สรุป 1พงศาวดาร 1

ภาพรวม

  • เป็นเรื่องราวของประวัติศาสตร์ของอิสราเอล ตั้งแต่ซาอูลขึ้นเป็นกษัตริย์ จนถึงดาวิดเสียชีวิต
  • ใน 1 พวศาวดาร บทที่ 1 กล่าวถึงเชื้อสายของอาดัมไล่ไปจนถึงเชื้อสายของอับราฮัม คือ ลูกหลานของเอซาว

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 1 แสดงเชื้อสายของมนุษย์ ตั้งแต่ อา​ดัม ลงมาทาง เสท
เรื่อยมาจนถึงโน​อาห์ ซึ่งมีบุตรชาย คือ เชม ฮาม และ ยา​เฟท

เชื้อสายของ​ยา​เฟท​ เป็นต้นตระกูลของ ชาว​โก​เมอร์ มา​โกก ทูบัล และเม​เชค (อสค. 38:2)
เชื้อสาย​ของ​ฮาม เป็นต้นตระกูลของชาวคูช อียิปต์ พูต คา​นา​อัน และคัส​ลู​ฮิม (เป็น​ต้น​ตระ​กูล​คน​ฟีลิส​เตีย)
เชื้อสายของ​เชม เป็นต้นตระกูลของชาวเช​ลาห์ ​เอ​ลาม อัส​ชูร อาร​ปัค​ชาด ลูด อา​รัม ​เอ​เบอร์ โอ​ฟีร์ ฮา​วิ​ลาห์ และอิสราเอล

​อับ​รา​ฮัม ผู้เป็นเชื้อสายของเชม มีบุตร​ชื่อ​ อิส​อัค และ​ อิช​มา​เอล และบุตรชายอีก 6 คน ซึ่งเกิดจาก​เคทู​ราห์​ภรร​ยา​น้อย​ของ​อับ​รา​ฮัม

​อิช​มา​เอล​ เป็นต้นตระกูลของชาว​เน​บา​โยท เค​ดาร์ ดู​มาห์ ฮา​ดัด และเท​มา

บุตร​ของ​เคทู​ราห์​ ซึ่งได้แก่ ​มี​ศิม​ราน โยก​ชาน เม​ดาน มี​เดียน อิช​บาก และ​ชู​อาห์ นั้น
เป็นต้นตระกูลของชาว​มี​เดียน​ ​เช​บา เด​ดาน และ​เอ​ฟาห์

​อิส​อัค มีบุตร​ชื่อ​ เอ​ซาว และ​ อิส​รา​เอล

เอ​ซาว​ เป็นต้นตระกูลของชาวเท​มาน โอ​มาร์ เศโฟ เค​นัส ทิม​นา​ อา​มา​เลข เส​อีร์​ ​โฮรี และ​อูส
บรร​ดา​เจ้า​นาย​ที่ปกครองใน​เอ​โดม​ ได้แก่ ทิม​นา ​อา​ลี​ยาห์ ​เย​เธท โอ​โฮ​ลี​บา​มาห์ เอ​ลาห์ ​ปิ​โนน ​เค​นัส ​เท​มาน ​มิบ​ซาร์ ​มัก​ดี​เอล และ​อิราม

1. ต้นตระกูลของชนชาติทั้งหลาย ล้วนมาจากแหล่งเดียวกัน
และพระเจ้าทรงเป็นต้นกำเนิดของประชาชาติทั้งสิ้น
ดังนั้นทุกชนชาติเป็นของพระองค์ พระองค์จึงทรงรักพวกเขา
แต่เพราะพวกเขาหันออกจากพระเจ้า ไปทำสิ่งเลวร้าย
จนทำให้ชนชาติเหล่านี้ต้องหมดสิ้นไปในที่สุด

พระเจ้าไม่ประสงค์ให้ผู้ใดต้องพินาศ
อย่างไรก็ดีผู้ที่ดำเนินต่อไปในบาปอย่างไม่ยอมกลับใจจะพินาศ

2. พระเจ้าทรงรักษาสัญญากับอับราฮัม ถึงแม้เขาจากโลกนี้ไปแล้ว
ลูกหลานเหลนโหลนและเชื้อสายของเขา ก็กลายเป็นชนชาติใหญ่มากมาย
ตามที่พระเจ้าทรงสัญญา
ปฐก. 17:4 “นี่​พันธสัญญา​ของ​เรา​กับ​เจ้า เจ้า​จะ​เป็น​บิดา​ของ​ประชาชาติ​มาก​มาย​”

พระเจ้าทรงรักษาสัญญาเสมอ ถึงแม้ว่าคนที่เป็นคู่สัญญาจะจากโลกนี้ไปนานแล้วก็ตาม

คำคม

“ พระเจ้าทรงรักษาสัญญาเสมอ ”

สรุป 1พงศาวดาร 2

ภาพรวม

  • บทที่ 2 พูดถึงเชื้อสายของอิสราเอลแบบกว้างๆ โดยเน้นว่ายูดาห์ เป็นต้นตระกูลของดาวิด และยูดาห์เป็นต้นตระกูลของคนกลุ่มต่างๆอีกหลายกลุ่มอีกด้วย

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 2 ต่อจากบทที่ 1 ที่กล่าวถึงเชื้อสายของอาดัมไล่ไปจนถึงเชื้อสายของอับราฮัม คือ ลูกหลานของเอซาว

ในบทที่ 2 ได้พูดถึงเชื้อสายของอิสราเอล ดังนี้
​อิส​รา​เอล มีบุตรชาย 12 คน ​คือ​
รู​เบน สิ​เม​โอน เลวี ยู​ดาห์
อิส​สา​คาร์ เศ​บู​ลุน ดาน โย​เซฟ
เบน​ยา​มิน นัฟ​ทาลี กาด และ​อา​เชอร์

บุตร​ยู​ดาห์​ ที่เกิดจากนางทา​มาร์​บุตร​สะใภ้​ของ​เขา คือ ​เป​เรศ และ​เศ-ราห์
บุตร​เป​เรศ​ ชื่อ​ เฮส​โรน และ​ฮา​มูล
บุตร​ของ​เฮส​โรน ชื่อ ราม
ราม​เป็น​พ่อของทวดของ​โบ​อาส
โบ​อาส​เป็นพ่อ​ของ​โอ​เบด
โอ​เบด​เป็น​พ่อของ​เจสซี
เจสซี​ มี ลูกชาย 7 คน ได้แก่
​เอ​ลี​อับ​ อา​บี​นา​ดับ​ ชิ​เม​อา นา​ธัน​เอล​
รัด​ดัย​ โอ​เซม​ และดาวิด​
และ​เจสซีมีลูก 2 คนแรก เป็นลูกสาว คือ​ นาง​เศ​รุ​ยาห์ และ​นางอา​บี​กา​ยิล
บุตร​ของ​นาง​เศ​รุ​ยาห์​ คือ​ อา​บี​ชัย โย​อาบ และ​อา​สา​เฮล (เหล่าแม่ทัพของดาวิด)
บุตรของนาง​อา​บี​กา​ยิล​ ​คือ​ อา​มา​สา (ที่ถูกโยอาบฆ่าตายเพราะความอิจฉา)

เฮอร์(ผู้ช่วยยกมือโมเสสบนภูเขา)​ ก็เป็นเชื้อสายของ​เฮส​โรน บุตร​เป​เรศ​​ ด้วย
เฮอร์ เป็นปู่ของ​เบ​ซา​เลล(สุดยอดช่างฝีมือที่ช่วยโมเสสสร้างพลับพลา)

และเชื้อสายของเฮสโรน ต่อมาเป็นต้นตระกูลของคน​อิท​ไรต์ คน​ปุไท คน​ชุ​มัท คน​มิช​รา คนโศ​ราห์ คน​เอช​ทา​โอล​ คน​เน​โท​ฟาห์ คนอัท​โรท​เบธ​โย​อาบ ครึ่ง​หนึ่ง​ของ​คน​เมนู​โหท คน​ทิรา​ไธต์ คน​ชิ​เม​อี ​คน​สุคา และคนตระ​กูล​เร​คาบ

1. เมื่อสังเกตชื่อบุคคลมากมายในบทนี้ จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า คนทั้งหลายที่มีบทบาทในแผนการของพระเจ้า โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์นั้น ถูกจัดเตรียมไว้อย่างปราณีต อย่างมีวัตถุประสงค์ และในเวลาที่พอเหมาะพอดี เพื่อให้แผนการของพระเจ้า คำพยากรณ์ในพระคำของพระเจ้า สำเร็จเกิดขึ้นเป็นจริง
ตัวอย่างเช่น เฮอร์ บาซาเลล ทามาร์ โบอาส เจสซี นาง​เศ​รุ​ยาห์ ​นางอา​บี​กา​ยิล ​อา​สา​เฮล​ อา​มา​สา เป็นต้น

พระเจ้าให้เราเกิดมาในสมัยปัจจุบันนี้ พระองค์ทรงมีแผนการสำหรับชีวิตของเรา มีวัตถุประสงค์สำหรับเรา และมีเวลาที่เหมาะสมสำหรับเรา
และเพราะเรารู้ว่าพระเจ้าทรงรักเรา จนประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์เพื่อเรา
ดังนั้นแผนการทั้งหมดของพระเจ้า ย่อมเพื่อประโยชน์ที่ดีเลิศสำหรับเราอย่างแน่นอน

2. เมื่อได้พิจารณาดูรายชื่อลำดับเชื้อสายอันยาวเหยียดและละเอียดเหล่านี้
และเมื่อคิดถึงการคัดลอกพระคัมภีร์ด้วยมือ ต่อๆกันไปอีกหลายพันหลายหมื่นฉบับ
แล้วปรากฏว่า เมื่อนักโบราณคดีเอาต้นฉบับเหล่านั้นทั้งสิ้น มาเทียบกัน เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง
ข้อความในฉบับต่างๆเหล่านั้น มีชื่อและลำดับเชื้อสายเหล่านี้ถูกต้องเหมือนกันอย่างแม่นยำ
สิ่งนี้ยิ่งทำให้เป็นสิ่งยืนยันว่า
คัมภีร์ที่ถูกคัดลอกและส่งต่อกันมาจนถึงปัจจุบันนั้น ถูกต้องแม่นยำทุกประการ
เพราะว่า ขนาดรายชื่อเชื้อสายอันยาวเหยียดเหล่านี้ยังถูกต้อง 100%
นับประสาอะไรกับเนื้อหาอื่นๆ ที่ง่ายต่อการคัดลอกยิ่งกว่านี้ ย่อมไม่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนอย่างแน่นอน

