ภาพรวม
- พระเจ้าให้เอลียาห์ไปพบอาหับ และให้นัดพวกผู้เผยพระวจนะของพระบาอัลเพื่อพิสูจน์ความเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ ที่ภูเขาคารเมล และพระเจ้าก็ทรงสำแดงฤทธานุภาพของพระองค์ที่นั่นด้วยไฟจากฟ้า และต่อมาเมื่อเอลียาห์อธิษฐาน ฝนก็ตกสู่แผ่นดินอีกครั้ง
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
1 พงศ์กษัตริย์ บทที่ 18 เพราะบาปชั่วของอาหับและคนอิสราเอล พระเจ้าทรงให้เอลียาห์ประกาศว่าจะไม่มีฝนตกและจะไม่มีน้ำค้าง ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
เมื่อถึงปีที่ 3 ของความแห้งแล้ง พระเจ้าทรงให้เอลียาห์ ไปปรากฏตัวต่ออาหับ
ขณะนั้นเกิดการกันดารอาหารอย่างหนักในสะมาเรีย
อาหับ จึงให้โอบาดีห์ ผู้บัญชาการราชสำนัก
ให้ไปหาหญ้า บริเวณแหล่งน้ำต่างๆทั่วแผ่นดิน เพื่อนำมาให้แก่ม้าก่อนที่พวกมันจะตายกันหมด
เมื่อโอบาดีห์กำลังไปนั้น เอลียาห์ได้พบเขา
และใช้ให้เขาไปบอกอาหับ ว่า เอลียาห์อยู่ที่นั่น
โอบาดีห์ตกใจมาก เพราะถ้าไปบอกแล้ว เมื่ออาหับมาแต่ไม่พบเอลียาห์ ก็จะรู้ว่าเขาปล่อยเอลียาห์ไป
ถ้าเป็นเช่นนั้น เขาต้องถูกอาหับฆ่าตายแน่
เนื่องจากก่อนหน้านี้ อาหับได้พยายามเสาะหาเอลียาห์ไปทั่ว แต่ไม่พบ
โอบาดีห์คนนี้ยำเกรงพระเจ้ามาก
ตอนที่เยเซเบลกำลังตามฆ่าผู้เผยพระวจนะของพระเจ้า
เขาได้เสี่ยงตาย ซ่อนผู้เผยพระวจนะ 100 คนไว้ตามถ้ำ และคอยแอบส่งอาหารและน้ำ ให้พวกเขา
เอลียาห์จึงสัญญากับเขาว่า วันนี้จะปรากฏตัวแก่อาหับ แน่นอน
โอบาดีห์จึงไปทูลอาหับ
และอาหับก็เสด็จไปพบเอลียาห์
อาหับกล่าวหา เอลียาห์ ว่า
เป็นผู้ทำความลำบากให้อิสราเอล
แต่เอลียาห์ตอบว่า
อาหับและราชวงศ์ของพระบิดา ต่างหากได้กระทำ
เพราะได้ทอดทิ้งพระบัญญัติของพระเจ้า และติดตามพระบาอัล
เอลียาห์จึงขอให้ อาหับรวบรวมชนอิสราเอลทั้งสิ้น มาพบเอลียาห์ที่ภูเขาคารเมล
รวมทั้งผู้เผยพระวจนะของพระบาอัล 450 คนกับผู้เผยพระวจนะของพระอาเช-ราห์ 400 คน ด้วย
อาหับก็ทำตาม
ที่ภูเขาคารเมล เอลียาห์ กล่าวแก่ ประชาชนทั้งปวง ว่า
พวกเขาจะลังเลใจอยู่ระหว่างสองฝ่ายนี้นานเท่าไร?
