ภาพรวม
- 1โครินธ์ บทที่ 3 ผู้เชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ ได้มีพระเยซูคริสต์เป็นรากฐาน และสิ่งที่แต่ละคนก่อสร้างขึ้นมาบนรากฐานนี้ จะได้บำเหน็จตามการงานของตน
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
1โครินธ์ บทที่ 3
เปาโลพูดกับคริสเตียนที่โครินธ์ ว่า
พวกเขายังเป็นเหมือนทารกฝ่ายวิญญาณ
ซึ่งยังต้องเลี้ยงด้วยน้ำนม ไม่ใช่ด้วยอาหารแข็ง
เพราะพวกเขายังอยู่ฝ่ายเนื้อหนัง ยังอิจฉากัน ขัดเคืองใจกัน
แบ่งพรรคแบ่งพวก เป็นศิษย์ของเปาโล ของอปอลโล
ทั้งที่เปาโลก็แค่ปลูก อปอลโลก็แค่รดน้ำ
แต่พระเจ้าต่างหาก ที่ทรงทำให้เติบโต
พระเจ้าผู้ทรงให้เติบโตนั้น ต่างหากที่สำคัญ
คนที่ปลูกและคนที่รดน้ำ ก็เป็นพวกเดียวกัน
และทุกคนก็จะได้บำเหน็จตามการงานของตน
โดยพระคุณของพระเจ้า เปาโลได้วางรากให้พวกเขาแล้ว คือ พระเยซูคริสต์
บนรากนั้นถ้าใครจะก่อขึ้นด้วยทองคำ เงิน เพชรพลอย ไม้ หญ้าแห้งหรือฟาง
การงานของแต่ละคนก็จะปรากฏให้เห็น ในวันพิพากษา
โดยจะถูกพิสูจน์ด้วยไฟ
ถ้าการงานของใครที่ก่อขึ้นทนอยู่ได้ คนนั้นก็จะได้บำเหน็จ
ถ้าการงานของใครถูกเผาไหม้ไป คนนั้นก็จะรอด แต่เหมือนดังรอดจากไฟ
เราเป็นวิหารของพระเจ้า และพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่ในเรา
ถ้าใครทำลายวิหารของพระเจ้า พระเจ้าจะทรงทำลายคนนั้น
อย่าให้ใครหลอกลวงตัวเอง
ถ้าใครคิดว่า ตัวเป็นคนมีปัญญา ตามหลักของยุคนี้
จงให้คนนั้นยอมเป็นคนโง่
เพื่อจะได้เป็นคนมีปัญญา
เพราะว่าปัญญาของโลกนี้ เป็นความโง่และเป็นสิ่งไร้ประโยชน์ ในสายพระเนตรของพระเจ้า
พระองค์ทรงจับคนมีปัญญา ด้วยอุบายของพวกเขาเอง
อย่าให้ใครยกมนุษย์ขึ้นอวด เพราะว่าทุกสิ่งเป็นของพวกเขา
และพวกเขาเป็นของพระคริสต์
และพระคริสต์ทรงเป็นของพระเจ้า
1. การเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ ไม่ได้ดูที่ มีของประทาน ความสามารถมากมายเพียงใด
แต่ดูที่ดำเนินชีวิตตามพระคำของพระเจ้า มากเพียงใด
ให้เราพัฒนาความเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ
ด้วยการดำเนินชีวิตตามพระคำของพระเจ้า โดยการช่วยเหลือของพระวิญญาณบริสุทธิ์
2. ถ้าใครทำลายวิหารของพระเจ้า จะพบกับอันตรายอย่างใหญ่หลวง
เราเป็นวิหารของพระเจ้า ดังนั้นเราต้องรู้จักดูแลสุขภาพของตนเอง ทั้งร่างกาย จิตใจ และวิญญาณ
พี่น้องคริสเตียนคนอื่น พวกเขาก็เป็นวิหารของพระเจ้า
ดังนั้น เราต้องระมัดระวังให้ดี ที่จะไม่ทำสิ่งใดที่เป็นการทำร้าย หรือทำลายพวกเขา
3. การประยุกต์ใช้ 1โครินธ์ 3 ยังมีอีก สามารถอ่านได้จากลิ้งนี้ครับ
http://bit.ly/2QWItuW
คำคม
“ ปัญญาของโลกนี้ เป็นความโง่และไร้ประโยชน์ ในสายพระเนตรของพระเจ้า ”