คำคม

“ พระเจ้าทรงมีแผนการและเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเรา ”

สรุป 1พงศาวดาร 3

ภาพรวม

  • บทที่ 3 พูดถึงเชื้อสายของดาวิด ไล่ไปจนถึงกษัตริย์องค์สุดท้ายของอิสราเอล และไล่ต่อไปจนถึงช่วงที่พระเจ้าทรงนำคนอิสราเอลกลับมาจากการเป็นเชลยที่บาบิโลน

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 3 ต่อเนื่องจากบทที่ 2 ที่พูดถึงเชื้อสายของอิสราเอลแบบกว้างๆ โดยเน้นว่ายูดาห์ เป็นต้นตระกูลของดาวิด และยูดาห์เป็นต้นตระกูลของคนกลุ่มต่างๆอีกหลายกลุ่มอีกด้วย

ในบทที่ 3 ได้พูดถึงเชื้อสายของดาวิด ดังต่อ​ไป​นี้
ดาวิด​ ครอง​ราชย์ในเฮโบรน 7 ปี​กับ 6 เดือน มีโอรสที่นั่น ได้แก่
1. อัม​โนน​ (ผู้ข่มขืนทามาร์น้องอับซาโลม จึงถูกอับซาโลมฆ่าตาย)
2. ดา​เนียล
3. อับ​ซา​โลม ​ซึ่งเกิดจาก​พระ​นาง​มา​อา​คาห์​ เจ้าหญิงแห่ง​เมือง​เก​ชูร์
(ผู้แย่งชิงบัลลังก์จากดาวิด แต่ต่อมาถูกโยอาบแม่ทัพของดาวิดฆ่าตาย)
4. อา​โด​นี​ยาห์​ (ผู้พยายามแย่งชิงบัลลังก์จากซาโลมอนแต่ไม่สำเร็จ)
5. เช​ฟา​ทิ​ยาห์​
6. อิท​เร​อัม

ดาวิดครอง​ราชย์​ใน​กรุง​เย​รู​ซา​เล็ม 33 ปี มีโอรสที่เกิดที่นั่น ได้แก่
1. ชิ​เม​อา
2. โช​บับ
3. นา​ธัน
4. ซา​โล​มอน ผู้เป็นกษัตริย์ต่อจากดาวิด
โอรสทั้ง 4 ​องค์​นี้ เกิดจาก​พระ​นาง​บัท​ชู​วา​[บัทเชบา]
5. อิบ​ฮาร์
6. เอ​ลี​ชา​มา
7. เอ​ลี​เฟ​เลท
8. โน​กาห์
9. เน​เฟก
10. ยา​เฟีย
11. เอ​ลี​ชา​มา
12. เอ​ลี​ยา​ดา
13. เอ​ลี​เฟ​เลท
ซึ่งยังไม่รวม ​เหล่า​โอรส​ที่เกิดจาก​นาง​สนม​ทั้ง​หลาย ของดาวิด
และ​ทา​มาร์ผู้​เป็น​ธิดาของดาวิด

เชื้อสาย​ของ​ซา​โล​มอน​ เป็นดังนี้
– ​เร​โห​โบ​อัม ผู้ทำให้อาณาจักรถูกแบ่งเป็น 2
– อา​บี​ยาห์ ผู้ชั่วร้ายแต่ยังร้องทูลพระเจ้า
– อา​สา ผู้พึ่งพาพระเจ้าตอนต้น แต่บั้นปลายพึ่งพาสิ่งอื่น
– ​เย​โฮ​ชา​ฟัท ผู้รักพระเจ้า และพระองค์ช่วยเขารบชนะโดยไม่ต้องสู้แค่ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า
– ​โย​รัม ผู้ร่วมมือกับคนชั่วอย่างอาหับ พ่อตาของตน
– อา​หัส​ยาห์ ผู้ทำชั่วเหมือนพระราชาอิสราเอล แล้วถูกเยฮูฆ่าตาย
– ​โย​อาช ผู้รอดตายหวุดหวิดโดยความช่วยเหลือของเย​โฮ​ยา​ดา จึงรักพระเจ้าในตอนต้น แต่ต่อมาละทิ้งพระเจ้า
– ​อา​มา​ซิ​ยาห์ ผู้รักพระเจ้า แล้วพระเจ้าอวยพร แต่ลืมตัว ไปท้ารบกับพระราชาอิสราเอลด้วยความยโส จึงพ่ายแพ้
– ​อา​ซา​ริ​ยาห์ [อุสซียาห์] ผู้รักพระเจ้า จนได้รับพระพรขยายอาณาจักรออกไปอย่างยิ่งใหญ่ แต่ต่อมาเย่อหยิ่งจะถวายเครื่องบูชาเอง จนกลายเป็นโรคเรื้อน
– โย​ธาม ผู้ดำเนินมั่นคงกับพระเจ้าตั้งแต่ต้นจนจบ
– อา​หัส ผู้ชั่วร้าย ผู้รื้อแท่นบูชาพระเจ้า เพื่อสร้างแท่นบูชารูปเคารพ
– เฮ​เซ​คี​ยาห์ ผู้ยำเกรงพระเจ้า จนเซนนาเคอริบต้องพ่ายแพ้ และจนได้ต่ออายุอีก 15ปี
– ​มนัส​เสห์ ผู้ชั่วร้ายที่สุดในบรรดากษัตริย์ทั้งหมด
– อา​โมน ผู้ทำชั่วได้ไม่แพ้พ่อ
– โย​สิ​ยาห์ ผู้รักพระเจ้า และนำการฟื้นฟูเรื่องฝ่ายวิญญาณมาสู่ประชาชนมากที่สุดในบรรดากษัตริย์ทั้งหมด
โอรส​ของ​โย​สิ​ยาห์​ คือ
1. โย​ฮา​นัน ผู้ชั่วร้าย และถูกฟาโรห์เนโคจับไปอียิปต์
2. ​เย​โฮ​ยา​คิม ผู้ชั่วร้าย และฆ่าตายโดยเนบูคัสนสซาร์
3. ​เศ​เด​คี​ยาห์ ผู้ชั่วร้าย กษัตริย์องค์สุดท้ายของประวัติศาสตร์อิสราเอล
4. ชัล​ลูม

โอรส​ของ​เย​โฮ​ยา​คิม​ คือ ​เย​โค​นิ​ยาห์ ผู้เป็นกษัตริย์แค่ 3 เดือน แล้วถูกจับไปบาบิโลน
เชื้อสาย​ของ​เย​โค​นิ​ยาห์​ ​คือ​เศ​รุบ​บา​เบล ผู้นำคนอิสราเอลกลับมาสร้างเยรูซาเล็มและพระวิหารขึ้นใหม่อีกครั้ง

1. พระเจ้าทรงอวยพระพรให้ดาวิดมีลูกมากมาย
แต่เพราะความบาปที่ดาวิดกระทำ จึงทำให้เกิดเรื่องน่าเศร้าหลายอย่างเกิดขึ้น
ท่ามกลางลูกๆของเขา

เมื่อเราดำเนินในทางของพระเจ้า ทุกอย่างที่เราเกี่ยวข้องจะได้รับพระพร
แต่ถ้าเราหันออกจากพระเจ้า ทำสิ่งชั่วร้ายที่พระเจ้าทรงรังเกียจ
สิ่งเหล่านั้นจะไม่อาจเป็นพระพรแก่เราได้ จนกว่าเราจะกลับใจอย่างแท้จริง

2. เนื่องจากอับซาโลมเป็นลูกของเจ้าหญิง น่าจะหล่อหลอมบุคลิกของเขา
ให้กล้าฆ่าอัมโมนที่มาข่มขืนน้องสาวของตน และกล้ากบฏต่อดาวิด

แต่ละคนนั้นสถานะของเขา และสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา
อยู่ในแผนการของพระเจ้า
ให้อยู่สภาวะที่เหมาะสม ที่จะสำแดงลักษณะแท้ ตัวตนในใจออกมา

3. ซาโลมอน ไม่ใช่บุตรคนต้นๆของดาวิด และไม่ใช่แม้แต่บุตรคนต้นๆของนางบัทเชบา
แต่เพราะพระเจ้าทรงเลือกซาโลมอน ดังนั้นในที่สุดซาโลมอนก็ได้เป็นกษัตริย์ต่อจากดาวิดอยู่ดี

ไม่ว่าจะเป็นไปไม่ได้มากสักเพียงใด
แต่ถ้าพระเจ้าจะให้มันเกิดขึ้น มันก็จะเกิดขึ้น

4. กษัตริย์ที่เป็นเชื้อสายของดาวิดนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนว่า
ผู้ที่รักและยำเกรงพระเจ้าจะได้รับพระพร ตราบเท่าที่เขายังรักและยำเกรงพระเจ้าอยู่
และผู้ที่ละทิ้งพระองค์ ก็จงใจละทิ้งพระพรที่พระเจ้าทรงเตรียมให้แก่เขา

วันนี้ เรายังดำเนินติดตามพระเจ้าอย่างจริงใจอยู่หรือไม่?