แต่ประชาชนไม่ตอบท่านสักคำเดียว
เอลียาห์พูดกับประชาชน ว่า
ให้เอลียาห์ และผู้เผยพระวจนะของพระบาอัล 450 คน มาพิสูจน์กันว่า
พระของฝ่ายใดเป็นพระเจ้าแท้
โดยให้ วางวัวที่สับเป็นท่อนๆ วางไว้บนกองฟืนแต่อย่าใส่ไฟ
แล้วร้องออกพระนามพระเจ้า
พระองค์ไหนตอบด้วยไฟ พระองค์นั้นแหละเป็นพระเจ้าแท้
ประชาชนทั้งปวงก็เห็นดีด้วย
เอลียาห์ ให้พวกผู้เผยพระวจนะของพระบาอัล เริ่มก่อน
พวกเขาก็เลือกวัว และจัดเตรียม และร้องออกพระนามพระบาอัล ตั้งแต่เช้าจนเที่ยง
แต่ก็ไม่มีเสียงตอบ
เมื่อถึงเวลาเที่ยง เอลียาห์ก็เย้ยพวกเขา
พวกเขายิ่งก็ร้องเสียงดัง และเชือดเฉือนตัวเอง จนเลือดไหลพุ่งออกมา
จนถึงเวลาถวายบูชาตอนเย็น แต่ไม่มีเสียงตอบ ไม่มีใครฟัง
แล้วเอลียาห์ก็ซ่อมแท่นบูชาของพระเจ้าที่ถูกทำลายลงนั้น
และได้ขุดร่องใหญ่รอบแท่น จุน้ำได้ประมาณ 14 ลิตร
และสับวัวนั้นเป็นท่อนๆ และวางไว้บนกองฟืน
และสั่งให้ประชาชน เทน้ำลงบนเครื่องบูชาเผาทั้งตัว และบนกองฟืน 12 ไห
และใส่น้ำเต็มร่องด้วย
เมื่อถึงเวลาถวายบูชา เอลียาห์ก็อธิษฐานต่อพระเจ้า
แล้วไฟของพระเจ้าก็ตกลงมาและเผาเครื่องบูชาเผา และฟืน หิน และผงคลี และลามเลียน้ำในร่องจนแห้ง
ประชาชนทั้งหมด ก็ซบหน้าลงร้องว่า
พระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้า
เอลียาห์บอกให้พวกเขา
จับผู้เผยพระวจนะของพระบาอัล ไว้
และเอลียาห์ก็นำไปฆ่าที่ลำธารคีโชน
เอลียาห์ทูลอาหับว่า ฝนกำลังจะมาแล้ว
เอลียาห์ขึ้นไปที่ยอดภูเขาคารเมล โน้มตัวลงถึงดินอธิษฐาน
และสั่งคนใช้ ให้ไป มองไปทางทะเล 7 รอบ
แล้วก็มีเมฆก้อนหนึ่งเล็กเท่าฝ่ามือคนขึ้นมาจากทะเล
ต่อมาท้องฟ้าก็มืดไปด้วยเมฆและลม และมีฝนหนัก
อาหับก็ทรงรถเสด็จไปยังเมืองยิสเรเอล
พระเจ้าหนุนกำลังเอลียาห์ และวิ่งขึ้นหน้าอาหับไปถึงทางเข้าเมืองยิสเรเอล
1. ทั้งที่โอบาดีย์เคยเสี่ยงตาย แอบช่วยชีวิตของผู้เผยพระวจนะของพระเจ้า 100 คน
ครั้งนี้พระเจ้ากลับให้เขาต้องเสี่ยงตาย มากกว่าเดิมเสียอีก
ไม่ใช่เพื่อทำลายเขา แต่เพื่อเขาจะได้มีส่วนร่วมในพระราชกิจอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า
เมื่อพระเจ้าอนุญาตให้สิ่งใดเกิดขึ้นกับเรา เพราะเรายำเกรงพระเจ้า
สิ่งนั้นไม่ว่าจะดูเหมือนดีหรือร้ายในสายตาของมนุษย์ก็ตาม
ในที่สุดแล้วสิ่งนั้นจะกลายเป็นพระพรสำหรับชีวิตของเรา
2. การกันดารอาหารเกิดขึ้น เพราะบาปของอาหับ
แต่อาหับกลับคิดว่าเป็นความผิดของเอลียาห์
ผลก็คือ การกันดารอาหารนั้น ไม่ได้ทำให้อาหับกลับใจแต่อย่างใด
เมื่อมีบางสิ่งที่ผิดปกติเกิดขึ้นในชีวิต
เราไม่ควรโทษคนนั้นโทษคนนี้
แต่ควรรีบสำรวจดูตนเองว่า
มีอะไรที่เราทำไม่ถูกต้อง ที่ต้องกลับใจใหม่หรือไม่
เพื่อให้สิ่งผิดปกตินั้นกลายเป็นพระพรแก่เรา
นำเราไปสู่การพัฒนาชีวิตฝ่ายวิญญาณให้จำเริญขึ้น
3. พระเจ้าเที่ยงแท้ ย่อมสามารถสดับฟังและตอบคำอธิษฐาน ของผู้ที่ร้องทูลต่อพระองค์ด้วยจริงใจ
แต่พระเจ้าปลอม ไม่ว่าคนจะร้องต่อพระนั้นด้วยความพยายามมากเพียงไร ก็จะไม่มีเสียงตอบจากพระนั้น
วันนี้ เราสามารถมีประสบการณ์กับพระเจ้าเที่ยงแท้ได้
โดยการร้องทูลต่อพระองคืด้วยจริงใจ อย่างสุดใจของเรา
4. เอลียาห์รู้แน่ว่าฝนจะตก เมื่อเขาร้องทูลต่อพระเจ้า เพราะพระเจ้าบอกไว้ใน 1พกษ. 18:1
แต่เมื่อเขาอธิษฐานถึง 6 ครั้งแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววของฝนเลย
เขาก็ไม่ย่อท้ออธิษฐานต่อไป จนในที่สุดฝนก็ตกจริงๆ
เมื่อพระเจ้าทรงสัญญา มันจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
เพียงแต่ขอให้เราไม่ย่อท้อ อดทน รอคอยเวลาของพระเจ้า ด้วยความเชื่อเท่านั้น
จะได้รับตามพระสัญญาอย่างแน่นอน
คำคม
“ พระเจ้าเที่ยงแท้ จะตอบคำอธิษฐานของผู้ที่ร้องทูลต่อพระองค์ด้วยจริงใจ ”