​ถาม​พระ​เจ้า​
พระเจ้าสั่งให้ ดาวิด​ขึ้น​ไปสู้
ดาวิดก็ทำตามและได้รับชัยชนะ
พวกฟิลิสเตียก็​ทิ้ง​บรร​ดา​รูป​เคา​รพ​ไว้แล้วหนีไป ดาวิด​ก็สั่งให้เผา​รูป​เคา​รพ​เหล่า​นั้น​ทิ้งเสีย

และ​คน​ฟีลิส​เตีย​ยัง​มา​ปล้น​ใน​หุบ​เขา​นั้น​อีก
​ดาวิด​ทูล​ถาม​พระ​เจ้า​อีก​ครั้ง​หนึ่ง
พระ​เจ้าสั่งไม่ให้ขึ้นไปสู้ แต่ให้ล้อม​พวก​เขา​ไว้ จนกว่าจะได้​ยิน​เสียง​กระ​บวน​ทัพ​อยู่​ที่​ยอด​หมู่​ต้น​ยาง​แล้ว ก็ค่อย​ออก​ไป​รบ
​ดาวิดก็​ทำ​ตาม​ และได้รับชัย​ชนะ

กิตติ​ศัพท์​ของ​ดาวิด​ก็​ลือ​ไป​สู่​ประ​เทศ​ทั้ง​ปวง
และ​พระเจ้าทรง​ให้​ประ​ชา​ชาติ​ทั้ง​ปวง​ครั่น​คร้าม​ดาวิด

1. พระเจ้าทรงตั้งดาวิดเป็นกษัตริย์ ดังนั้นอาณาจักรของดาวิดจึงเจริญอย่างยิ่ง
ท่าทีของดาวิดที่มีต่อพระเจ้า คือ เขารักพระเจ้า และพึ่งพาพระองค์อยู่เสมอ
สังเกตจากชื่อ ลูกของเขา หลายคนเป็นชื่อที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้า
และในการรบเขาพึ่งพาพระเจ้า ทูลถามพระองค์เสมอ
แม้แต่การรบกับฟิลิสเตียที่เขาเคยชนะมาแล้ว และรบกันในที่เดิม
เขาก็ยังถามพระเจ้า
ซึ่งปรากฏว่า ทั้งสองครั้ง พระเจ้าสั่งให้ดาวิดทำไม่เหมือนกัน
และเพราะดาวิดเชื่อฟังพระเจ้า เขาจึงได้รับชัยชนะทั้งสองครั้ง

ท่าทีที่เราสมควรมีต่อพระเจ้า คือ รักและผูกพันกับพระองค์อยู่เสมอ
ให้พระเจ้าเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรา ทุกส่วนในชีวิต
พึ่งพาพระเจ้า ด้วยการทูลถามขอการทรงนำจากพระองค์เสมอ
และเชื่อฟังการนำจากพระองค์

2. ทั้งที่ดาวิดรักพระเจ้า แต่กลับมีข้าศึกอย่างฟิลิสเตียมาบุก
ซึ่งดูเหมือนเป็นสิ่งไม่ดี แต่ความจริงเป็นพระพรจากพระเจ้า
เพราะชัยชนะที่ดาวิดมีเหนือฟิลิสเตียในครั้งนั้น
ทำให้กิตติ​ศัพท์​ของ​ดาวิด​ก็​ลือ​ไป​ทั่ว และ​ประ​ชา​ชาติ​ทั้งหลายจึงครั่น​คร้าม​ดาวิด

เมื่อเราดำเนินชีวิตถูกต้องกับพระเจ้า รักพระองค์ เชื่อฟังพระองค์
ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ว่าดูเหมือนจะไม่ดีสักเพียงใด
ในที่สุดก็จะกลับกลายเป็นพระพรยิ่งใหญ่สำหรับเรา

คำคม

“ ผู้ที่รักและผูกพันกับพระเจ้า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาล้วนแต่จะเป็นพระพร ”

สรุป 1พงศาวดาร 15

ภาพรวม

  • ดาวิด ให้ปุโรหิตและเลวี ร่วมกันนำหีบพันธสัญญามาไว้ที่เยรูซาเล็ม และดาวิดพร้อมกับประชาชนก็ชื่นชมยินดียิ่งนัก

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 15 เมื่อพระเจ้าอวยพระพรดาวิดในทุกๆด้าน เพราะดาวิดเชื่อฟังและยำเกรงพระเจ้าแล้ว