คำคม

“ พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ ในพระสัญญา ที่มีต่อผู้ยำเกรงพระองค์ ”

สรุป 1พงศาวดาร 4

ภาพรวม

  • บทที่ 4 พูดถึงเชื้อสายของยูดาห์และสิเมโอน ว่าเป็นต้นตระกูลของคนหลายกลุ่มและได้ครอบครองพื้นที่จำนวนมาก

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 4 ต่อเนื่องจาก บทที่ 3 ซึ่งพูดถึงเชื้อสายของดาวิด ไล่ไปจนถึงกษัตริย์องค์สุดท้ายของอิสราเอล และไล่ต่อไปจนถึงช่วงที่พระเจ้าทรงนำคนอิสราเอลกลับมาจากการเป็นเชลยที่บาบิโลน

ในบทที่ 4 นี้ ได้ย้อนกลับไปพูดเชื้อ​สาย​ของ​ยู​ดาห์ และของสิเมโอน บุตรของอิสราเอล ดังนี้

เชื้อ​สาย​ของ​ยู​ดาห์ ​คือ ​เป​เรศ เฮส​โรน และลูกหลาน
ซึ่ง​เป็น​ตระ​กูล​ของ​ชาว​โศ​ราห์ ชาว​ยิส​เร​เอล ชาว​เป​นู​เอล​ ชาว​เอฟ​รา​ธาห์​ ชาวเบธ​เล​เฮม ชาว​เท​โค​อา ชาวเร​คาห์ ​ชาว​​เน​ทา​อิม​และชาว​เก​เด​ราห์
โอท​นี​เอล ผู้วินิจฉัยคนแรก(วนฉ. 3:9) และ คาเลบ ผู้ไปสำรวจดินแดนพร้อมโยชูวา ก็อยู่ในเชื้อสายของยูดาห์ด้วย

อีกคนหนึ่งในเชื้อสายของยูดาห์ คือ ยา​เบส ซึ่ง​เป็น​ผู้​มี​เกียรติ​กว่า​บรร​ดา​พี่​น้อง​ของ​เขา
แม่ของ​เขา​ ตั้ง​ชื่อ​เขา​ว่า ​ยา​เบส เพราะว่า นาง​คลอด​เขา​ด้วย​ความ​ทุกข์​ยาก​ลำ​บากมาก
ยา​เบส​อธิษฐานต่อพระ​เจ้า ว่า
– ขอ​พระเจ้าอวย​พร​แก่​เขา
– ​ขยาย​เขต​แดน​ของเขา
– ทรงสถิตกับ​เขา
– ขอ​​ให้​เขา​พ้น​จาก​สิ่ง​ชั่วร้าย
เพื่อ​เขาจะไม่​ทุกข์​ยาก​ลำ​บาก ตามชื่อของเขา
แล้ว​พระ​เจ้า​ทรงประ​ทาน​ตาม​ที่​เขา​ทูล​ขอ

เชื้อ​สาย​ของ​​สิ​เม​โอน คือ ​เนมู​เอล ยา​มีน ยา​รีบ เศ-ราห์ และ​ชา​อูล
ซึ่งตระกูลของเขา​ไม่​มี​บุตร​ชาย​จำ​นวน​มาก เหมือน​คน​เผ่า​ยู​ดาห์
พวก​อา​ศัย​อยู่​ใน​เมือง​เบ​เออร์​เช​บา บิล​ฮาห์ ศิก​ลาก และเมืองบริเวณใกล้เคียง
ต่อมาพวก​เขา​ก็​เพิ่ม​ขึ้น​มาก จึง​เดิน​ทาง​ไป​ถึง​ทาง​เข้า​เมือง​ที่​เก​โดร์
เพื่อ​หา​ทุ่ง​หญ้า​ให้​ฝูง​แพะ​แกะ​
พวกเขา​พบ​ทุ่ง​หญ้า​อุดม​ดี และ​แผ่น​ดิน​นั้น​ก็​กว้าง​ขวาง​เงียบ​สงบ​สุข ​เป็น​ของคน​เชื้อ​สาย​ฮาม
พวกเขาจึงเข้า​โจม​ตี​และเข้ายึดครองแผ่นดินนั้น

อีกส่วน​หนึ่ง​ของ​​คน​สิ​เม​โอน 500 คน​พา​กัน​ไป​ที่​ภูเขา​เส​อีร์
และ​พวก​เขา​โจม​ตี​คน​อา​มา​เลข​ที่นั่น แล้ว​เข้าอา​ศัย​อยู่​ที่​นั่น

1. ยาเบส มีชื่อที่เป็นคำแช่งสาป แต่ด้วยความเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงเปลี่ยนคำแช่งสาปเป็นพระพรได้
เขาจึงอธิษฐานต่อพระเจ้า ขอให้พระเจ้าอวยพระพรเขา
เมื่อเขากล้าขอ พระเจ้าก็ทรงอวยพระพรเขา เขาไม่พบความทุกข์ยากลำบากเลย ชั่วชีวิต

แม้เขาไม่ได้เปลี่ยนชื่อ ชื่อเขายังคงเป็นคำแช่งสาป
แต่เขาได้รับพระพรตลอดชีวิต เพราะเขากล้าขอพระพรเช่นนั้นจากพระเจ้า

เราไม่ได้เพราะเราไม่ได้ขอ(ยก. 4:2)
เมื่อเราขอด้วยความเชื่อ และด้วยความเชื่อมั่นว่าพระเจ้าทรงรักเราและพระองค์พร้อมที่จะประทานสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่เราอย่างแน่นอน
แล้วเราก็จะพบว่าความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรานั้นมากเหลือล้นจริงๆ

2. เผ่าสิเมโอน จับสลากได้รับแผ่นดินเป็นฉลากที่ 2 (ยชว. 19:1-9) ซึ่งกินบริเวณกว้างขวางมาก
แต่เพราะเขาคิดว่าเขามีกำลังน้อยเขาจึงไม่ได้บุกเข้าไปยึดเอา
ต่อมาเมื่อเขาคิดว่า เขาน่าจะต้องบุกแล้ว เขาก็ยึดได้จริงๆตามที่พระเจ้าบอกไว้

การที่เรามองดูตัวเองมากเกินไป แล้วคิดว่าเราทำไม่ได้
โดยไม่ได้คำนึงถึงพระสัญญาของพระเจ้าว่าพระองค์ทรงสัญญากับเราอย่างไร
จะทำให้เราไม่ได้รับพระพรที่พระเจ้าทรงเตรียมให้แก่เราแล้ว
ซึ่งเราต้องก้าวออกไปรับด้วยความเชื่อจึงจะได้รับ

คำคม

“ เพียงกล้าขอ ด้วยความเชื่อ ก็จะได้รับ ”

สรุป 1พงศาวดาร 5

ภาพรวม

  • บทที่ 5 พูดถึงเชื้อสายของรูเบน และมนัสเสห์ครึ่งเผ่า ที่พระเจ้าทรงช่วยพวกเขาให้ชนะศัตรูเมื่อพวกเขาร้องทูลต่อพระองค์ แต่แล้วพวกเขาก็พ่ายแพ้ศัตรูเมื่อละทิ้งพระองค์

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 5 ต่อเนื่องจาก บทที่ 4 ซึ่งพูดถึงเชื้อสายของยูดาห์และสิเมโอน ว่าเป็นต้นตระกูลของคนหลายกลุ่มและได้ครอบครองพื้นที่จำนวนมาก

ในบทที่ 5 พูดถึงเชื้อสายของรู​เบน​ และมนัสเสห์ดังนี้

รูเบน ​บุตร​หัว​ปี​ของ​อิส​รา​เอล แต่​เพราะ​เขาไปหลับนอนกับ​บิล​ฮาห์​ภรรยา​น้อย​ของ​พ่อ (ปฐก. 35:22) สิทธิ​บุตร​หัว​ปี​ของ​เขา​จึง​ถูก​มอบ​ให้​กับ​บุตร​ของโย​เซฟ

บุตรของ​รูเบน คือ​ ฮา​โนค ปัลลู เฮส​โรน และ​คาร​มี
เชื้อสายของรูเบน รุ่นต่อๆมา คือ ​เบ​เอ​ราห์ เป็นผู้ซึ่ง​ทิ​กลัท​ปิ​เล​เสอร์ กษัตริย์​อัส​ซี​เรีย​จับ​ไป​เป็น​เชลย
เชื้อสายของรูเบน​อา​ศัย​อยู่​ทาง​ทิศ​ตะวัน​ออกของแม่น้ำจอร์แดน
มี​ฝูง​ปศุ​สัตว์มาก​มาย​ใน​แผ่น​ดิน​กิ​เล​อาด ใน​บา​ชาน และ​ใน​บริ​เวณ​รอบ​ชา​โรน​ทั้ง​หมด

ใน​สมัย​ของ​เย​โร​โบ​อัม​ พระ​ราชา​แห่ง​อิส​รา​เอล
คน​รู​เบน คน​กาด และ​คน​เผ่า​มนัส​เสห์​กึ่ง​หนึ่ง ได้​รับ​การ​ฝึก​สำ​หรับ​สง​คราม​จนเก่งกล้า จำ​นวน 44,760 คน
​เข้า​​ทำ​สง​คราม​กับ​คน​ฮา​การ์ เย​ทูร์ นา​ฟิช และ​โน​ดับ
และ​พวก​เขา​ได้​รับ​ความ​ช่วย​เหลือจากพระเจ้า
เพราะ​พวก​เขา​ร้อง​ทูล​ต่อ​พระ​เจ้า​ใน​สง​คราม
​พระ​องค์​ทรงประ​ทาน​ตาม​คำ​ทูล​ของ​พวก​เขา
เพราะ​พวก​เขา​วาง​ใจ​ใน​พระ​องค์
พวกเขาได้รับชัยชนะอย่างงดงาม
เพราะ​สง​คราม​นี้​มา​จาก​พระ​เจ้า
พวก​เขา​ยึด​เอา​ฝูง​​สัตว์​ของ​ศัตรู​มากมาย และ​จับเชลยได้ 100,000 คน

เชื้อสายของ​มนัส​เสห์​กึ่ง​หนึ่ง​อา​ศัย​อยู่​ใน​แผ่น​ดิน​นั้นเช่นกัน
พวก​เขา​มี​จำ​นวน​มาก ตั้ง​แต่​เมือง​บา​ชาน​ ถึง​​ ภู​เขา​เฮอร์​โมน

ต่อมา​คน​รู​เบน คน​กาด และ​คน​เผ่า​มนัส​เสห์​กึ่ง​หนึ่ง ​ทำผิด​ต่อ​พระ​เจ้า
และ​เล่น​ชู้​กับ​พระ​ของ​ชน​ชาติ​แห่ง​แผ่น​ดิน​นั้น
ดัง​นั้น พระ​เจ้า​​จึง​ทรง​เร้า​พระ​ทัย​ของ​ปูล(​ทิ​กลัท​ปิ​เล​เสอร์) พระ​ราชา​แห่ง​อัส​ซี​เรีย
และ​พระ​องค์​ทรง​ยกทัพมากวาด​พวก​เขา​เป็น​เชลย ที่ ฮา​ลาห์ ฮา​โบร์ ฮา​รา และ​แม่​น้ำ​เมือง​โก​ซาน

1. การทำผิดเรื่องเพศของรูเบน นำความเสียหายใหญ่โตมากกว่าที่เขาจะจินตนาการได้
เขาและเชื้อสาย สูญเสียสิทธิบุตรหัวปีไป

ความผิดบาปทางเพศ หากผิดพลาดไปแล้ว มักส่งผลกระทบที่รุนแรงตามมาเสมอ
ดังนั้นการรีบกลับใจให้เร็วที่สุด เมื่อผิดพลาดไปในเรื่องนี้
จะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับการลดความเสียหาย อันเกิดขึ้นมาจากบาปนี้

