ภาพรวม
- เฮเซคียาห์จัดเทศกาลปัสกาขึ้นในเยรูซาเล็ม และมีคนมากมายมาร่วมงานนี้อย่างเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดี
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
2 พงศาวดาร บทที่ 30 เมื่อเฮเซคียาห์ ขึ้นครองราชย์แทนอาหัส ผู้เป็นบิดา พระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ชอบในสายพระเนตรของพระเจ้า ทรงฟื้นฟูพระนิเวศของพระเจ้า และจัดให้มีการถวายเครื่องบูชาแด่พระเจ้าอีกครั้ง
เฮเซคียาห์ ส่งคนไปถึงอาณาจักรอิสราเอลและอาณาจักรยูดาห์ทั้งหมด
เชิญให้พวกเขามายังพระนิเวศของพระเจ้าที่กรุงเยรูซาเล็ม เพื่อถือเทศกาลปัสกาถวายแด่พระเจ้า
การถือเทศกาลปัสกา ครั้งนี้ จะทำในเดือนที่ 2 ไม่ใช่เดือนที่ 1 ตามปกติ
เพราะพวกปุโรหิตยังไม่สามารถชำระตัวให้บริสุทธิ์จนได้จำนวนพอเพียง
และประชาชนก็ไม่ได้ชุมนุมกันในกรุงเยรูซาเล็ม
เมื่อคำเชิญชวนนั้น ความว่า
“จงกลับมาหาพระเจ้า เพื่อพระองค์จะทรงหันกลับมาช่วยให้รอด
จากมือของบรรดาพระราชาแห่งอัสซีเรีย
เพราะบรรพบุรุษของพวกเขาไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า
พระองค์จึงทรงทำให้พวกเขา เป็นสิ่งที่น่าสยดสยองตามที่เห็นอยู่นี้
บัดนี้อย่าหัวแข็ง แต่จงมอบตัวแด่พระเจ้า
จงมายังสถานนมัสการของพระองค์ และจงปรนนิบัติพระเจ้า
พวกเขากลับมาหาพระเจ้า พี่น้องและลูกหลานของพวกเขาจะได้กลับมายังแผ่นดินนี้อีก
เพราะพระเจ้าทรงมีพระคุณและพระกรุณา
ถ้าพวกเขากลับมาหาพระองค์ พระองค์จะไม่หันพระพักตร์ไปจากพวกเขา”
คนทั้งหลายได้ยินข้อความนั้น ต่างก็หัวเราะเยาะและเย้ยหยัน
มีเพียงบางคนจากเผ่าอาเชอร์ มนัสเสห์และเศบูลุน ที่ถ่อมตัวลงและมายังกรุงเยรูซาเล็ม
ส่วนยูดาห์ ได้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่จะทำตาม
ประชาชนจำนวนมากมาประชุมกันในกรุงเยรูซาเล็ม
เพื่อถือเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อในเดือนที่ 2
เป็นการชุมนุมที่ยิ่งใหญ่มาก
พวกเขาลงมือกำจัดแท่นบูชาของรูปเคารพที่อยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม
และพวกเขาฆ่าแกะปัสกา ในวันที่ 14 ของเดือนที่ 2
บรรดาปุโรหิตและคนเลวีรู้สึกละอายใจ
เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงรีบชำระตัวให้บริสุทธิ์
คนจำนวนมากในชุมนุมชนนั้นยังไม่ได้ชำระตัวให้บริสุทธิ์
ดังนั้นคนเลวีจึงต้องฆ่าแกะปัสกาแทนทุกคนที่ไม่บริสุทธิ์
เพื่อถวายเป็นสิ่งบริสุทธิ์แด่พระเจ้า
คนจำนวนมากมายนั้น มีคนมากที่ยังไม่ได้ชำระตัวให้บริสุทธิ์
แต่พวกเขาก็รับประทานปัสกาซึ่งเป็นสิ่งขัดต่อข้อบัญญัติ
พวกเขาจึงเกิดโรคบางอย่างขึ้น
ดังนั้นเฮเซคียาห์ทรงอธิษฐานเผื่อพวกเขา
ขอพระเจ้า ทรงให้อภัยแก่พวกเขา
ผู้ตั้งใจแสวงหาพระเจ้า ถึงแม้ว่าไม่ได้เป็นไปตามกฎของความบริสุทธิ์แห่งพระนิเวศ