ดาวิดจึงสร้าง​พระ​ราช​วัง​ต่างๆ เพื่อ​พระ​องค์​ใน​เยรูซาเล็ม
และ​ดาวิดทรง​ตั้ง​เต็นท์และเตรียม​ที่​ไว้​สำ​หรับ​หีบ​ของ​พระ​เจ้า​

แล้ว​ดาวิด​ตรัส​ว่า “นอก​จาก​คน​เลวี​แล้ว​ไม่​มี​ใคร​จะ​หาม​หีบ​ของ​พระ​เจ้า​ได้”
​ดาวิด​ทรง​ประ​ชุม​อิส​รา​เอล​ทั้ง​สิ้น​ที่​เย​รู​ซา​เล็ม เพื่อ​จะ​นำ​หีบ​ของพระเจ้ามาที่เยรูซาเล็ม

​ดาวิด​​รวบ​รวม​เชื้อ​สาย​ของ​อา​โรน​และ​คน​เลวี ดังนี้
– ​​เชื้อ​สาย​ของ​โค​ฮาท 120 คน มี อุรี​เอล​เป็น​หัว​หน้า
– ​เชื้อ​สาย​ของ​เม​รา​รี​ 220 คน มี ​อา​สา​ยาห์​เป็น​หัว​หน้า​
– ​เชื้อ​สาย​ของ​เกอร์​โชม 130 คน มี ​โย​เอล​เป็น​หัว​หน้า​
– เชื้อ​สาย​ของ​เอ​ลี​ชา​ฟาน​ 200 คน มี ​เช​ไม​ยาห์​เป็น​หัว​หน้า
– เชื้อ​สาย​ของ​เฮ​โบรน 80 คน มี ​เอ​ลี​เอล​เป็น​หัว​หน้า
– ​เชื้อ​สาย​ของ​อุส​ซี​เอล 112 คน มี ​อัม​มี​นา​ดับ​เป็น​หัว​หน้า​

​ดาวิด​ทรงสั่งให้​ศา​โดก​และ​อา​บี​ยา​ธาร์​ปุโร​หิต​ทั้ง​สอง และเหล่าหัวหน้าของ​คน​เลวี​
ชำระ​ตัว​ของ​พวกเขาให้​บริ​สุทธิ์ เพื่อ​จะ​นำ​หีบ​ของ​​พระ​เจ้า​มายังเยรูซาเล็ม

หลังจากชำระตัวแล้ว ​คน​เลวี​ก็ได้​หาม​หีบ​ของ​พระ​เจ้า​ด้วย​คาน​หาม ดัง​ที่​โม​เสส​ได้​บัญชา​ไว้​
ดาวิด​ทรง​บัญชา​บรร​ดา​หัว​หน้า​ของ​คน​เลวี​ให้​แต่ง​ตั้ง​ นัก​ร้อง​ นักดนตรี เพื่อ​ร้อง​เพลง​เสียง​ดัง​ด้วย​ความ​ชื่น​บาน

ดาวิด​และ​บรร​ดา​ผู้​ใหญ่​ของ​อิส​รา​เอล และ​ผู้​บัญชา​กอง​พัน​จึง​ไป​นำ​หีบ​พันธ​สัญ​ญา​ของ​พระเจ้า มา​จาก​บ้าน​ของ​โอ​เบด​เอ​โดม​ด้วย​ความ​เปรม​ปรีดิ์

ดาวิด​ทรง​ฉลอง​พระ​องค์​ผ้า​ป่าน​เนื้อ​ละ​เอียด และ​ดาวิด​ทรง​เอ​โฟด​ผ้า​ป่าน
ดัง​นั้น​คน​อิส​รา​เอล​ทั้ง​ปวง​ ก็ร่วมเสียง​โห่​ร้อง เสียง​เป่า​เขา​สัตว์ เสียง​แตร และ​ฉาบ และ​ทำ​เพลง​เสียง​ดัง​ด้วย​พิณ​ใหญ่​และ​พิณ​เขา​คู่

แต่เมื่อ​หีบ​พันธ​สัญ​ญา​ของพระเจ้า ​มา​ถึงเยรูซาเล็ม​แล้ว
มี​คาล​ราช​ธิดา​ของ​ซา​อูล ​ทรง​มองดู​ทาง​ช่อง​หน้า​ต่าง
ทรง​เห็น​กษัตริย์​ดาวิด​ทรง​เต้น​รำ​และ​ทรง​ร่า​เริง​อยู่
พระ​นาง​ก็​ทรง​ดู​หมิ่น​พระ​องค์​ใน​ใจ