2. พระเจ้าทรงช่วยคน​รู​เบน คน​กาด และ​คน​เผ่า​มนัส​เสห์​กึ่ง​หนึ่ง ให้รบชนะอย่างงดงามทั้งที่มีกำลังน้อยกว่า
เพราะหลังจากศัตรูล้มตายลงไปเป็นจำนวนมากแล้ว เชลยที่จับมาได้ ก็ยังมีจำนวนมากถึง 100,000 คน
ส่วนพวกเขาเองมีนักรบเพียง 44,760 คน
แต่เพราะพวกเขาร้องทูลขอ​ความ​ช่วย​เหลือจากพระเจ้า อย่างวางใจ
พระเจ้าจึงทรงเมตตาพวกเขา

น่าเสียดายที่พวกเขา ไม่จดจำพระคุณพระเมตตาของพระเจ้า
กลับละทิ้งพระองค์ ไปทำสิ่งที่พระเจ้ารังเกียจและทรงห้ามไว้
พวกเขาจึงต้องพบจุดจบอย่างน่าเศร้า

เมื่อเราร้องทูลต่อพระเจ้าอย่างวางใจ พระเจ้าจะทรงช่วยเราอย่างแน่นอน
และวันนี้ อย่าให้ลืมพระคุณของพระเจ้า ที่เคยช่วยเราในอดีตที่ผ่านมา
ยิ่งวันเวลาผ่านไป เรารับประสบการณ์การช่วยกู้จากพระเจ้ามากขึ้น
เราสมควรที่จะยิ่งรักและยำเกรงพระองค์มากยิ่งขึ้น
อย่าหันกลับจากการติดตามพระเจ้าเหมือนอย่าง 2 เผ่าครึ่งของอิสราเอลนี้

คำคม

“ ผู้ที่ร้องทูลต่อพระเจ้า อย่างวางใจ จะได้รับการช่วยกู้ ”

สรุป 1พงศาวดาร 6

ภาพรวม

  • พระเจ้าทรงเลือกเชื้อสายของเลวีให้ปรนนิบัติรับใช้พระองค์ในพระนิเวศน์ของพระองค์

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 6 ต่อเนื่องจาก บทที่ 5 ซึ่งพูดถึงเชื้อสายของรูเบน และมนัสเสห์ครึ่งเผ่า ที่พระเจ้าทรงช่วยพวกเขาให้ชนะศัตรูเมื่อพวกเขาร้องทูลต่อพระองค์ แต่แล้วพวกเขาก็พ่ายแพ้ศัตรูเมื่อละทิ้งพระองค์

ในบทที่ 6 พูดถึง เชื้อสาย​ของ​เลวี ​คือ ​เกอร์​โชม โค​ฮาท และ​เม​รา​รี

บุตร​ของ​โค​ฮาท​ คือ ​อัม​ราม
อัม​ราม เป็นพ่อของ ​อา​โรน โม​เสส และ​นาง​มิ​เรียม
บุตร​อา​โรน​คือ​นา​ดับ อา​บีฮู (ลูก 2คนแรกของอาโรน ที่ตายเพราะนำไฟต้องห้ามมาถวายพระเจ้า) เอ​เล​อา​ซาร์ และ​อิ​ธา​มาร์
เชื้อสายเอ​เล​อา​ซาร์​ (ผู้ทำหน้าที่ปุโรหิตแทนอาโรน ฉธบ. 10:6) คือ
​ฟี​เน​หัส (ผู้ที่ช่วยยับยั้ง​ความ​กริ้ว​ของพระเจ้า​ต่อ​คน​อิส​รา​เอล กดว. 25:11)
อา​บี​ชู​วา
​บุค​คี
อุส​ซี
​เศ-รา​หิ​ยาห์
เม​รา​โยท​
อา​มา​ริ​ยาห์​
อา​หิ​ทูบ​
ศา​โดก​ (ผู้เป็นปุโรหิตสมัยดาวิด 1พกษ. 1:8)
อา​หิ​มา​อัส (ผู้คอยส่งข่าวให้ดาวิด หลังจากที่อับซาโลมยึดอำนาจจากดาวิด 2ซมอ. 15:36)
อา​ซา​ริ​ยาห์
โย​ฮา​นัน​ (ผู้​เป็น​ปุโร​หิต​อยู่​ใน​พระ​วิหาร ซึ่ง​ซา​โล​มอน​ทรง​สร้าง​ใน​เย​รู​ซา​เล็ม)
​อา​ซา​ริ​ยาห์
อา​มา​ริ​ยาห์
อา​หิ​ทูบ
ศา​โดก
ชัล​ลูม​
ฮิล​คี​ยาห์ (ผู้เป็นปุโรหิตสมัยโยสิยาห์ ผู้พบหนังสือธรรมบัญญัติในพระนิเวศน์ 2พกษ. 22:12)
อา​ซา​ริ​ยาห์​ (ผู้เมื่ออายุมากแล้วได้ เป็นหัวหน้าดูแลพระวิหารของพระเจ้า ช่วงกลับจากเป็นเชลยในบาบิโลน 1พศด. 9:11)
เส​ไร​อาห์ (ผู้เป็นปุโรหิตที่เยบูคัสเนศซาร์ฆ่าตาย เมื่อกรุงเยรูซาเล็มถูกทำลาย 2พกษ. 25:18)
เย​โฮ​ซา​ดัก​ (ผู้ถูก​จับ​ไป​เป็น​เชลย เมื่อเย​รู​ซา​เล็ม​ถูกทำลาย)

บุตรคนที่ 2 ​ของ​โค​ฮาท ​คือ ​อัม​มี​นา​ดับ (อิส​ฮาร์)
เชื้อสายของอัม​มี​นา​ดับ​ คือ​เอล​คา​นาห์ ผู้เป็นพ่อของ ผู้เผยพระวจนะซา​มู​เอล​

​ดาวิด​ทรง​แต่ง​ตั้ง​เชื้อสายของโคฮาทให้​ดูแล​เรื่อง​เพลง​ใน​พระ​นิเวศ​ของ​พระเจ้า
โดยมีเชื้อสายของ​เกอร์​โชมและของเม​รา​รี เป็นผู้ช่วย
พวกเขา​ปรน​นิบัติ​ด้วย​เพลง ​หน้า​พลับ​พลา จน​ซา​โล​มอน​ทรง​สร้าง​พระ​นิ​เวศ​ของ​พระเจ้าเสร็จ

ที่​อยู่​ที่​ตั้ง​ถิ่น​ฐาน​​ของบุตร​หลาน​ของ​อา​โรน​ ตระ​กูล​คน​โค​ฮาท ได้แก่
​เมือง​เฮ​โบรน เมือง​ลิบ​นาห์​ เมือง​ยาท​ทีร์ เมือง​เอช​เท​โม​อา​ เมืองฮี​เลน​ เมืองเด​บีร์​ เมืองอา​ชาน เมืองเบธ​เช​เมช​ เมือง​เก​บา​ ​เมืองอา​เล​เมท ​เมืองอา​นา​โธท​

ส่วน​บุตร​หลาน​ของ​โค​ฮาท​ที่​เหลือ ​ได้​รับ​ 35 เมือง

1. พระเจ้าทรงเลือกเชื้อสายเลวีให้ปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า
พวกเขาไม่ได้มรดกครอบครองดินแดน ยกเว้นเมืองบางเมืองที่เผ่าต่างๆยกให้
ถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่ขาดสิ่งดีใดๆ เพราะพระเจ้าทรงเลี้ยงดูพวกเขา
ยิ่งไปกว่านั้น เขาเป็นหนึ่งไม่กี่เผ่าที่เหลือกลับมา และยังมีบทบาทสำคัญในการรับใช้พระเจ้า เมื่ออิสราเอลกลับมาจากการเป็นเชลยในบาบิโลน

การปรนนิบัตรับใช้พระเจ้า ดูเหมือนจะขาดทุนหรือเสียสิทธิบางอย่างในสายตาของมนุษย์
แต่ความจริงแล้วกลับได้รับสิทธิพิเศษยิ่งกว่าใครๆ เมื่อเราปรนนิบัติรับใช้พระองค์

2. เชื้อสายของอาโรนบางคนก็เป็นปุโรหิตที่ดี บางคนก็ไม่ดี
อย่างไรก็ตามพระเจ้าก็ยังใช้เชื้อสายของอาโรนในการปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าอยู่ดี
เพียงแต่ ปุโรหิตที่ดีจะพบจุดจบที่ดี และปุโรหิตที่ไม่ดีจะพบจุดจบที่น่าเศร้า

วันนี้ ที่พระเจ้ายังคงใช้เราในการปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าอยู่นั้น
ไม่ใช่เพราะเราเป็นคนดี หรือทำได้ดี
แต่เป็นเพราะพระเจ้าทรงเมตตาเรา ทรงเลือกเราให้ปรนนิบัติรับใช้พระองค์
ดังนั้นเราควรทำอย่างดีที่สุดให้สมกับเกียรติที่พระเจ้าประทานให้นี้
เพื่อเราจะได้พบกับจุดจบที่ดีอย่างสง่างาม

คำคม

“ การรับใช้พระเจ้า เป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่ ”

สรุป 1พงศาวดาร 7

ภาพรวม

  • ในบทที่ 7 นี้ พูดถึง เชื้อสาย​ของ​อิส​สา​คาร์​ เผ่า​เบน​ยา​มิน​ เผ่า​นัฟ​ทาลี​ เผ่ามนัส​เสห์ เผ่าเอฟ​รา​อิม​ และเผ่าอา​เชอร์​

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 7 ต่อเนื่องจาก บทที่ 6 ซึ่งพูดถึงเชื้อสายของของเลวี ซึ่งพระเจ้าทรงเลือกให้ปรนนิบัติรับใช้พระองค์ในพระนิเวศน์ของพระองค์

ในบทที่ 7 พูดถึง เชื้อสาย​ของเผ่าต่างๆดังนี้

เชื้อสาย​ของ​อิส​สา​คาร์​ คือ​ โท​ลา ปู​อาห์ ยา​ชูบ และ​ชิม​โรน
เฉพาะเชื้อสาย​ของ​โท​ลา มี​นัก​รบ​กล้า​หาญ​ใน​สมัย​​ของ​ดาวิด​คือ 58,600 คน
และญาติ​พี่​น้อง​ของ​พวก​เขา เป็น​นัก​รบ​กล้า​หาญ​ อีก 87,000 คน

เชื้อสายของ​เบน​ยา​มิน​ คือ ​เบ​ลา เบ​เคอร์ และ​เย​ดี​ยา​เอล
เฉพาะเชื้อสาย​ของ​เบ​ลา​ มีนัก​รบ​กล้า​หาญ 22,034 คน ตาม​ทะ​เบียน​ลำดับ​พงศ์
เชื้อสาย​ของ​เบ​เคอร์ มี​นัก​รบ​กล้า​หาญ​ 22,000 คน
เชื้อสาย​ของ​​เย​ดี​ยา​เอล​ มี​นัก​รบ​กล้า​หาญ​ 17,200 คน