พระเจ้าทรงฟังเฮเซคียาห์และทรงรักษาประชาชน
แล้วประชาชนก็ถือเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อ 7 วัน ด้วยความยินดีอย่างยิ่ง
และคนเลวีกับปุโรหิตสรรเสริญพระเจ้าทุกๆวัน ด้วยเครื่องดนตรีที่ให้เสียงดัง
แล้วชุมนุมชนทั้งหมดก็ตกลงกัน ที่จะถือเทศกาลเลี้ยงต่ออีก 7 วัน
เพราะเฮเซคียาห์ ประทานวัวผู้ 1,000 ตัว และแกะ 7,000 ตัวแก่ชุมนุมชนให้เป็นเครื่องบูชา
และพวกเจ้านายก็ให้วัวผู้ 1,000 ตัว และแกะ 10,000 ตัวแก่ชุมนุมชน
ปุโรหิตจำนวนมากมายก็ชำระตัวให้บริสุทธิ์
ชุมนุมชนทั้งหมดต่างก็เปรมปรีดิ์กัน
จึงมีความยินดีอย่างยิ่งในกรุงเยรูซาเล็ม
เพราะตั้งแต่สมัยของซาโลมอน ไม่เคยมีอย่างนี้ในกรุงเยรูซาเล็มเลย
แล้วบรรดาปุโรหิตและคนเลวีลุกขึ้นอวยพรประชาชน
เสียงของพวกเขาก็ไปถึงพระกรรณของพระเจ้า
และคำอธิษฐานก็ไปยังฟ้าสวรรค์
1. ในบทนี้มีเหตุการณ์ที่น่าสังเกตอยู่ 2 เรื่อง คือ
– การถือปัสกา ทำในเดือนที่ 2 แทนที่จะทำเดือนที่ 1
– คนอิสราเอลบางคนยังไม่ชำระตัวให้บริสุทธิ์ แต่ก็กินปัสกา
ทั้ง 2 เรื่อง เป็นการทำไม่ตรงกับ กฏเกณฑ์กติกาในธรรมบัญญัติของพระเจ้า
แต่ปรากฏว่า การถือปัสกาครั้งนี้กลับยังคงได้รับพระพรมากมาย
ที่เป็นเช่นนั้น เพราะท่าทีในใจที่ถูกต้องของพวกเขา
– เดือนที่ 1 จัดไม่ทัน เพราะก่อนหน้านี้สมัยอาหัส ทำพังจนเละเทะไปหมด ทั้งพระนิเวศและความบริสุทธิ์ของผู้ปรนนิบัติในพระนิเวศ กว่าจะซ่อมแซมกลับมาได้ ใช้เวลานาน จนล่วงเลยเดือนที่1 ไป
ครั้นจะรอไปอีก 1 ปี ก็เนิ่นนานเกินไป พวกเขาต้องการแสวงหาพระเจ้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
– คนที่ยังไม่ชำระตัว แต่ก็กินปัสกา เพราะมีคนมากซึ่งมาจากอาณาจักรอิสราเอล ทำให้พวกเขาชำระตัวไม่ทัน แต่ก็ตั้งใจจริงอยากมาร่วมปัสกาจึงเดินทางมาจากแดนไกล
ท่าทีในใจที่ถูกต้อง สำคัญยิ่งกว่า กฏเกณฑ์พิธีกรรมภายนอก
วันนี้เราแสวงหาพระเจ้าด้วยสุดใจ หรือเป็นเพียงแต่พฤติกรรมภายนอกเท่านั้น?
2. การจัดปัสกาครั้งนี้ ถูกนำไปเปรียบเทียบกับปัสกาสมัยซาโลมอน
ซึ่งความจริงแล้วในแง่ปริมาณของถวายเทียบกันไม่ได้เลย
ใน 2พศด. 7:5 “กษัตริย์ซาโลมอนทรงถวายเครื่องสัตวบูชาเป็นวัว 22,000 ตัว และแกะ 120,000 ตัว…”
แต่ครั้งนี้ ถวายแค่ วัวผู้ 2,000 ตัว และแกะ 17,000 ตัว เท่านั้นเอง
แต่พระคัมภีร์บันทึกว่า ครั้งนี้เป็นปัสกาที่ยิ่งใหญ่มาก
ไม่ใช่เพราะของถวายมากมาย
แต่เพราะประชาชนแสวงหาพระเจ้าอย่างสุดใจ ด้วยใจยินดี
ท่าทีในใจของเรา ที่หิวกระหายพระเจ้าและแสวงหาพระเจ้าอย่างสุดใจ
ย่อมมีค่ามากยิ่งกว่าของถวายใดๆที่เรามอบถวายแด่พระองค์
วันนี้ เราหิวที่อยากจะรู้จักกับพระเจ้ามากยิ่งขึ้นจริงๆหรือเปล่า?
คำคม
“ พระเจ้าทรงชันสูตรใจ ท่าทีในใจของเราที่มีต่อพระองค์จึงสำคัญอย่างยิ่ง ”