สรุป 1พงศาวดาร 29

ภาพรวม

  • ดาวิด ขอให้คนอิสราเอลร่วมมือกับซาโลมอนในการสร้างพระวิหารของพระเจ้า คนอิสราเอลก็ยินดีร่วมมืออย่างเต็มใจ พวกเขาจึงถวายของมากมายแด่พระเจ้า และตั้งซาโลมอนเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล แล้วจากนั้นดาวิดก็สิ้นพระชนม์

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 29 เมื่อดาวิดเรียกประชุมบรรดาผู้นำในอิสราเอล สั่งให้พวกเขาสนับสนุนซาโลมอนในการสร้างพระวิหาร และดาวิดกำชับซาโลมอนให้ติดตามพระเจ้าอย่างสัตย์ซื่อและลงมือสร้างพระวิหารของพระเจ้าแล้ว

​ดาวิด​ก็​ตรัส​กับ​ชุม​นุม​อิสราเอล​ทั้ง​สิ้น​ว่า
พระ​เจ้า​ทรง​เลือก​ซา​โล​มอน​​ไว้​ แต่เขายัง​เป็น​คน​หนุ่ม​และ​ไม่​มี​ประ​สบ​การณ์
และสิ่งที่เขาต้องทำนั้นก็เป็นการ​งานใหญ่​โต
เพราะ​ว่า​พระ​วิหาร​นั้น​ไม่​ใช่​สำ​หรับ​คน แต่​สำ​หรับพระเจ้า

ดังนั้นดาวิด​จึง​จัด​เตรียม​สิ่งที่จำเป็นไว้ อย่างเต็ม​ความ​สา​มารถ​ของ​ดาวิด ​คือ
ทอง​คำ เงิน ทอง​สัม​ฤทธิ์​ เหล็ก ไม้​ แก้ว​โก​เมน พลวง หิน​ลาย เพชร​พลอย​ทุก​ชนิด​และ​หิน​อ่อน

และดาวิดเองก็ได้ถวายทอง​คำ 100 ตัน ​และ​เงิน 240 ตัน ซึ่ง​เป็น​สม​บัติ​ของดาวิด​เอง แก่พระนิเวศด้วย เพราะ​ความ​รัก​ของ​ดาวิด​ที่​มี​ต่อ​พระ​นิเวศ​ของ​พระ​เจ้า​
ด้วยเหตุนี้ คนอิสราเอลทั้งหลาย ใคร​บ้าง​ที่​เต็ม​ใจ​จะ​ถวาย​ตัว​แด่​พระเจ้า ในวันนี้?

แล้ว​ผู้นำ​และ​ข้า​ราชการของดาวิด​ก็​ถวาย​ด้วย​ความ​เต็ม​ใจ แด่​พระ​นิเวศ​ของ​พระ​เจ้า
เป็น​ทอง​คำ 170 ตันกว่าๆ เงิน 340 ตัน ทอง​สัม​ฤทธิ์ 620 ตัน และ​เหล็ก 3,400 ตัน
และ​เพชร​พลอย​ต่างๆ

แล้ว​ประ​ชา​ชน​ก็​เปรม​ปรีดิ์ เมื่อพวกเขาเห็นบรรดาผู้นำ​ถวาย​สิ่ง​เหล่า​นี้​ ​ด้วย​ความ​เต็ม​ใจ​แด่​พระเจ้า
ดาวิด​ก็​ทรง​เปรม​ปรีดิ์​เป็น​อย่าง​ยิ่ง​ด้วย

ดาวิด​จึง​สรร​เสริญ​พระเจ้า ​ว่า
พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่สูงสุด แต่​ดาวิดและ​​ชน​ชาติอิสราเอลเป็น​ใครเล่า
จึงมีสิทธิถวายแด่พระองค์ด้วยเต็มใจได้?
เพราะ​ว่า​สิ่ง​ของ​ทุก​อย่าง​มา​จาก​พระ​องค์
และพวกเขา​เป็น​คน​อาศัย​อยู่​ชั่ว​คราวบนโลกนี้เท่านั้น
พระเจ้าทรง​ตรวจ​ดู​จิต​ใจ และ​ทรง​พอ​พระ​ทัย​ใน​ความ​ซื่อ​ตรง
พวกเขาขอถวายด้วย​ความ​เต็ม​ใจ ​ด้วย​ความ​ชื่น​บาน​ แด่พระ​องค์

ดาวิดอธิษฐาน
– ขอพระเจ้า​ทรง​รักษา​ท่าที​ใน​ใจ​ที่ถูกต้องและมั่นคงต่อพระเจ้า ให้คงอยู่ในคนอิสราเอลเสมอ​ไป
– ขอ​พระเจ้าประ​ทาน​ความ​เต็ม​ใจ​ให้​ซา​โล​มอน ที่​จะ​รักษาพระบัญญัติ​ของ​พระ​องค์ และ​สร้าง​พระ​วิหาร​ตามดาวิดได้​เตรียม​ไว้​

