ภาพรวม
- ซาโลมอนได้ขอความช่วยเหลือเรื่องไม้สนสีดาห์จากกษัตริย์ฮีราม เพื่อเตรียมการสร้างพระนิเวศของพระเจ้า แล้วซาโลมอนก็ได้รับความช่วยเหลืออย่างดีจากฮีราม
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
1 พงศ์กษัตริย์ บทที่ 5 เมื่อพระเจ้าทรงประทานสติปัญญาแก่ซาโลมอนอย่างมากมาย ทำให้บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุขและอุดมสมบูรณ์อย่างยิ่งแล้ว
ฮีรามกษัตริย์เมืองไทระ ผู้เป็นสหายของดาวิด ได้ส่งข้าราชการมาเฝ้าซาโลมอน
ซาโลมอนจึงได้ส่งข่าวไปยังฮีรามว่า
ในสมัยของดาวิด ไม่สามารถสร้างพระนิเวศของพระเจ้าได้ เพราะมีสงครามล้อมรอบด้าน
แต่บัดนี้พระเจ้าทรงให้แผ่นดินสงบสุขแล้ว
ซาโลมอนจึงประสงค์จะสร้างพระนิเวศพระเจ้า ดังที่ดาวิดตั้งใจไว้
ดังนั้นขอกษัตริย์ฮีราม ช่วยสั่งให้ตัดไม้สนสีดาร์จากเลบานอน มาเพื่อสร้างพระนิเวศของพระเจ้า
โดยซาโลมอนจะส่งข้าราชการ ไปสมทบกับข้าราชการของฮีราม
และซาโลมอนจะมอบเงินค่าจ้างข้าราชการของฮีรามแก่ฮีรามตามที่ฮีรามตั้งไว้
เพราะ ท่ามกลางคนอิวราเอล ไม่มีใครรู้จักตัดไม้เหมือนชาวไซดอน
เมื่อฮีรามได้ยินรับข้อความนั้น ก็ชื่นชมยินดียิ่งนัก และกล่าวว่า
สาธุการแด่พระเจ้า ผู้ประทานบุตรชายที่มีปัญญาคนหนึ่งแก่ดาวิด
ฮีรามจึงได้จัดส่งไม้สนสีดาร์และไม้สนสามใบให้แก่ซาโลมอน ตามพระประสงค์ทุกประการ
แล้วในทุกปีซาโลมอน ได้ให้ข้าวสาลี แก่วังของฮีราม 2,000 ตัน และน้ำมันบริสุทธิ์ 4,000 ลิตร
ซาโลมอนทรงเกณฑ์คนงานจากอิสราเอล ให้ไปยังเลบานอน จำนวน 30,000 คน
โดยแบ่งเป็น 3 ผลัด ผลัดละ 10,000 คนต่อเดือน
พวกเขาจึงทำงาน 1 เดือน และอยู่บ้าน 2 เดือน
ซาโลมอนมีคนขนของหนัก 70,000 คน
มีคนสกัดหินในถิ่นเทือกเขา 80,000 คน
มีข้าราชการผู้ใหญ่ 3,300 คน เป็นผู้ดูแลการงาน
ดังนั้นคนงาน ของซาโลมอน และของฮีรามก็ตระเตรียมไม้และหินเพื่อสร้างพระนิเวศ อย่างเพียงพอ
1. ซาโลมอนส่งข่าวถึงฮีราม อย่างเต็มไปด้วยสติปัญญา โดยกล่าวว่า
ก. สิ่งที่เพื่อนรักของฮีรามอยากจะให้เกิดขึ้น แต่ทำไม่ได้เพราะโอกาสไม่อำนวย บัดนี้ลูกชายของเพื่อนมีโอกาสที่จะทำแล้ว
ข. ขอฮีรามช่วยให้เกิดขึ้นโดยส่งไม้มาให้ ซึ่งไม่ใช่ให้คนของฮีรามทำลำพัง แต่จะส่งคนไปช่วยตัดไม้ด้วย
ค. และไม่ได้ช่วยเปล่า แต่จะให้ค่าตอบแทนที่คนของฮีราม โดยจะมอบค่าตอบแทนให้ฮีรามเป็นคนรับเอาไว้ไปจัดการเอง
ง.จำนวนค่าตอบแทนนั้น ตามแต่ฮีรามจะบอกมาเลย
จ. เหตุที่ต้องขอให้ฮีรามช่วย เพราะชาวไซดอนย่อมตัดไม้เก่งกว่าคนอิสราเอล
คำกล่าวนั้นเต็มด้วยปัญญาดังนี้
