ภาพรวม
- คนอัมโมนจ้างคนซีเรียมาช่วยพวกเขา สู้รบกับคนอิสราเอล แต่ในที่สุดทั้งสองก็พ่ายแพ้ต่อคนอิสราเอล
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
2 ซามูเอล บทที่ 10 เมื่อดาวิดทรงรับบุตรชายง่อยของโยนาธาน ชื่อเมฟีโบเชท เข้ามาให้อยู่ในเยรูซาเล็มและดูแลเขาอย่างดีแล้ว
ต่อมาเมื่อกษัตริย์แห่งคนอัมโมน สิ้นพระชนม์ ฮานูนราชโอรสก็ขึ้นครองราชย์แทน
ดาวิดจึงส่งพวกข้าราชการไปปลอบโยนท่าน
แต่พวกเจ้านายของคนอัมโมนทูลฮานูน ว่า
ดาวิดส่งพวกข้าราชการมาหา เพื่อสอดแนม
ฮานูนจึงจับพวกข้าราชการของดาวิด โกนเคราเสียครึ่งหนึ่ง และตัดเครื่องแต่งกาย แล้วปล่อยไป
เมื่อดาวิดทรงทราบ จึงให้ข้าราชการเหล่านั้น พักที่เมืองเยรีโคก่อนจนกว่าเคราขึ้น แล้วจึงค่อยกลับมา
คนอัมโมนส่งคนไปจ้างทหารมาจากซีเรีย 33,000 คน
เมื่อดาวิดจึงส่งโยอาบและกองทัพเหล่านักรบทั้งหมดไปต่อสู้
ระหว่างการรบ กองทัพของโยอาบ ถูกขนาบทั้งข้างหน้าและข้างหลัง โดยซีเรีย และอัมโมน
โยอาบจึงนำทหารบางส่วน เข้าต่อสู้คนซีเรีย
และให้อาบีชัยน้องชายของเขา นำทหารที่เหลือเข้าต่อสู้กับคนอัมโมน
โยอาบกล่าวว่า
ให้กล้าหาญเพื่อชนชาติของเรา และเพื่อบรรดาเมืองของพระเจ้าของเรา
ปรากฏว่า คนซีเรียก็พ่ายแพ้หนีไป และคนอัมโมนก็หนีเข้าไปในเมือง
แล้วโยอาบก็กลับมายังกรุงเยรูซาเล็ม
คนซีเรียได้รวมตัวเข้าด้วยกันอีกครั้ง และขอความช่วยเหลือจากคนซีเรีย ที่อยู่ฟากตะวันออกของแม่น้ำยูเฟรติสให้มาร่วมรบกับพวกเขาด้วย
ดาวิดทรงรวบรวมอิสราเอลทั้งหมดไปต่อสู้
คนซีเรียก็พ่ายแพ้ และดาวิดทรงประหารคนซีเรียมากมายรวมทั้งโชบัคแม่ทัพของพวกเขาด้วย
คนซีเรียก็ยอมสงบศึกกับอิสราเอล และยอมรับใช้พวกเขา
และไม่กล้าช่วยคนอัมโมนอีก
1. โดยคำแนะนำของพวกเจ้านายของคนอัมโมน กษัตริย์ฮานูนจึงตอบแทนสิ่งดีที่ดาวิดทำ ด้วยสิ่งร้าย
ดังนั้นสิ่งร้ายจึงเกิดขึ้นกับเขา
นอกจากจะต้องเสียเงินมากมายจ้างทหารซีเรียหลายหมื่นคนมาช่วยแล้ว
ยังต้องเสียทหารมากมายในการรบอีกด้วย
เราควรคอยระวังคำแนะของกองเชียร์ ที่ชักชวนให้เรากระทำการร้าย ตอบแทนการดี
เพราะเมื่อผลร้ายเกิดขึ้นย้อนกลับมาแล้ว คนเหล่านั้นจะช่วยอะไรเราไม่ได้เลย
2. ดาวิดปฏิบัติต่อพวกข้าราชการอย่างเมตตาและเข้าใจ ที่ให้เขาหลบไปพักที่เยรีโคก่อน เพื่อปกปิดความอายของเขา
สิ่งนี้ทำให้ดาวิดได้รับการปฏิบัติอย่างเมตตาและเข้าใจ ในอีกไม่กี่วันต่อมา
เมื่อดาวิดทำบาป พระเจ้าทรงปกปิดความหน้าอายของเขา และให้โอกาสเขากลับใจ
เมื่อเราปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างไร เราก็กำลังจัดเตรียมสิ่งที่กำลังเราจะถูกปฏิบัติอย่างนั้นในอนาคต
3. เมื่อโยอาบหนุนใจทหาร เขากล่าวว่า ให้กล้าหาญเพื่อชนชาติของเรา และเพื่อเมืองของพระเจ้า
โดยไม่ได้พูดถึงดาวิดเลย
ต่างจากใน วนฉ. 7:18 เมื่อคนอิสราเอลต่อสู้กับคนมีเดียน พวกเขาร้องว่า ‘เพื่อพระเจ้า และเพื่อกิเดโอน’
เป็นไปได้ว่า โยอาบอาจจะไม่ได้ให้เกียรติดาวิดมากนัก สอดคล้องกับที่ดาวิดตัดพ้อ ใน 2ซมอ. 3:39 ว่า “… เราก็อ่อนกำลังในวันนี้ ชายเหล่านี้ซึ่งเป็นบุตรของนางเศรุยาห์แข็งกร้าวเกินไปสำหรับเรา…”
ซึ่งในสมัยของกษัตริย์ซาโลมอน โยอาบจึงถูกประหารชีวิตเสีย
การไม่ให้เกียรติผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมไว้ ย่อมไม่เป็นผลดีต่อผู้ที่ทำเช่นนั้น
4. ในการรบครั้งนี้ ซีเรียพ่ายแพ้ไปแล้ว และอัมโมนก็หนีกลับเข้าเมือง
ความจริงแล้วโยอาบ ควรรีบเผด็จศึก บุกเมืองของอัมโมนต่อในทันที
แต่เขากลับยกทัพกลับเยรูซาเล็ม
และรอจนถึงฤดูใบไม้ผลิปีถัดไปจึงบุกไปรบอีกครั้ง
ซึ่งในการรบที่กำลังจะมาถึงนี้ เป็นช่วงที่ดาวิดกำลังทำบาปใหญ่โตต่อพระเจ้า
ความซับซ้อนของเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ดูเหมือนพระเจ้าทรงทราบและจัดเตรียมบางสิ่งไว้
แต่คนที่ต้องตัดสินใจที่จะทำบาปหรือไม่นั้น คือ ตัวดาวิดเอง
และดาวิดเองจะเป็นผู้รับผลแห่งการตัดสินใจนั้น
สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา พระเจ้าทรงทราบล่วงหน้า
แต่คนที่ต้องตัดสินใจ คือ เราเอง
และเราจะรับผลแห่งการตัดสินใจนั้น
ถึงกระนั้นพระองค์ก็ยังคงจัดเตรียมทางออกไว้ให้สำหรับเรา เมื่อเราผิดพลาดพลั้งไป
คำคม
“ ความเมตตาของเราในวันนี้ จะนำพระเมตตามาสู่ชีวิตของเรา ”