ใน​วัน​รุ่ง​ขึ้น​ประชาชนได้ถวาย​เครื่อง​บูชาแด่พระเจ้า ​อย่าง​มาก​มาย
และร่วมฉลองด้วย​ความ​ยินดี​ยิ่งนัก
และ​พวกเขา​ตั้ง​ซา​โล​มอน ​เป็น​พระ​ราชา​เป็น​ครั้งที่​สอง
(ครั้งแรก ใน 1พกษ. 1:35 ช่วงที่อาโดนียาห์ก่อกบฏ ตอนนั้นเจิมตั้งต่อหน้าชาวเมืองเยรูซาเล็มเท่านั้น)
และ​ศา​โดก​ให้​เป็น​ปุโร​หิต

บรร​ดา​ผู้​บัญชา​การ​ทั้ง​ปวง และ​นักรบ​ทั้ง​หลาย ทั้ง​บรร​ดา​โอรส​ของ​กษัตริย์​ดาวิด​
ได้​สา​บาน​ตัว​ต่อ​กษัตริย์​ซา​โล​มอน

พระเจ้าทรง​ประ​ทาน​เกียรติ​ยศ​​แก่​ซาโลมอนมากมาย​อย่าง​ที่​ไม่​มี​พระ​ราชา​องค์​ใด​ใน​อิส​รา​เอล​ก่อน​พระ​องค์​ได้​รับ

ต่อมา ดาวิดก็สิ้น​พระ​ชนม์ ​เมื่อ​ทรง​ชรา​และ​แก่​หง่อม​มาก
ดาวิด ทรง​ครอง​ราชย์​เหนือ​อิส​รา​เอล​นั้น​เป็น 40 ปี
โดยทรง​ครอง​ราชย์​ใน​เฮ​โบรน 7 ปี และ​ใน​เย​รู​ซา​เล็ม 33 ปี

1. ดาวิดถือว่าสิ่งที่ซาโลมอนต้องทำนั้น เป็นการ​งานใหญ่​โต เพราะ​ว่า​เป็นการทำถวายแด่พระเจ้า

สิ่งใดก็ตามที่เราจะทำถวายแด่พระเจ้านั้น เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่
เราไม่มีทางทำได้อย่างสมบูรณ์หากปราศจากการช่วยเหลือของพระเจ้า

ดังนั้นไม่ว่าเราจะรับใช้พระเจ้าในด้านใดก็ตาม
การอธิษฐานทูลขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวด

2. เมื่อดาวิดเชิญชวนให้ผู้นำของอิสราเอล ถวายแด่พระเจ้า
พวกเขาถวายอย่างมากมาย อย่างเต็มใจ เพราะดาวิดเป็นแบบอย่างแก่พวกเขาในการถวาย
และเมื่อประชาชนเห็นพวกผู้นำถวายอย่างเต็มที่
พวกเขาเองก็ยินดีร่วมมืออย่างเต็มที่ในการสร้างพระวิหาร ถวายแด่พระเจ้า

พระเจ้าจะทรงใช้การอุทิศถวายอย่างเต็มใจของเรา ไม่ว่าจะเป็นความสามารถหรือทรัพย์สิน
ให้สิ่งเหล่านั้น เป็นพระพรทำให้ผู้อื่นดำเนินตามการอุทิศถวายอย่างจริงใจของเรา

สิ่งที่เราทำ แม้วันนี้เรายังไม่เห็นผล ว่าจะมีผลกระทบยิ่งใหญ่เพียงใด
แต่พระเจ้าผู้ทรงสัตย์ซื่อ จะทำให้มันเกิดผลมากมาย ตามขนาดความจริงใจที่เราถวายแด่พระองค์

3. ถึงแม้ว่าดาวิดจะได้ถวายทรัพย์สินเงินทองมากมายแด่พระเจ้า
แต่เขาก็รู้ตัวดีว่า การที่เขาได้มีโอกาสถวายแด่พระเจ้า ผู้เป็นเจ้าของทุกสิ่งนั้น
เป็นเกียรติยิ่งใหญ่ ที่เขาและคนอิสราเอล มีโอกาสได้รับเกียรติในการถวายแด่พระองค์
เขาจึงถวายด้วยความยินดีและเต็มใจอย่างยิ่ง

วันนี้ สิ่งใดๆก็ตามที่เราถวายหรือทำถวายแด่พระเจ้า
พระองค์ไม่จำเป็นต้องได้รับจากเราเลย เพราะพระองค์ทรงเป็นเจ้าของทุกสิ่ง
แต่พระองค์ประทานเกียรติให้แก่เราในการมีส่วนได้ถวายแด่พระองค์

ดังนั้นจงรู้ตัวว่า เมื่อเราถวายแด่พระเจ้า เราไม่ได้มีบุณคุณอะไรต่อพระองค์เลย ที่พระองค์จะต้องตอบแทน
แต่นั่นเป็นเกียรติของเราที่ได้มีโอกาสถวาย
ดังนั้นจงทำด้วยเต็มใจและด้วยใจยินดีเสมอไป

คำคม

“ เมื่อทำสิ่งใดถวายแด่พระเจ้า จงทำด้วยเต็มใจและด้วยใจยินดี ”