ภาพรวม
- ซาโลมอนอธิษฐานถวายพระวิหารแด่พระเจ้า เพื่อให้เป็นสถานที่นัดพบกับพระเจ้า ของคนอิสราเอลและคนต่างชาติ ที่แสวงหาพระองค์
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
2 พงศาวดาร บทที่ 6 เมื่อซาโลมอนนำหีบพันธสัญญาเข้าไปในพระวิหาร แล้วพระสิริของพระเจ้าก็ปกคลุมเต็มพระวิหาร
แล้วซาโลมอนก็กล่าวแก่คนอิสราเอล ที่ยืนชุมนุมอยู่ที่นั่น ว่า
พระเจ้าได้เลือกเยรูซาเล็ม ให้เป็นนครที่พระเจ้าทรงสถิต
และเลือกดาวิดให้อยู่เหนือคนอิสราเอลประชากรของพระเจ้า
และเลือกซาโลมอนให้เป็นผู้สร้างนิเวศของพระเจ้า
แล้วซาโลมอนทรงยืนอยู่หน้าแท่นบูชา ต่อหน้าคนอิสราเอลทั้งหมด
ทรงคุกเข่าลง และกางพระหัตถ์ออก
แล้วทูลพระเจ้าว่า
ขอพระเจ้าทรงรักษาสิ่งที่ทรงสัญญาไว้กับดาวิด ที่ว่า
ถ้าเพียงแต่ลูกหลานของดาวิด จะรักษาบัญญัติของพระเจ้า จะไม่ขาดชายที่จะนั่งบนบัลลังก์ของอิสราเอล
แต่แท้จริง ฟ้าสวรรค์อันสูงสุดยังรองรับพระองค์ไว้ไม่ได้
แล้วพระนิเวศนี้ จะรองรับพระองค์ได้อย่างไร
แต่ขอพระองค์สนพระทัยในคำอธิษฐานของผู้รับใช้ของพระองค์
ขอพระเนตรของพระองค์จะทรงเฝ้าดูพระนิเวศนี้ ทั้งวันและคืน
เพื่อพระองค์จะทรงสดับคำอธิษฐาน ซึ่งผู้รับใช้ของพระองค์จะอธิษฐานต่อสถานที่นี้
– เมื่ออิสราเอล อธิษฐานต่อสถานที่นี้ ขอพระองค์เองทรงสดับ และขอทรงอภัย
– เมื่อใครมาสาบานต่อหน้าแท่นบูชาในพระนิเวศนี้ ขอทรงดำเนินการ และทรงพิพากษา ตามความเป็นธรรม
– เมื่อมีภัยแล้ง การกันดารอาหาร โรคระบาด หรือภัยธรรมชาติต่างๆ หรือ ศัตรูมาโจมตี แล้วคนใด หรือคนอิสราเอลทั้งหมด อธิษฐานต่อพระนิเวศนี้ และหันกลับจากบาป ขอทรงสดับ และขอทรงอภัย แล้วประทานแก่แต่ละคน ตามการประพฤติทั้งสิ้นของเขา
– เมื่อคนต่างด้าว มาอธิษฐานต่อพระนิเวศนี้ ขอพระองค์ทรงสดับ และทรงทำตามทุกสิ่งซึ่งคนต่างด้าวได้ทูลขอ
– เมื่อคนอิสราเอล ออกไปต่อสู้กับศัตรูของเขา และพวกเขาอธิษฐาน ตรงต่อพระนิเวศนี้ ขอทรงสดับ และขอประทานความยุติธรรมแก่พวกเขา
– เมื่อคนอิสราเอลทำบาปต่อพระองค์ จนพวกเขาพ่ายแพ้ศัตรู พวกเขาถูกศัตรูจับเขาไปเป็นเชลย ถ้าเขาสำนึกผิด และได้กลับใจ แล้วกลับมาหาพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจของพวกเขา และอธิษฐานต่อพระองค์ตรงต่อพระนิเวศนี้ ขอทรงสดับคำอธิษฐาน และประทานความยุติธรรมแก่พวกเขา และทรงอภัยแก่พวกเขา
ข้าแต่พระเจ้า ขอพระเนตรและพระกรรณของพระองค์ ทรงเฝ้าดูอยู่เหนือสถานที่นี้
1. ด้วยสติปัญญาอันชาญฉลาดของซาโลมอน เขารู้ดีว่า พระวิหารที่เขาสร้างขึ้นนั้น ไม่เพียงพอที่จะรองรับพระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุดได้
ถึงกระนั้นเขาก็ยังขอต่อพระเจ้าว่า ขอให้สถานที่นี้ เป็นที่นัดพบกับพระเจ้าแทนก็ยังดี
เมื่อคนใด อธิษฐานต่อพระเจ้า ตรงมายังสถานที่นี้ ขอพระเจ้าทรงโปรดสดับฟัง
แม้สิ่งที่เราทำแด่พระเจ้านั้นจะเล็กน้อยเหลือเกิน เมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ของพระองค์
แต่สิ่งที่ทำนั้นสามารถเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงความจงรักภักดีที่มีต่อพระเจ้าได้เสมอ เมื่อเราทำอย่างสุดกำลัง หมดหัวใจ
2. ซาโลมอนขอต่อพระเจ้าว่า หากมีใครอธิษฐานต่อพระเจ้า ตรงมายังพระวิหารนี้ขอพระเจ้าทรงสดับฟัง
ซึ่งในบทต่อมา พระเจ้าทรงตอบรับคำขอนั้น
ดังนั้นคนอิสราเอล แม้ถูกจับไปยังแดนไกล เมื่อพวกเขาจะอธิษฐานก็จะหันหน้ามาทางเยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระวิหาร เหมือนอย่างที่ดาเนียลได้ทำ
วันนี้ เราเป็นพระวิหารของพระเจ้า
1คร. 3:16″ ท่านทั้งหลายรู้แล้วไม่ใช่หรือว่าพวกท่านเป็นวิหารของพระเจ้า และพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่ในพวกท่าน? “
จิตวิญญาณของเรานั้น เป็นที่นัดพบกับพระเจ้า
ทุกครั้งที่เราให้จิตวิญญาณของเรา ร้องทูลต่อพระเจ้าอย่างจริงใจ พระองค์จะสดับฟัง
เมื่อเราทำผิด พระองค์จะทรงอภัย
เมื่อเราเผชิญโพยภัย พระองค์จะทรงช่วยกู้
เมื่อเราต้องพบกับความยากลำบากในสถานการณ์ของชีวิต พระองค์จะทรงนำเราให้ผ่านพ้นไปอย่างมีชัยชนะ
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ เมื่อเราร้องทูลต่อพระองค์อย่างจริงใจ ด้วยจิตวิญญาณของเรา
ยน. 4:23 “แต่วาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อคนที่นมัสการอย่างแท้จริงจะนมัสการพระบิดาด้วยจิตวิญญาณและความจริง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้นมานมัสการพระองค์”
คำคม
“ จิตวิญญาณของเรา เป็นที่นัดพบกับพระเจ้า ที่นั่นพระองค์เฝ้ารอให้เรามาเข้าเฝ้าพระองค์อยู่เสมอ ”