ภาพรวม
- นาธัน มาต่อว่าดาวิดเรื่องบาปที่เกี่ยวข้องกับนางบัทเชบา แล้วดาวิดก็สำนึกบาป และพระเจ้าทรงให้อภัยเขา แต่เขายังจำเป็นต้องรับผลแห่งการกระทำของเขาด้วย
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
2 ซามูเอล บทที่ 12 หลังจากที่ดาวิดให้นำนางบัทเชบา มาหลับนอนด้วย เมื่อนางตั้งครรภ์ขึ้นมา ดาวิดจึงใช้โยอาบฆ่าอุรียาห์ แล้วดาวิดก็รับนางบัทเชบามาเป็นมเหสีของตน
พระเจ้าทรงใช้นาธันไปหาดาวิด ทูลว่า
มีชายมั่งมีคนหนึ่ง มีแพะแกะและโคมากมาย
และมีอีกคนเป็นคนจน ไม่มีอะไรเลย นอกจากแกะตัวเมียตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง ที่เขารักและผูกพันกับมันมาก
วันหนึ่งคนมั่งมีนั้น ไปเอาแกะของคนจนนั้น มาฆ่าเป็นอาหารเลี้ยงแขก
ดาวิดกริ้วคนนั้นมาก และรับสั่งแก่นาธันว่า
คนที่ทำเช่นนั้นสมควรตาย
และจะต้องคืนลูกแกะตัวเมียให้สี่เท่า
นาธันจึงทูลดาวิดว่า
ดาวิดนั่นแหละคือชายคนนั้น
พระเจ้าได้เจิมตั้งดาวิดให้เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล
ทรงช่วยกู้ดาวิด และอวยพรมากมาย
ถ้าเท่านี้ยังน้อยไป พระเจ้าก็จะเพิ่มให้มากมายกว่านี้
แต่ ทำไมดาวิดดูหมิ่นพระวจนะของพระเจ้า?
ทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรของพระองค์
เพราะฉะนั้นดาบจะไม่คลาดไปจากราชวงศ์ของดาวิดตลอดไป
พระเจ้าจะให้เหตุร้ายเกิดขึ้นกับดาวิด จากครอบครัวของดาวิดเอง
และจะมีคนเอาเหล่าภรรยาของดาวิดไปหลับนอนด้วย อย่างเปิดเผย
ดาวิดจึงพูดกับนาธันว่า
ดาวิดได้ทำบาปต่อพระเจ้าแล้ว
นาธันทูลดาวิดว่า
พระเจ้าทรงให้อภัยบาปของดาวิดแล้ว ดาวิดจะไม่สิ้นพระชนม์
แต่เพราะดาวิดได้หมิ่นประมาทพระเจ้าจริงๆ ดังนั้นราชโอรสที่ประสูติมานั้นจะสิ้นพระชนม์
ต่อมาราชโอรสนั้น ก็ป่วยหนัก
ดาวิดก็ทรงอ้อนวอนพระเจ้าเพื่อพระกุมารนั้น
และดาวิดทรงอดอาหารและบรรทมบนพื้นดิน
พอวันที่ 7 พระกุมารนั้นก็เสียชีวิต
เมื่อดาวิดทราบแล้ว ก็ลุกขึ้นจากพื้นดิน ชำระพระกาย เปลี่ยนฉลองพระองค์
เข้าไปนมัสการในพระนิเวศของพระเจ้า
แล้วเสด็จกลับพระราชวัง แล้วพระองค์ก็เสวย
ดาวิดกล่าวว่า
เมื่อเด็กนั้นมีชีวิตอยู่ เขาอดอาหารและร้องไห้ เพราะบางทีพระเจ้าจะเปลี่ยนพระทัย ให้เด็กนั้นมีชีวิตต่อได้
แต่เดี๋ยวนี้เด็กนั้นสิ้นชีวิตแล้ว จะอดอาหารต่อไปทำไม? จะทำให้เด็กนั้นฟื้นขึ้นมาได้หรือ?
