ภาพรวม
- พระเจ้าส่งคนของพระเจ้ามาเตือนเยโรโบอัม ให้หันกลับมาหาพระเจ้า อย่านมัสการวัวทองคำอีกต่อไป แต่เยโรโบอัมก็ไม่เชื่อฟังคำเตือนนั้น
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
1 พงศ์กษัตริย์ บทที่ 13 หลังจากเรโหโบอัมขึ้นเป็นกษัตริย์ ก็ไม่ฟังข้อเรียกร้องของประชาชน พวกเขาจึงก่อกบฏและตั้งเยโรโบอัมขึ้นมาเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล 10 เผ่า และแยกตัวออกจากเรโหโบอัม และเยโรโบอัมก็สร้างวัวทองคำ เพื่อให้คนอิสราเอลนมัสการแทนพระเจ้า
มีคนของพระเจ้าคนหนึ่ง ออกจากยูดาห์ ไปยังเบธเอล
เขาได้ร้องกล่าวโทษแท่นบูชาวัวทองคำนั้น ว่า
จะมีเด็กชายคนหนึ่ง ชื่อ โยสิยาห์ ซึ่งเกิดมาในราชวงศ์ของดาวิด จะมาทำลายแท่นบูชานี้เสีย
เมื่อเยโรโบอัมได้ยิน พระองค์ก็เหยียดมือออกจากแท่น ตรัสว่า
“จงจับเขาไว้”
แล้วมือของเยโรโบอัม ก็เหี่ยวแห้งไป จนไม่ทรงสามารถชักกลับเข้าหาตัวได้
และแท่นบูชาก็ถูกพังทลาย
เยโรโบอัมจึงขอให้ คนของพระเจ้านั้นช่วยวิงวอนขอพระกรุณาจากพระเจ้าเพื่อเขา
และคนของพระเจ้าก็วิงวอน แล้วเยโรโบอัมก็ชักมือกลับได้อีก และหายเป็นปกติ
เยโรโบอัมจึง เชิญคนของพระเจ้า ให้มารับประทานอาหารและรับรางวัล
แต่คนของพระเจ้า ไม่รับคำเชิญนั้นเพราะพระเจ้าสั่งห้ามเขาไว้
เมื่อเขากำลังออกจากเบธเอล มีผู้เผยพระวจนะอาวุโสคนหนึ่ง ตามเขามา
แล้วเชิญเขาไปบ้านรับประทานอาหารที่บ้านด้วยกัน
ทีแรกคนของพระเจ้านั้นก็ไม่ยอมไป
แต่เมื่อผู้อาวุโสนั้น โกหกว่ามีทูตสวรรค์ มาบอกให้เชิญ คนของพระเจ้าก็กลับไปกับเขา และได้รับประทานอาหารในบ้านของเขา
แล้วพระเจ้าก็ตรัสผ่านผู้เผยพระวจนะอาวุโสนั้นว่า
เพราะว่าคนของพระเจ้าไม่เชื่อฟังพระเจ้า ได้มารับประทานอาหารในบ้านนั้น
ดังนั้นศพของเขาจะไม่ถูกฝังในอุโมงค์ของบรรพบุรุษของเขา
ซึ่งก็เกิดขึ้นจริงๆ เมื่อกำลังกลับไปยังเมืองของตน ระหว่างทางก็ถูกสิงโตฆ่าตาย
แต่สิงโตไม่กินศพของเขา
เมื่อผู้เผยพระวจนะอาวุโสนั้นทราบ จึงนำศพของเขามาฝังไว้ในอุโมงค์ฝังศพของตนเอง
หลังจากเหตุการณ์นี้ เยโรโบอัมก็ยังไม่ได้ทรงหันกลับจากทางชั่วของตน
แต่กลับตั้งปุโรหิตประจำปูชนียสถานสูงต่างๆ
ซึ่งสิ่งนี้ได้เป็นบาปแก่ราชวงศ์เยโรโบอัม จนนำมาซึ่งการทำลายล้างราชวงศ์ของเขาเสีย
1. แม้เยโรโบอัมจะได้พบการอัศจรรย์ด้วยตนเองแล้วก็ตาม
เขาก็ยังไม่ยอมกลับใจอย่างแท้จริง แต่กลับใจเพียงชั่วคราวเพียงแค่ให้มือหายเป็นปกติเท่านั้นเอง
ดังนั้นในที่สุดการไม่ยอมกลับใจนี้จึงนำการทำลายล้างมาสู่ชีวิตและครอบครัวของเขา
วันนี้เมื่อพระเจ้าทรงเตือนให้เรากลับใจ อย่ารอช้า จงรีบกลับใจอย่างแท้จริง
อย่าพอใจเพียงการกลับใจผิวเผินเพื่อให้ปัญหาเฉพาะหน้าหมดไปเท่านั้น
เพราะนั่นไม่ใช่การกลับใจที่แท้จริง
2. คนของพระเจ้าได้ทำการอัศจรรย์ยิ่งใหญ่ อย่างกล้าหาญ
ความจริงแล้วชีวิตของเขาควรถูกจดจำเป็นแบบอย่างให้แก่ผู้รับใช้รุ่นต่อๆมาสืบไป
แต่น่าเสียดายที่เขาไม่เชื่อฟังพระเจ้า จนต้องพบกับความตาย
และสูญเสียโอกาสที่น่าจดจำนั้นไปเสีย
ความสำเร็จในการรับใช้พระเจ้าของเรา ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่สักเพียงใด
ก็ไม่สามารถนำมาใช้เป็นสิทธิพิเศษในการ ไม่เชื่อฟังพระเจ้า ได้
3. คนของพระเจ้าผู้ไม่เชื่อฟังพระเจ้า จึงต้องพบกับหายนะ
สิ่งนี้ไม่ได้เป็นบทเรียนให้เยโรโบอัมสำนึกเลยว่า
หากเขาไม่เชื่อฟังพระเจ้า เขาเองก็จะพบกับหายนะเช่นเดียวกัน
พระเจ้าทรงใช้เยโรโบอัม เพื่อให้พระวจนะของพระเจ้าสำเร็จ ในการแบ่งแยกอาณาจักรอิสราเอล
แม้เขาเคยเป็นคนที่พระเจ้าทรงใช้ได้ในอดีต
แต่ถ้าในปัจจุบันเขาไม่เชื่อฟังพระเจ้า เขาก็จะพบหายนะเหมือนคนของพระเจ้าคนนั้น
ให้เราเรียนจากความผิดพลาดในอดีต ทั้งจากความผิดพลาดของคนอื่นและของตัวเราเอง
เพื่อเราจะได้ไม่เดินผิดพลาดในวันนี้
คำคม
“ การเชื่อฟังพระเจ้า ย่อมสำคัญกว่า ความสำเร็จในการรับใช้พระเจ้า ”