เชื้อสาย​ของ​นัฟ​ทาลี​ (​บุตร​ของ​นาง​บิล​ฮาห์) คือ ​ยา​ซี​เอล กุนี เย​เซอร์ และ​ชัล​ลูม

เชื้อสายของ​มนัส​เสห์ ​คือ ​อัส​รี​เอล
ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของ​เศ​โล​เฟ​หัด ที่​เหล่าบุตรสาว​ของเขา ได้ไปขอกรรมสิทธิ์ที่ดินจากโมเสส(กดว. 27:1-11)

เชื้อสายของ​เอฟ​รา​อิม ​คือ​ ชูเธ​ลาห์ เบรี​ยาห์ ​เร​ฟาห์
ซึ่งเร​ฟาห์ เป็นบรรพบุรุษของ นูน ผู้เป็นพ่อของ โย​ชู​วา (ผู้นำต่อจากโมเสส)
เมืองในดินแดนของ​พวก​เขา​ คือ​ เบธ​เอล​ นา​อา​รัน​ด้าน​ตะวัน​ออก ​เก​เซอร์​ด้าน​ตะวัน​ตก​ ​เช​เคม​ อัย​ยาห์ เบธ​ชาน​ ทา​อา​นาค​ เม​กิด​โด และ โดร์​

เชื้อสายของ​อา​เชอร์​ คือ อิม​นาห์ อิช​วาห์ อิช​วี เบรี​ยาห์ และ​เส​ราห์​น้อง​สาว​ของ​เขา
เชื้อสายของพวกเขา เป็น​นักรบ​กล้า​หาญ​ที่​ถูก​คัด​เลือก​ไว้​เป็น​ผู้นำ​ 26,000 คน

1. สมัยโมเสส จำนวนนักรบ​ใน​เผ่า​อิส​สา​คาร์​คือ 54,400 คน(กดว. 1:29 ​) พอถึงสมัยดาวิดเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า เป็น 145,000 คน
​ส่วน​เผ่า​เบน​ยา​มิน เพิ่มขึ้นจาก 35,400 คน(กดว. 1:37) เป็น 61,234 คน
นี่เป็นเพียงตัวอย่างของบางเผ่า
เพราะพระเจ้าทรงสัญญากับอับราฮัมที่จะอวยพรลูกหลานของเขา
เมื่อวันเวลาผ่านไป จำนวนลูกหลานของเขา ก็เพิ่มทวีมากขึ้นจริงๆ ตามพระสัญญา
ถึงแม้ว่า ที่ผ่านมาลูกหลานของอับราฮัมหลายต่อหลายคน ทำตัวไม่เหมาะสม
พระเจ้าก็ยังคงรักษาสัญญากับอับราฮัมอยู่ดี

หมายเหตุ :
ส่วนเผ่า อา​เชอร์ แม้จำนวนนักรบจะลดลงจาก 41,500 คน (กดว. 1:41 ​) เหลือ 26,000 คน แต่คนเหล่านี้เป็น​นักรบ​ที่​ถูก​คัด​เลือก​ไว้​เป็น​ผู้นำ​ (ข้อ 40)ซึ่งแสดงว่ามีมากกว่านี้ แต่เผ่านี้คัดออกมาเฉพาะผู้นำ

2. ในบทนี้ พูดถึงเผ่าเอฟราอิม ด้วยการอ้างถึงว่า
โยชูวา ผู้นำคนสำคัญที่สุดรองจากโมเสส มาจากเผ่านี้
โมเสส มาจากเผ่าเลวี ซึ่งเป็นเผ่าที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกำลังทหารในการศึกสงคราม
จึงเรียกได้ว่า เผ่าของโยชูวาสำคัญที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในการศึกสงคราม คือเผ่าเอฟราอิม
และในบทนี้ยังบอกถึงดินแดนอันกว้างใหญ่ ที่เผ่าเอฟราอิมครอบครองอีกด้วย

ที่บันทึกเรื่องนี้ ไว้บทต้นๆของหนังสือพงศาวดาร
คงเป็นเพราะ ต่อไปเผ่าเอฟราอิม จะเป็นเผ่าหลักในการทำให้อิสราเอลแบ่งเป็น 2 อาณาจักร
(เยโรโบอัม ก็มาจากเผ่านี้)
ผู้เขียนจึงบันทึกเพื่อให้เห็นความยิ่งใหญ่ และมีชื่อเสียงของเอฟราอิม

ความยิ่งใหญ่ของเอฟราอิม ถูกเตรียมไว้ เพื่อแผนการของพระเจ้าสำหรับอิสราเอลจะสำเร็จ

วันนี้ การที่ใครบางคนได้ดิบได้ดี เป็นใหญ่เป็นโต
ทั้งที่ดูแล้ว ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับเขาได้เลย
ให้เราพึงรู้เถิดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขานั้น ไม่ใช่เพราะเขาเก่งหรือดี
แต่เพราะว่าพระเจ้าทรงมีแผนการบางอย่าง สำหรับความสำเร็จของเขา

คำคม

“ พระสัญญา และ แผนการ ของพระเจ้า จะเกิดขึ้นเป็นจริงเสมอ ”

สรุป 1พงศาวดาร 8

ภาพรวม

  • ในบทที่ 8 นี้ พูดถึง เชื้อสาย​ของเบนยามิน ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของซาอูล กษัตริย์องค์แรกของอิสราเอล

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 8 ต่อเนื่องจาก บทที่ 7 ซึ่งพูดถึง เชื้อสาย​ของ​อิส​สา​คาร์​ เผ่า​เบน​ยา​มิน​ เผ่า​นัฟ​ทาลี​ เผ่ามนัส​เสห์ เผ่าเอฟ​รา​อิม​ และเผ่าอา​เชอร์​

ในบทที่ พูดถึงเชื้อสายของเบน​ยา​มินอีกครั้ง แต่เน้นให้เห็นว่า เบนยามินเป็นบรรพบุรุษของซาอูล
บุตรของเบนยามิน ได้แก่ ​เบ-ลา​ , อัช​เบล(​เย​ดี​ยา​เอล 1พศด. 7:6)​ , อา​หะ​ราห์(อา​หิ​รัม​ กดว.26:38 หรือ เอไฮ ปฐก. 46:21) , โน​ฮาห์(เบเคอร์ 1พศด. 7:6) , รา​ฟา(โรช ปฐก. 46:21)​
ซึ่งต่อมาเชื้อสายของ​เบ-ลา ​​เป็นผู้นำอาศัย​ใน​เย​รู​ซา​เล็มและ​ใน​กิเบ​โอน

ใน​กิเบ​โอน มีชายชื่อ​อา​บี​เอล(1ซมอ. 9:1) หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า ​เย​อี​เอล​(1พศด. 9:35) ​อาศัย​อยู่ มี​ภรร​ยา​ชื่อ​ มา​อา​คาห์
เขาบรรพบุรุษของ​คีช ซึ่งคีช​เป็น​บิดา​ของ​ซาอูล (กษัตริย์องค์แรกของอิสราเอล)
ซาอูล มีบุตรชื่อ โย​นา​ธาน มัล​คี​ชู​วา อา​บี​นา​ดับ และ​เอช​บา​อัล

1. พระเจ้าทรงจัดเตรียมให้ซาอูล เกิดในเผ่าเบนยามิน เผ่าที่เป็นนักรบที่เก่งกาจ โดยที่เผ่าเบนยามินเผ่าเดียว สามารถต่อกรกับเผ่าของอิสราเอลทั้ง 11 เผ่า รวมกันได้ (วนฉ.20)
เพื่อให้เขาเหมาะที่จะเป็นกษัตริย์องค์แรกของอิสราเอล

พระเจ้าทรงเตรียมซาอูลเป็นกษัตริย์ ก่อนที่เขาจะเกิดมาเสียอีก

พระเจ้าทรงมีแผนการสำหรับชีวิตของเรา ที่ให้เราเกิดมาในครอบครัวของเราในปัจจุบันนี้
เราควรให้พระเจ้าสอนและนำเราว่า
พระองค์มีพระประสงค์อะไรในชีวิตของเรา ที่ให้เราเกิดมาในครอบครัวของเรานี้

2. บุตรของเบนยามิน ในพระคัมภีร์ 1พศด.7 , กดว.26 , ปฐก.46 และ 1พศด.8 นี้ มีชื่อไม่เหมือนกัน
ซึ่งกรณีที่เราเห็นสิ่งที่ผิดปกติในพระคัมภีร์
สรุปได้เลยว่า ไม่ใช่พระคัมภีร์ผิดปกติ แต่เราคงเข้าใจหรือมีข้อมูลไม่มากพอ
และเมื่อเราศึกษาต่อไปเรื่อยๆ ก็จะพบความจริงว่า พระคัมภีร์ถูกต้องเสมอ
จากประเด็นข้างต้น หลังจากศึกษาเพิ่มเติมจากคู่มืออธิบายพระคัมภีร์อีกหลายเล่ม
ก็ทำให้เข้าใจว่า คนเหล่านั้นบางคนมีชื่อที่แตกต่างกัน มากกว่า 1 ชื่อ

พระคัมภีร์เป็นจริงเสมอ เพียงแต่เราอาจจะยังมีข้อมูลไม่พอที่จะเข้าใจบางประเด็นเท่านั้นเอง

คำคม

“ พระเจ้าทรงมีแผนการสำหรับชีวิตของเรา ตั้งแต่ก่อนที่เราจะเกิดมา ”

สรุป 1พงศาวดาร 9

ภาพรวม

  • ในบทที่ 9 นี้ พูดถึง ผู้​กลับ​มา​จาก​การเป็นเชลยในกรุง​บา​บิ​โลน และทบทวนถึงต้นตระกูลของกษัตริย์ซาอูลอีกครั้ง

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

1พงศาวดาร บทที่ 9 ต่อเนื่องจาก บทที่ 8 ซึ่งพูดถึงเชื้อสาย​ของเบนยามิน ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของซาอูล กษัตริย์องค์แรกของอิสราเอล