ก. สร้างความปรารถนาอยากช่วยให้แก่ฮีราม คือ โอกาสมาช่วยเพื่อนรักที่จากไปมาถึงแล้ว
ข. สร้างความเป็นไปได้และแก้ปัญหาที่อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้ลังเลในการช่วย คือ ฮีรามอาจจะคิดไปได้ว่า คนไม่พอ งานของเขาก็ยุ่งมากอยู่แล้ว แต่ซาโลมอนบอกไว้ก่อนเลยว่าจะส่งคนมาช่วย ซึ่งสิ่งนี้นอกจากลดภาระของคนไซดอนแล้ว ซาโลมอนยังทำให้คนอิสราเอลเก่งขึ้นเพราะได้มาเรียนรู้จากคนไซดอนอีกด้วย
ค. สร้างแรงจูงใจ แบบไม่ให้เสียหน้า คือ ซาโลมอนบอกเลยว่าจะมีค่าตอบแทน แต่ครั้นจะบอกว่าตอบแทนฮีราม ก็อาจทำให้ฮีรามเสียหน้า เลยปฏิเสธไม่ช่วยได้ ซาโลมอนจึงยอกว่า จะให้แก่คนงาน โดยจะมอบค่าตอบแทนนั้นแก่ฮีรามเพื่อนำไปบริหารจัดการเองในการให้แก่คนงาน ซึ่งจะทำให้ฮีราม ได้นับการนับถือจากข้าราชการมากขึ้น หนำซ้ำก็มีสิทธินำสิ่งที่ได้ไปใช้สอยอื่นๆอย่างสง่างามได้อีกด้วย
ง. สร้างความไว้วางใจ คือ แสดงความไว้ใจในฮีรามก่อนเลย โดยบอกว่า จะคิดค่าตอบแทนเท่าไหร่ก็ได้ ซาโลมอนเชื่อใจฮีราม ไม่โก่งราคาแน่นอน เชื่อใจว่าฮีรามจะคิดค่าตอบแทนอย่างเป็นธรรมแน่นอน
จ. สร้างความภาคภูมิใจ คือ ซาโลมอนยกย่องว่าชาวไซดอนตัดไม้เก่งกว่าคนอิสราเอลทั้งหมด ดังนั้นการที่คนของฮีรามมาช่วยนี้ จึงไม่ได้เป็นดังคนงานที่จ้างมา แต่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มาช่วยเหลือคนที่ด้อยความรู้กว่า
แบบนี้ ไม่ได้ใจฮีรามได้ไง มีหรือจะปฎิเสธได้ลงคอ
เมื่อเราใช้ปัญญาเพื่องานของพระเจ้า พระเจ้าจะทรงเพิ่มพูนปัญญาให้แก่เราขึ้นไปอีก
2. คนงานของซาโลมอนที่ต้องไปทำงานไกลถึงไซดอน ซาโลมอนแบ่งเป็น 3 ผลัด
เพื่อให้แต่คนละทำงานแค่ 4 เดือน ต่อปี
น่าจะเป็นเพราะว่า การส่งคนไปที่จะเรียนรู้จากชาวไซดอน เป็นโอกาสทอง
ซาโลมอนคงต้องการให้คนที่ไปนั้น ทุ่มเทและตั้งใจอย่างเต็มที่เพราะมีโอกาสทำงานแค่ 3 เดือนครั้ง
และไม่ให้การคิดถึงบ้านมาก มาเป็นอุปสรรคในการเรียนรู้งานจากชาวไซดอน
ข้อสรุปนี้สังเกตจากซาโลมอนไม่ได้ทำเช่นนี้ กับคนงาน 150,000 คน ที่ไม่ได้ไปที่ไซดอน
ช่วงเวลาสำคัญที่สุด เราควรเตรียมตัวให้มีความพร้อมมากที่สุด
ช่วงเวลาสั้นๆที่เราอยู่ในโลกนี้ เป็นโอกาสทองที่เราจะรับใช้พระเจ้า
ทำสิ่งต่างๆถวายแด่พระเจ้า จงทำอย่างเต็มกำลัง
เพราะอีกไม่นานเราก็จะได้พักผ่อนชั่วนิรันดร์แล้ว
ดังนั้นเวลาต้องทำอย่ามัวแต่พัก
เพราะเมื่อเวลาแห่งการพักมาถึง เราจะได้พักอย่างภาคภูมิใจ
คำคม
“ พระเจ้าประทานปัญญาแก่เรา เพื่อเราจะรับใช้พระองค์อย่างมีปัญญา ”