1. หลังจากนำหีบพันธสัญญามาเยรูซาเล็มไม่สำเร็จ ในบทที่ 13
ดาวิดได้เรียนรู้จากความผิดพลาดในครั้งก่อน ที่ทำตามวิธีของตนเองที่คิดว่าดี
คราวนี้ดาวิดใช้วิธีของพระเจ้า
จึงทำได้สำเร็จลุล่วงไปได้อย่างสวยงาม

หากเราจะทำงานของพระเจ้า เราต้องใช้วิธีของพระเจ้า

หากเราจะรับใช้พระเจ้า เราต้องใช้วิธีแห่งความเชื่อ ความไว้วางใจ ความชอบธรรม ความสัตย์ซื่อ เป็นต้น

2. ดาวิดชื่นชมยินดีอย่างยิ่งที่หีบพันธสัญญา สัญลักษณ์ของการทรงสถิตของพระเจ้า มาอยู่ในเยรูซาเล็ม

วันนี้เราชื่นชมยินดี และเห็นคุณค่ามากเพียงสำหรับ สำหรับการทรงสถิตของพระเจ้าอยู่ภายในเรา

3. เมื่อหีบพันธสัญญามาถึงเยรูซาเล็ม มีคาลไม่เพียงแต่ไม่ลงมาต้อนรับ แต่ยังดูหมิ่นดาวิดที่สำแดงการต้อนรับอย่างสุดกำลังอีกด้วย

วันนี้เมื่อเราทำเพื่อพระเจ้าอย่างสุดกำลัง
เป็นไปได้ว่า อาจจะมีบางคนไม่เห็นด้วย ไม่พอใจ หรือแม้แต่มาตำหนิเรา
อย่าให้เราท้อถอย ให้ทำอย่างสุดกำลังต่อไป
เพราะเราไม่ได้ทำเพื่อให้ใครชื่นชม
แต่ทำเพื่อให้พระเจ้าพอพระทัย
ดังนั้นตราบเท่าที่พระเจ้าพอพระทัย นั่นก็เพียงพอแล้ว ใครจะคิดอย่างไรก็ช่างเขา

คำคม

“ การรับใช้พระเจ้า ต้องใช้วิธีของพระเจ้า ”

สรุป 1พงศาวดาร 16

ภาพรวม

  • ดาวิดได้ตั้งคณะนักร้อง นักดนตรี ให้คอยปรนบัติพระเจ้าหน้าหีบพันธสัญญา และให้ปุโรหิตถวายเครื่องบูชาแด่พระเจ้าทุกเข้าเย็น

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 16 หลังจากที่ดาวิด ให้ปุโรหิตและเลวี ร่วมกันนำหีบพันธสัญญามาไว้ที่เยรูซาเล็ม และดาวิดพร้อมกับประชาชนก็ชื่นชมยินดียิ่งนัก

พวกเขา​ได้​นำ​หีบ​ของ​พระ​เจ้า​เข้า​มา วาง​ไว้​ภาย​ใน​เต็นท์​ซึ่ง​ดาวิด​ได้​ทรง​ตั้ง​ไว้​ให้
และพวก​เขา​ก็ถวาย​เครื่อง​บูชา​แด่​พระ​เจ้า
แล้วดาวิดก็​อวย​พร​แก่​ประ​ชา​ชน​ใน​พระ​นาม​พระเจ้า
และ​ทรง​แจก​ขนม​ปัง​ ขนม​อินท​ผลัม และ​ขนม​ลูก​เกด​ แก่​คน​อิส​รา​เอล​ทั้ง​หมด

ดาวิด​ทรง​ตั้ง​คน​เลวี​บาง​คน​ให้​เป็น​ผู้​ปรน​นิบัติ​หน้า​หีบ​ของ​พระเจ้า
ให้​รำลึก​พระ​คุณ ให้​ขอบ​พระ​คุณ​และ​สรร​เสริญ​พระเจ้า โดยการร้องเพลงและดนตรีนมัสการ
โดยมี อา​สาฟ​เป็น​หัว​หน้าของพวกเขา
อา​สาฟ​เป็น​คน​ตี​ฉาบ

แล้ว​ใน​วัน​นั้น​ดาวิด​ กำ​หนด​เป็น​ครั้ง​แรก​ให้​มี​การ​ร้อง​เพลง​สดุดี​ขอบ​พระ​คุณ​ถวาย​แด่​พระเจ้า
บทเพลงสรรเสริญพระเจ้าของดาวิด มีเนื้อหาว่า