ในบทที่ 9 นี้ พูดถึง พงศ์พันธุ์​อิส​รา​เอลที่กลับมาจากการ​ถูก​จับ​ไป​เป็น​เชลย​ใน​บา​บิ​โลน ดังนี้
พวก​แรก​ที่​เข้า​มา​อาศัย​ใน​ที่​กรรม​สิทธิ์​ของ​เขา ใน​บรร​ดา​เมือง​ของ​เขา​ ​คือ พวก​ปุโร​หิต พวก​เลวี และ​พวก​คน​ใช้​ประ​จำ​พระ​วิหาร
และ​ใน​เย​รู​ซา​เล็ม​มี​บุตร​หลาน​ ของ​ยู​ดาห์ 690 คน
ของเบน​ยา​มิน 956 คน และบางส่วนจากเผ่า​เอฟ​รา​อิม และเผ่า​​มนัส​เสห์ อาศัย​อยู่

จาก​พวก​ปุโร​หิต มี​เย​ดา​ยาห์ , เย​โฮ​ยา​ริบ , ยา​คีน , อา​ซา​ริ​ยาห์(ผู้ซึ่งเป็นหัว​หน้า​ผู้​ดูแล​พระ​วิหาร​ของ​พระ​เจ้า) , อา​ดา​ยาห์ ​และ​มา​อา​สัย และ​บรร​ดา​ญาติ​ของ​พวก​เขา รวม​เป็น 1,760 คน
พวกเขาเป็น​คน​มีความ​สา​มารถ​มาก​สำ​หรับ​งาน​ปรน​นิบัติ​ใน​พระ​วิหาร​ของ​พระ​เจ้า

จาก​คน​เลวี มี​เช​ไม​อาห์​ , ​บัค​บัค​คาร์ , เฮ​เรช , กา​ลาล , มัท​ธา​นิ​ยาห์ , ​โอ​บา​ดีห์ และ​เบ​เรค​ยาห์​

บรร​ดา​ผู้​เฝ้า​ประ​ตู ​คือ ชัล​ลูม อัก​ขูบ ทัล​โมน อา​หิ​มาน และ​บรร​ดา​ญาติ​ของ​พวก​เขา (ชัล​ลูม​เป็น​ผู้นำ)
คน​โค​ราห์ เป็น​ผู้​ดูแล​การ​งาน​ปรน​นิบัติ เป็น​ผู้​เฝ้า​ธรณี​ประ​ตู​ของ​เต็นท์
เศ​คา​ริ​ยาห์ เป็น​ผู้​เฝ้า​ทาง​เข้า​ประ​ตู​เต็นท์​นัด​พบ
​ผู้​เฝ้า​ประ​ตู​ที่​ธรณี​ทั้ง​หมด​มี 212 คน
ผู้​เฝ้า​ประ​ตู​เหล่านี้ ต้อง​เข้า​มา​ทุกๆ 7 วัน​ตาม​เวลา​กำ​หนด
หัวหน้าของพวกเขา คือ นาย​ประ​ตู มี​ตำ​แหน่ง​รับ​ผิด​ชอบ เป็น​ผู้​ดูแล​ห้อง​และ​คลัง​ของ​พระ​วิหาร​ของ​พระ​เจ้า
​พวก​เขา​พัก​อาศัย​อยู่​รอบ​พระ​วิหาร​ของ​พระ​เจ้า
พวก​เขา​มี​หน้า​ที่​เปิด​ประ​ตู​ทุก​เช้า
บาง​คน​ในพวก​เขา​ เป็น​คน​ดูแล​เครื่อง​ใช้​ใน​การ​ปรน​นิบัติในพระวิหาร และจัดเตรียมอุปกรณ์สิ่งของต่างๆ

เหล่า​นัก​ร้อง ​คือ​ผู้​นำ​ตระ​กูล​คน​เลวี​ ผู้​อา​ศัย​อยู่​ใน​ห้อง​ใน​พระ​วิหาร ไม่​ต้อง​ทำ​การ​ปรน​นิบัติ​อย่าง​อื่น
เพราะ​พวก​เขา​อยู่​เวร​ทั้ง​กลาง​วัน​และ​กลาง​คืน

แล้วผู้เขียน 1 พงศาวดาร ย้อนกลับไปสรุปต้นตระกูลของกษัตริย์ซาอูลอีกครั้งในบทนี้ ข้อความเหมือนกับใน 1พศด. 9:35-44 ก่อนที่จะพูดถึงการ​สิ้น​พระ​ชนม์ของซา​อูลในบทถัดไป

1. ก่อนหน้าที่จะตกเป็นเชลยอาณาจักรอิสราเอลแตกแยกเป็น 2 อาณาจักร
แต่เมื่อกลับมาจากเป็นเชลย พวกเขาเข้ามาอาศัยอยู่ด้วยกัน
เฉพาะในเยรูซาเล็มมีเผ่ายูดาห์ เผ่าเบนยามิน เผ่าเลวี เผ่าเอฟราอิม และเผ่ามนัสเสห์ (ข้อ 3)

การที่กรุงสะมาเรียแตก และกรุงเยรูซาเล็มแตก สาเหตุจากการที่พวกเขาละทิ้งพระเจ้า
หันไปทำสิ่งชั่วร้าย เช่นเอาลูกมาเผาบูชายันต์แก่รูปเคารพ ฯลฯ
พระพิโรธของพระเจ้าจึงตกมาสู่พวกเขา

ท่ามกลางพระพิโรธนั้น เรายังเห็นพระเมตตาของพระเจ้า ต่อประชากรของพระองค์
ในที่สุดพระองค์ทรงนำพวกเขากลับมา
และในที่สุดพวกเขากลับเป็นชนชาติเดียวกันอีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเกิดขึ้น

สถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญ สาเหตุอาจจะเกิดจากความผิดพลาดหรือความบาปของเราเอง
ถึงกระนั้นในท่ามกลางสถานการณ์นี้ เรายังสามารถเห็นพระคุณพระเมตตาของพระเจ้าที่มีต่อเราได้

2. คนกลุ่มแรกๆที่ได้กลับมาจากการเป็นเชลย ไม่ใช่เหล่านักรบผู้กล้าหาญ
แต่เป็นเหล่าปุโรหิตและเลวี ผู้ทำหน้าที่ปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า
เพื่อให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า
การได้กลับมาจากการเป็นเชลยนี้ เป็นมาจากพระเจ้าแน่นอน

พระเจ้าจะทรงดูแล ผู้ที่ปรนนิบัติรับใช้พระองค์เสมอ
ไม่ว่าคนนั้นจะทำสิ่งเล็กน้อยสักเพียงใดก็ตาม
เช่นเป็นเพียงคนเฝ้าธรณีประตู เป็นต้น

หากเราสัตย์ซื่อในการรับใช้พระเจ้า พระองค์จะทรงสำแดงความสัตย์ซื่อในพันธสัญญาของพระองค์แก่เรา

3. เหล่านักร้อง ต้องอาศัยในพระวิหาร และไม่ต้องทำงานรับใช้อื่นๆ เพราะงานของพวกเขามีการเข้ากะทั้งกลางวันและกลางคืน

เราไม่จำเป็นต้องเก่งทุกอย่าง หรือรับใช้ทุกด้าน
เพียงแค่ทำด้านที่พระเจ้าเปิดโอกาสให้เราทำ อย่างเต็มกำลังนั่นก็เพียงพอแล้ว
มันอาจจะดูไม่หรูหรา ไม่ตื่นเต้น ไม่น่าท้าทายเหมือนของคนอื่น
ซึ่งนั่นก็ไม่สำคัญเลย
ขอเพียงเราได้ทำหน้าที่ของเราที่ได้รับมอบหมายอย่างสัตย์ซื่อ
แม้จะดูเหมือนเราไม่ทำมากมายหลายอย่างเหมือนคนอื่น
แต่เรายังคงเป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ หากเราทำส่วนของเราอย่างสัตย์ซื่อ

คำคม

“ ผู้ที่สัตย์ซื่อในการรับใช้ จะได้รับพระพรตามพระสัญญาจากพระเจ้าผู้ทรงสัตย์ซื่อ ”

สรุป 2พงศ์กษัตริย์ 1

ภาพรวม

  • 2 พงศ์กษัตริย์ เป็นเรื่องราวที่ต่อเนื่องจาก 1 พงศ์กษัตริย์ เป็นเรื่องของอิสราเอลทางตอนเหนือ ที่เรียกว่า อิสราเอล(หรือสะมาเรีย) ซึ่งต่อมาถูกทำลายโดยอัสซีเรีย และอิสราเอบทางตอนใต้ ที่เรียกว่า ยูดาห์ ซึ่งต่อมาถูกทำลายโดยบาบิโลน
  • อาหัสยาห์ ลูกของอาหับ ป่วย แล้วลบหลู่พระเจ้า ด้วยการไปพึ่งพาพระต่างชาติแทนที่จะพึ่งพาพระเจ้า เขาจึงเสียชีวิตจากการป่วยนั้น

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

2 พงศ์กษัตริย์ บทที่ 1 หลังจากที่อาหับเสียชีวิต แล้วอาหัสยาห์ก็ขึ้นครองราชย์แทนอาหับ

วันหนึ่งอา​หัส​ยาห์​ ตก​ลง​มา​จากหน้าต่าง และ​ประ​ชวร
จึง​ทรง​ใช้คนไป​ถาม​พระ​บา​อัล​เซ​บูบ พระ​แห่ง​เอ​โครน​ ว่า​
พระองค์​จะ​หาย​หรือ​ไม่?

แต่​พระเจ้าทรงใช้เอ​ลี​ยาห์​ ​พบ​พวกเขา แล้วบอกว่า
​ไม่​มี​พระ​เจ้า​ใน​อิส​รา​เอล​แล้ว​หรือ? อาหัสยาห์จึงจะไปถามพระบาอัลเซบูบ
ดังนั้นอาหัสยาห์จะ​ต้อง​ตาย​แน่

เมื่อพวกเขากลับมาบอกอาหัสยาห์ พระองค์จึง​สั่ง​ให้​นาย​กอง​กับ​ทหาร 50 นาย​ไป​หา​เอ​ลี​ยาห์ เพื่อนำตัวมาเฝ้า

โดยส่งไปถึง 3 รอบ
2 รอบแรก พวกทหารเหล่านั้น ถูกไฟจากฟ้าสวรรค์ตกมาเผา จนตายหมด
แต่รอบที่ 3 นายกอง​คุก​เข่า​ต่อ​หน้า​เอ​ลี​ยาห์ อ้อนวอนขอความเมตตา เขาและทหารทั้ง 50 คนจึงรอดตาย
และเอลียาห์ก็ยอมไปเฝ้าอาหัสยาห์กับเขา

เอลียาห์​ทูล​อาหัสยาห์ ​ว่า
เพราะอาหัสยาห์ไป​ถาม​พระ​บา​อัล​เซ​บูบ โดยไม่ถาม​พระ​เจ้า​ใน​อิส​รา​เอล ดังนั้นเขา​จะ​ต้อง​ตาย​แน่

ดัง​นั้น​อา​หัส​ยาห์​ก็​สิ้น​พระ​ชนม์ ตาม​พระ​วจนะ​ของพระเจ้า
และ​โย​รัม​ น้องชายของอาหัสยาห์ ได้​ขึ้น​ครอง​ราชย์​แทน ใน​ปี​ที่ 2 แห่ง​รัช​กาล​เย​โฮ​รัม โอรส​ของ​เย​โฮ​ชา​ฟัท เพราะ​อา​หัส​ยาห์​ไม่​มี​โอรส

1. ทั้งที่อิสราเอลมีพระเจ้าเป็นผู้ครอบครอง แต่อาหัสยาห์เมื่อทุกข์ร้อน กลับไปพึ่งพาพระบาอัลเซ​บูบ พระของชนชาติอื่น

เป็นการลบหลู่พระเจ้า หากลูกของพระเจ้า ไว้วางใจในสิ่งอื่นมากกว่าพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด
วันนี้ พระเจ้าทรงสถิตกับเรา นั่นเพียงพอหรือยังที่จะชจัดความกลัว ความกังวลทั้งสิ้นออกไปจากใจของเรา?