ต่อมาดาวิด ทรงหลับนอนกับพระนางบัทเชบา
พระนางก็ประสูติโอรสองค์หนึ่งชื่อ ซาโลมอน
พระเจ้าทรงใช้นาธัน มาตั้งชื่อพระราชโอรสนั้นว่า
เยดีดิยาห์ แปลว่า ผู้ที่พระเจ้าทรงรัก
ฝ่ายโยอาบสู้รบกับเมืองรับบาห์ของคนอัมโมน
และเมื่อใกล้จะยึดเมืองได้ จึงเชิญดาวิดมานำทัพต่อ
และดาวิดก็ทรงต่อสู้จนยึดเมืองนั้นได้
แล้วดาวิดก็เสด็จกลับไปกรุงเยรูซาเล็ม
1. ดาวิดโกรธมาก เมื่อรู้เรื่องคนมั่งมีเอาเปรียบคนยากจน
แต่มองไม่เห็นบาปของตนเอง
คนเรามักเห็นบาปคนอื่นชัดเจน แต่บาปของตนมองข้ามไปเสีย
2. พระเจ้าตรัสกับดาวิดว่า “ถ้าเท่านี้ยังน้อยไป พระเจ้าก็จะเพิ่มให้มากมายกว่านี้”
ถ้าสิ่งที่พระเจ้าอวยพรแก่เรานั้นยังไม่เพียงพอ ก็ให้ทูลขอต่อพระเจ้า อย่าไปแย่งคนอื่นมา
พระเจ้าทรงสามารถอวยพระพรเราได้มากกว่านี้อีก
อย่าดูหมิ่นพระองค์ ด้วยการพยายามจัดหามาด้วยตนเอง
3. เมื่อดาวิดสำนึกบาป พระเจ้าทรงให้อภัยแก่เขาทันที
แต่ขณะเดียวกัน เขายังคงต้องรับผลแห่งการกระทำของเขานั้นด้วย แต่ว่าผลนั้นจะไม่รุนแรงมากเท่าที่เขาควรจะได้รับ
หากเราทำผิดต่อพระเจ้า เราสมควรรีบสารภาพและกลับใจโดยเร็วที่สุด
ทุกครั้งที่กลับใจจริงๆ พระเจ้าทรงพร้อมให้อภัยเสมอ
แต่การไม่เชื่อฟัง ต้องจ่ายราคาเสมอ
4. ท่าทีของดาวิดแสดงให้เห็นว่า เขารู้จักพระเจ้าอย่างดี
เมื่อสำนึกผิด เขารีบกลับใจ
เมื่อถูกลงโทษ เขารู้ว่า ถ้าอ้อนวอนต่อพระเจ้า ยังมีความหวัง
แต่เมื่อเขาพบผลลัพท์ที่พระเจ้าตัดสินพระทัยแล้ว เขาก็ยอมรับผลลัพท์นั้น
วันนี้ เราสามารถอ้อนวอนขอพระเมตตาจากพระเจ้าได้ แม้เราจะไม่สมควรจะได้รับก็ตาม
และให้เรายอมจำนนต่อผลลัพท์ที่พระเจ้าเลือกไว้สำหรับเราเสมอ
5. พระเจ้าทรงยุติธรรม นางบัทเชบาต้องสูญเสียสามีไปอย่างไม่เป็นธรรม และยังต้องสูญเสียลูกไปอีกด้วย
พระเจ้าทรงประทานซาโลมอนบุตรชายที่ทำให้นางชื่นใจมากกว่าบุตร 100 คน ให้แก่นาง
วิธีการของพระเจ้ายุติธรรมเสมอ เพียงแค่บ่อยครั้งเกินความเข้าใจของเรา
คำคม
“ การไม่เชื่อฟัง ต้องจ่ายราคาเสมอ ”