ภาพรวม
- ดาวิดได้ถูกเชิญขึ้นเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล โดยมีเหล่านักรบที่เก่งกาจจำนวนมากที่อยู่ข้างกาย ทำให้แผ่นดินของดาวิดมั่นคง
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
1พงศาวดาร บทที่ 11 หลังจากที่ซาอูลและโอรสทั้ง 3 ตายในสงครามสู้รบกับพวกฟิลิสเตียแล้ว
อิสราเอลทั้งหมดก็มาหาดาวิดที่เมืองเฮโบรน
เพื่อทูลขอให้ดาวิดขึ้นเป็นพระราชาปกครองอิสราเอล
ดาวิดทรงทำพันธสัญญากับพวกเขา เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า
และพวกเขาก็เจิมตั้งดาวิดให้เป็นพระราชาเหนืออิสราเอล
ตามพระดำรัสของพระเจ้าโดยซามูเอล
ดาวิดและคนอิสราเอลทั้งสิ้นไปยังเยรูซาเล็ม(เยบุส)
ทรงยึดป้อมศิโยนได้ (ต่อมาเรียกว่า นครดาวิด)
ดาวิดรับสั่งว่า ใครโจมตีคนเยบุสก่อนจะได้เป็นหัวหน้า และผู้บังคับบัญชา
และโยอาบก็ยกขึ้นไปก่อน เขาจึงได้เป็นหัวหน้า
ดาวิดทรงขยายเมืองให้กว้างออกไป
และดาวิดทรงจำเริญยิ่งๆ ขึ้น เพราะว่าพระเจ้าสถิตกับพระองค์
ผู้นำของนักรบของดาวิด ผู้สนับสนุนดาวิดอย่างเข้มแข็งในราชอาณาจักรของพระองค์ มีดังนี้
ยาโชเบอัม เป็นหัวหน้า
คนที่ถัดจากเขาไปคือเอเลอาซาร์
คนที่ 3 คือ ชัมมาห์(ไม่ได้ถูกเอ่ย ในบทนี้ แต่มีกล่าวไว้ใน 2ซมอ. 23:11)
3 คนนี้ ได้บุกไปตักน้ำจากท่ามกลางค่ายของคนฟีลิสเตีย
เพียงเพราะดาวิดตรัสว่า
“ใครหนอจะนำน้ำจากบ่อที่ข้างประตูเมืองเบธเลเฮมมาให้เราดื่มได้?”
อย่างไรก็ดีดาวิดไม่ดื่มน้ำนั้น แต่ทรงเทน้ำนั้นถวายแด่พระเจ้า
นอกจากนี้ ดาวิดยังมีนักรบที่เก่งกาจ ได้แก่
อาบีชัยน้องชายของโยอาบ
เบไนยาห์
อาสาเฮล น้องชายของโยอาบ
และอีกหลายคนรวมทั้ง นาหะรัย ผู้ถืออาวุธของโยอาบ
และ อุรียาห์ คนฮิตไทต์ (สามีของบัทเชบา)
1. เนื้อหาใน ข้อที่ 1-3 เหมือนกับใน 2ซมอ. 5:1-3 แต่ต่างกันตรงวลีสุดท้ายของ 1พศด.11:3 มีวลีว่า
“ตามพระดำรัสของพระยาห์เวห์โดยซามูเอล”
ดังนั้นใน บทนี้ 3 ข้อแรก น่าจะเน้นว่า การที่ดาวิดได้เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลนั้น
เป็นเพราะพระเจ้าทรงกำหนดไว้แล้ว ทรงประกาศไว้แล้วโดยผู้เผยพระวจนะของพระองค์
ถึงแม้ในเวลานั้นที่พระเจ้าตรัสโดยซามูเอลนั้น มองไม่เห็นความเป็นไปได้เลยที่ดาวิดจะได้เป็นกษัตริย์ของอิสราเอล
แต่ในที่สุดเขาก็ได้เป็นกษัตริย์ของอิสราเอล
สิ่งที่พระเจ้าตรัสไว้ จะเกิดขึ้นเป็นจริงเสมอ
2. ทหารเอกของดาวิดล้วนแต่เก่งกาจ
โยอาบได้ขึ้นเป็นหัวหน้าของพวกเขาทั้งหมด ไม่ใช่เพราะเก่งกว่าพวกเขา
แต่เพราะว่าบุกขึ้นไปสู้กับเยบุสก่อนใคร
ซึ่งโยอาบนี่เอง ทำให้เกิดเรื่องราวขึ้นมากมาย รวมถึงการฆ่าอับซาโลม โอรสที่กบฏต่อดาวิดด้วย
การที่ใครสักคนหนึ่ง ได้มีบทบาทใดบทบาทหนึ่ง
ไม่จำเป็นว่าเพราะเขามีความสามารถเหมาะสมกับบทบาทนั้น
แต่เมื่อพระเจ้าประสงค์จะใช้บุคลิกของเขา สำหรับแผนการบางอย่างของพระองค์
คนนั้นก็จะได้รับบทบาทนั้น
วันนี้ ไม่ว่าเรามีบทบาทอะไรก็ตาม ไม่ใช่บังเอิญ
แต่พระเจ้าทรงมีแผนการพิเศษบางอย่างสำหรับชีวิตของเรา
และวันนี้ ใครบางคนที่เรารู้จักได้รับบทบาทบางอย่าง ที่เราดูแล้วเขาไม่คู่ควรเลย
พึงรู้เถิดว่า นั่นยังคงอยู่ในแผนการของพระเจ้า
พระองค์ทรงมีแผนการบางอย่างสำหรับบทบาทของเขาในครั้งนี้
คำคม
“ สิ่งที่พระเจ้าตรัส จะเกิดขึ้นเสมอ ”