2. ทหารที่อาหัสยาห์ส่งไปพาตัวเอลียาห์มานั้น ใน 2 รอบแรก ต้องพบกับความตาย เพราะพวกเขายำเกรงกษัตริย์อาหัสยาห์ มากกว่ายำเกรงพระเจ้า
แต่ทหารรอบที่ 3 นั้น ขณะที่เขาเชื่อฟังกษัตริย์ เขาก็ยำเกรงพระเจ้าด้วย จึงขอขอความเมตตาจากเอลียาห์ ผู้เป็นคนของพระเจ้า แทนที่ยังสั่งเหมือน กลุ่มก่อนหน้านี้

เราสมควรยำเกรงและให้เกียรติแก่คนที่สมควรจะได้รับ
ถึงกระนั้น ก็ไม่ควรให้ความยำเกรงและการให้เกียรตินั้น ทำให้เราไม่ให้เกียรติหรือไม่ยำเกรงพระเจ้า

3. ก่อนหน้านี้ สมัยของอาหับ พ่อของอาหัสยาห์ เอลียาห์ได้กลัวคำขู่ของเยซาเบล จนหนีตายไปแสนไกล
บัดนี้ เอลียาห์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาไม่กลัวเยเซเบล ไม่กลัวอาหัสยาห์
เมื่อพระเจ้าทรงใช้เขา เข้าไปยังพระราชวัง เพื่อไปบอกสิ่งที่จะทำให้กษัตริย์ไม่พอใจ
เขาก็เชื่อฟัง ซึ่งสุดท้ายเขาก็กลับออกมาอย่างปลอดภัย

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงเอลียาห์อย่างสิ้นเชิงนี้ คือการที่เขาได้พบกับพระเจ้าที่ภูเขาโฮเรบ

เมื่อเราได้พบกับพระเจ้า จากความอ่อนแอของเรา จะถูกเปลี่ยนเป็นความเข้มแข็งอย่างที่สุด

คำคม

“ การพึ่งพาสิ่งอื่นมากกว่าพระเจ้า เป็นการลบหลู่พระองค์ ”

สรุป 2พงศ์กษัตริย์ 2

ภาพรวม

  • พระเจ้าทรงรับเอลียาห์ขึ้นสู่สวรรค์ แล้วเอลีชาก็รับหน้าที่แทนเอลีชา

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

2 พงศ์กษัตริย์ บทที่ 2 หลังจากที่อาหัสยาห์ เสียชีวิต โยรัมน้องของเขาก็ขึ้นครองในอิสราเอลแทน

ต่อมา ​เมื่อ​ถึง​เวลา​ที่​พระเจ้า​จะ​ทรง​รับ​เอ​ลี​ยาห์​ไป​ยัง​​สวรรค์​
เอ​ลี​ยาห์​และ​เอ​ลี​ชา​กำ​ลัง​เดิน​ทาง​จาก​กิล​กาล
เอ​ลี​ยาห์ บอก​กับ​เอ​ลี​ชา​ ให้คอย​อยู่​ที่​นั่น
แต่​เอ​ลี​ชา ยังคงขอติดตามเอลียาห์ไป

เมื่อมาถึง ​เบธ​เอล , เมือง​เย​รี​โค และ​แม่​น้ำ​จอร์​แดน
เอลียาห์ก็พูดเหมือนเดิม แต่เอลีชาก็ยังตอบเหมือนเดิม เช่นกัน

แล้ว​เอ​ลี​ยาห์​เอา​เสื้อ​คลุม​ของ​ตน​ม้วน แล้ว​ฟาด​ลง​ที่​แม่น้ำจอร์แดน
น้ำ​ก็​แยก​ออก​ไป​สอง​ข้าง เขาทั้ง​สอง​ก็​เดิน​ข้าม​ไป​บน​ดิน​แห้ง

​แล้ว เอ​ลี​ยาห์ก็ถาม​ ว่า
เอลีชา​อยาก​ให้เอลียาห์ทำ​อะไร​ให้?

​เอ​ลี​ชา​ตอบ​ว่า
ขอให้เขา​ได้​รับ​ฤทธิ์​เดช​ของเอลียาห์​สอง​ส่วน

เอ​ลี​ยาห์​ตอบ​ว่า
ถ้าเอลีชา​เห็นเอลียาห์ถูก​รับ​ไป ​ก็​จะ​ได้​อย่าง​นั้น

ต่อมาขณะที่พวกเขากำลัง​เดิน​สนทนา​กันอยู่
มีรถ​รบ​เพลิง​คัน​หนึ่ง​และ​​ม้า​เพลิงหลายตัว ​ได้​แยก​เขา​ทั้ง​สอง​ออก​จาก​กัน
และ​เอ​ลี​ยาห์​ได้​ขึ้น​ไป​สวรรค์​โดย​พายุ

เอ​ลี​ชา​เห็น แล้วเขาก็​จับ​เสื้อ​ของ​ตน​ฉีก​ออก​เป็น​ 2 ท่อน
และ​เก็บ​เสื้อ​คลุม​ของ​เอ​ลี​ยาห์ ที่​ตก​ลงนั้นไว้

เอลีชากลับมาที่แม่น่้ำจอร์แดน และกล่าว​ว่า
​พระ​เจ้า​ของ​เอ​ลี​ยาห์​สถิต​ที่​ใด?
และเอาเสื้อคลุมเอลียาห์​ฟาด​ลง​ที่​น้ำ น้ำ​ก็​แยก​ออก​ไป​สอง​ข้าง
และ​เอ​ลี​ชา​ก็​เดิน​ข้าม​ไป

พวก​ผู้​เผย​พระ​วจนะ​ที่​​เมือง​เย​รี​โค​เห็น​เอลีชา
ก็มาขอให้พวกเขาส่งคน 50 คน​ ​ไป​เสาะ​หาเอลียาห์
เอลีชา บอกว่า ไม่ต้องไป
แต่ ​พวก​เขา​รบ​เร้าเอลีชา​จนเอลีชา อาย
เอลีชาจึงอนุญาตให้พวกเขาส่งคนไป
คนเหล่านั้นตามอยู่ 3 วัน ก็ไม่พบเอลียาห์

ผู้​คน​ใน​เมืองเยรีโคบอก​เอ​ลี​ชา​ ว่า
น้ำที่นั่น​ไม่​ดี​และ​แผ่น​ดิน​นั้น​ก็​ไม่​เกิด​ผล​
เอลีชาจึงเอา​เกลือ​โยนลง​ใน​น้ำพุ
​และ​กล่าว​ว่า
น้ำ​นี้​ให้​ดี​แล้ว ตั้ง​แต่​นี้​ไป​จะ​ไม่​มี​ความ​ตาย​หรือ​การ​ไม่​เกิด​ผล​เพราะ​น้ำ​นี้​อีก
แล้วก็เป็นไปตาม​ถ้อย​คำ​ที่​เอ​ลี​ชา​​นั้น

เอลีชาไป​ถึง​เมือง​เบธ​เอล มี​กลุ่ม​เด็กกลุ่มหนึ่งออก​มา​จาก​เมือง​ ล้อ​เลียนเอลีชา​ว่า
“อ้าย​หัว​ล้าน ไป​ให้​พ้น”
เอลีชาจึง​แช่ง​พวก​เขา และ​หมี​ตัว​เมีย 2 ​ตัว​ออก​มา​จาก​ป่า ฉีก​เด็ก​พวก​นั้น​เสีย 42 คน
แล้วเอลีชา ก็​ไป​ถึง​ภูเขา​คาร​เมล และ​กลับ​มา​ยัง​กรุง​สะ​มา​เรีย

1. เอลีชา ปรารถนาอย่างยิ่งที่จะได้รับการเจิมแบบเดียวกับเอลียาห์
ซึ่งความปรารถนาของเขา ตรงกับแผนการของพระเจ้า ที่บอกกับเอลียาห์ที่ภูเขาโฮเรบ
แล้วเขาก็ได้รับตามที่ปรารถนา

เมื่อความปรารถนาของเราสอดคล้องกับพระประสงค์ของพระเจ้า
เราจะสมปรารถนาอย่างแน่นอน
เรารู้พระประสงค์ของพระเจ้าได้จากการอ่านและใคร่ครวญพระวจนะของพระเจ้า

2. พวก​ผู้​เผย​พระ​วจนะ​ ที่​​เมือง​เย​รี​โค ไม่เชื่อ​เอลีชา ว่าเอลียาห์ถูกรับไปสวรรค์แล้ว
จนมารบเร้าเอลีชาจนเอลีชาอาย คงหาว่า ไม่สนใจเอลียาห์แล้วหรือ? อะไรทำนองนี้
พวกเขาจึงออกตามหาเอลียาห์อยู่ 3 วัน
แล้วพบว่า เป็นจริงอย่างที่เอลีชาพูด

ความไม่เชื่อของพวกเขา ดูเหมือนเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อเอลีชา
แต่สุดท้ายก็กลับกลายเป็นสิ่งตอกย้ำว่า สิ่งที่เอลีชาพูด เป็นความจริงทั้งหมด

สิ่งที่คนไม่เชื่อทำกับเรา อีกไม่นานจะกลับกลายเป็นผลดีต่อเรา
และยิ่งเป็นการตอกย้ำความเชื่อของเรา ว่าถูกต้องแล้ว

3. น้ำไม่ดี ทำให้คนเจ็บป่วยและพืชผลไม่งอกงาม
แต่ด้วยการอัศจรรย์จากพระเจ้า ทำให้น้ำไม่ดีกลายเป็นน้ำที่เป็นพรได้