จง​ขอบ​พระ​คุณ​พระเจ้า
จง​ร้อง​เพลง​ถวาย​พระ​องค์
จง​เล่า​ถึง​และระลึกถึง การ​อัศ​จรรย์​ของ​พระ​องค์
จง​แสวง​หา​พระเจ้าเสมอ
จง​จดจำ​พันธ​สัญ​ญา​ของ​พระ​องค์​อยู่​เป็น​นิตย์
จง​ประ​กาศ​ความ​รอด​ของ​พระ​องค์​ทุกๆ วัน
จง​เล่า​ถึง​พระ​สิริ​ของ​พระ​องค์
จง​ถวาย​พระ​เกียรติ​แด่พระเจ้า
จงเปรม​ปรีดิ์ในการ​ครอบ​ครองของพระเจ้า
จง​ขอบ​พระ​คุณพระเจ้า

ดาวิด​จึง​ทรง​ให้​อา​สาฟ​และ​พี่​น้อง​ของ​เขา​อยู่​ที่​นั่น​ต่อ​หน้า​หีบ​พันธ​สัญ​ญา
ให้​ปรน​นิบัติ​อยู่​หน้า​หีบ​นั้น​เรื่อย​ไป​ตาม​งาน​ประ​จำ​วัน​ที่​ต้อง​ทำ
และทรง​ให้​ศา​โดก​ปุโร​หิต​กับ​พี่​น้อง​ของ​เขา​ ​ถวาย​เครื่อง​บูชา​แด่พระเจ้า ​ใน​เวลา​เช้าและ​เวลา​เย็น​เสมอ
และ​ประ​ชา​ชน​ทั้ง​ปวง​ต่าง​ก็​ไป​ยัง​บ้าน​ของ​ตน
และ​ดาวิด​เสด็จ​กลับ​เพื่อ​ทรง​อวย​พร​แด่​เชื้อ​พระ​วงศ์​ของ​พระ​องค์

1. เพราะดาวิดคิดว่า การที่หีบพันธสัญญาซึ่งเล็งถึงการทรงสถิตของพระเจ้า ได้มาอยู่ในเยรูซาเล็มนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก
เขาจึงมีการกระทำบางอย่างที่กระทำ ซึ่งแสดงออกมาสอดคล้องกับการให้ความสำคัญนั้น
ได้แก่การตั้งคณะนักร้องนักดนตรีนมัสการพระเจ้า การตั้งคนเฝ้าหีบ การกำหนดให้มีการถวายเครื่องบูชาทุกเช้าเย็น

วันนี้ หากเราคิดว่าการทรงสถิตของพระเจ้าในชีวิตของเราสำคัญจริงๆแล้ว
ตัวเราย่อมมีการแสดงออกบางอย่างที่สอดคล้องกับความสำคัญนั้น
เช่น แสวงหาพระเจ้าอย่างจริงจัง ดีใจชื่นชมในการที่พระเจ้าทรงสถิตทุกวัน ร้องเพลงนมัสการพระองค์เรื่อยไป เป็นต้น

2. ในบทเพลงของดาวิด พูดถึงสิ่งที่เราสมควรกระทำแด่พระเจ้า คือ
ขอบ​พระ​คุณ​ ​ระลึกถึงและเล่า​ถึงสิ่งพระองค์ทรงทำแก่เรา
​แสวง​หา​พระเจ้า ​จดจำ​พันธ​สัญ​ญา​ของ​พระ​องค์​
ถวาย​พระ​เกียรติ​แด่พระองค์ และเปรม​ปรีดิ์ในทุกสิ่งเพราะพระเจ้าทรงควบคุมอยู่

วันนี้ เราทำสิ่งเหล่านี้มากน้อยเพียงใด?
ถ้าคะแนนเต็ม 10 เราได้กี่คะแนน?
เป็นการดีที่จะทำสิ่งเหล่านี้มากขึ้นทุกวันเสมอไป

คำคม

“ พระเจ้าสมควรได้รับการยกย่องสรรเสริญจากเรา มากยิ่งกว่าที่เราทำอยู่นี้หรือไม่? ”

สรุป 1พงศาวดาร 17

ภาพรวม

  • ดาวิดปรารถนาจะสร้างพระนิเวศให้พระเจ้า แต่พระเจ้าจะให้เชื้อสายของดาวิดสร้างแทน ถึงกระนั้นพระเจ้าก็ทรงสัญญาที่จะอวยพระพรแก่ดาวิดและราชวง