วันนี้ หากสถานการณ์ของเรามีบางอย่างเป็นสาเหตุของสิ่งไม่ดีต่างๆในชีวิต
ให้เรานำเรื่องนั้นมาร้องทูลต่อพระเจ้า
เพื่อให้พระเจ้าทรงเปลี่ยนสิ่งไม่ดีนั้นให้กลายสิ่งที่เป็นพรได้

4. พวกเด็กที่ล้อเลียนเอลีชานั้น น่าจะหมายถึงเด็กหนุ่ม เพราะพวกเขาออกมานอกเมืองด้วยตนเองได้
ทั้งที่เรื่องการอัศจรรย์ที่เอลีชาทำคงแพร่ไปทั่วแล้ว
คนทั้งหลายคงทราบแล้วเอลีชาคือผู้รับการเจิมต่อจากเอลียาห์
เด็กพวกนั้น ยังลบหลู่ผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมไว้ ซึ่งเป็นการลบหลู่พระเจ้านั่นเอง

คนของพระเจ้าอาจจะมีจุดอ่อนหลายอย่าง ที่ต้องปรับปรุง
เป็นการดีที่เราจะช่วยเสนอแนะและช่วยเขาในการปรับปรุงตัว
แต่ไม่ใช่ธุระของเรา ที่จะไปลบหลู่ ดูแคลน ประจาน หรือโพนทะนา จุดอ่อนของเขา

คำคม

“ เมื่อความปรารถนาของเรา สอดคล้องพระคำของพระเจ้า เราจะสมปรารถนา ”

สรุป 2พงศ์กษัตริย์ 3

ภาพรวม

  • โยรัม ชวนเยโฮซาฟัท และกษัตริย์เอโดม ไปสู้รบกับโมอับ และโดยความช่วยเหลือของพระเจ้า โมอับจึงพ่ายแพ้ไป

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

2 พงศ์กษัตริย์ บทที่ 3 หลังจากที่พระเจ้าทรงรับเอลียาห์ขึ้นสู่สวรรค์ แล้วเอลีชาก็รับหน้าที่แทนเอลีชา

ในสมัยโยรัม​ ​โอรส​ของ​อา​หับ ซึ่งครองราชย์ ใน​ปี​ที่ 18 ของเย​โฮ​ชา​ฟัท​พระ​ราชา​แห่ง​ยู​ดาห์
พระองค์​ทรง​ครอง​ราชย์​อยู่ 12 ปี
โย​รัม​ทรง​ทำ​สิ่ง​ชั่ว​ร้าย​ใน​สาย​พระ​เนตร​ของพระเจ้า เหมือน​บาป​ทั้ง​หลาย​ของ​เย​โร​โบ​อัม​

เม​ชา​ พระ​ราชา​แห่ง​โม​อับ ได้กบฏ​ต่อ​โยรัม
โยรัมจึง​ส่ง​สาร​ไป​ยัง​เย​โฮ​ชา​ฟัท เพื่อให้ร่วมกันยกทัพไปโจมตีโมอับ
เยโฮซาฟัท ก็ตอบตกลง
และมีพระราขาแห่งเอโดม มาร่วมรบด้วย
พวกเขาเดินทางลงใต้ ผ่าน​ถิ่น​ทุร​กัน​ดาร​เอ​โดม

ผ่านไป 7 วัน​ ​กอง​ทัพก็ขาดแคลนน้ำ
โยรัม จึงตรัสว่า
พระเจ้า​ทรง​เรียก 3 ​กษัตริย์​นี้​ มา​เพื่อ​จะ​มอบ​ไว้​ใน​มือ​ของ​โม​อับ

​เย​โฮ​ชา​ฟัท​ จึงได้ชวนกษัตริย์ทั้งสอง ไปหา ​เอลีชา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นั่น
เพื่อ​จะ​ให้​เขา​ทูล​ถาม​พระเจ้า

เมื่อมาถึง เอ​ลี​ชา​ทูลโยรัม ​ว่า
มาทำไม? ให้ไป​หา​ผู้​เผย​พระ​วจนะ​ของอาหับและเยเซเบลเถิด

แต่โยรัม ตอบ​ว่า
ไม่​ไป เพราะ​พระเจ้าทรง​เรียก​กษัตริย์​ทั้ง​ 3 ​นี้​มา ​เพื่อ​มอบ​ไว้​ใน​มือ​ของ​โม​อับ

แล้ว​เอ​ลี​ชา จึงตอบ​ว่า
ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่​เย​โฮ​ชา​ฟัท​ ​แล้ว เอลีชาจะไม่​มอง​โยรัมเลยด้วยซ้ำไป

แล้วเอลีชาจึงกล่าวว่า
พระเจ้าตรัสว่า
แม้จะ​ไม่​เห็น​ลม​หรือ​ฝน แต่​หุบ​เขา​นั้น​จะ​เต็ม​ไป​ด้วย​น้ำที่ดื่มได้
เรื่อง​อย่าง​นี้​เป็น​เรื่อง​เล็ก​น้อย​ใน​สาย​พระ​เนตร​ของ​พระเจ้า
และ​พระ​องค์​จะ​ทรง​มอบ​คน​โม​อับ​ไว้​ใน​มือ​ของ​ 3 กษัตริย์ด้วย
และจะทำลายเมืองต่างๆของพวกเขา

ต่อ​มา​พอ​รุ่ง​เช้า​ประ​มาณ 9:00 น.
มี​น้ำ​ไหลมาจาก​ทาง​เมือง​เอ​โดม​จน​แผ่น​ดิน​เต็ม​ไป​ด้วย​น้ำ

เมื่อ​คน​โม​อับ​เห็นน้ำสะท้อนแสง​อา​ทิตย์ จึงนึกว่าเป็น​เลือด ที่กองทัพ 3 กษัตริย์ฆ่ากันเอง
พวกเขาจึงรีบรุดมา​ริบ​เอา​ข้าว​ของ
แต่เมื่อมาถึงคน​อิส​รา​เอล​ก็​ลุก​ขึ้น​ต่อ​สู้​ ​จนคนโมอับหนีแตกกระเจิง
และ​ได้​ทลาย​เมือง​ต่างๆของโมอับเสีย

​พระ​ราชา​แห่ง​โม​อับ​ทรง​เห็น​ว่า​จะ​สู้​ไม่​ได้
​พระ​องค์​ทรง​นำ​พระ​​โอรส​หัว​ปี ถวาย​เป็น​เครื่อง​บูชา​เผา​ทั้ง​ตัว​ที่​บน​กำ​แพง
และ​มี​พระ​พิโรธ​ใหญ่​ยิ่ง​ต่อ​พวก​อิส​รา​เอล
เขา​ทั้ง​หลาย​ก็​ยก​ทัพถอย​ไป​จาก​พระ​องค์ ​และ​กลับ​บ้าน​เมือง​ของ​ตน

1. เยโฮซาฟัท ไปร่วมมือกับ โยรัม กษัตริย์ที่ชั่วร้าย จนต้องพบกับสถานการณ์ยากลำบาก
โยรัม ได้เยโฮซาฟัท กษัตริย์ที่ยำเกรงพระเจ้า มาร่วมมือด้วย จึงรอดพ้นจากสถานการณ์ยากลำบาก

การร่วมมือกับของคนชั่วร้าย จะนำภัยมาถึงตัว
การมีคนชอบธรรมอยู่ด้วย จะนำพระพรมาสู่ตน

2. เมื่อเจอปัญหาโยรัม ก็คิดถึงพระเจ้า เพื่อโทษพระองค์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดถึงพระเจ้า
เมื่อเจอปัญหาเยโฮซาฟัท ก็คิดถึงพระเจ้า เพื่อแสวงหาความช่วยเหลือจากพระองค์

เมื่อเราเจอปัญหา อย่าให้เลียนแบบโยรัม แต่จงเลียนแบบเยโฮซาฟัท

3. เยโฮซาฟัท มาขอให้พระเจ้าช่วย แต่อีก 2 กษัตริย์ อาจมาเพราะเหตุผลอื่น
เมื่อพระเจ้าทรงช่วย ไม่เพียงพวกเขาจะรอดพ้นจากการอดน้ำตาย
แต่พระองค์ยังทรงช่วยให้พวกเขามีชัยชนะเหนือโมอับอย่างง่ายดายอีกด้วย
ทั้งที่ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่า คงต้องตายเพราะน้ำมือโมอับกันหมดเสียแล้ว

ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้สำหรับมนุษย์
แต่​เป็น​เรื่อง​เล็ก​น้อย​ใน​สาย​พระ​เนตร​ของ​พระเจ้า

ฝ่ายมนุษย์ก็เหลือกำลังที่จะทำได้
แต่ไม่เกินกำลังของพระเจ้า
เมื่อเราพึ่งพาพระเจ้า เราจะได้รับการช่วยกู้ ดียิ่งกว่าที่เราคาดคิดเสียอีก

4. เรื่องการที่กษัตริย์โมอับ เผาบูชายันต์ลูกชายของตนนั้น
พระคัมภีร์ไม่ได้บอกรายละเอียดเอาไว้มากนัก
เป็นไปได้ว่า เพราะการคิดแค้นเคืองของโยรัม ที่โมอับไม่ยอมถวายบรรณการ
จึงทำให้กดดัน ไม่ยอมให้กษัตริย์โมอับหนีไปไหน จะฆ่าเสียให้ได้
จนเป็นเหตุให้เขาต้องทำสิ่งน่าเกลียดเช่นนั้น
จึงทำให้มี​พระ​พิโรธ​ใหญ่​ยิ่งเกิดขึ้น​ต่อ​พวก​อิส​รา​เอล

คำคม

“ เมื่อเจอปัญหา อย่าโทษพระเจ้า แต่ให้แสวงหาความช่วยเหลือจากพระองค์ ”

สรุป 2พงศ์กษัตริย์ 4

ภาพรวม

  • เอลีชาทำการอัศจรรย์หลายประการ ได้แก่ เพิ่มน้ำมันของหญิงม่าย , ทำให้นางที่หมดหวังที่จะมีบุตรได้บุตรชาย , ชุบชีวิตเด็กที่ตาย , แก้อาหารพิษ และ เพิ่มพูนอาหาร

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

2 พงศ์กษัตริย์ บทที่ 4 หลังจากที่โยรัม ชวนเยโฮซาฟัท และกษัตริย์เอโดม ไปสู้รบกับโมอับ และโดยความช่วยเหลือของพระเจ้า โมอับจึงพ่ายแพ้ไปแล้ว

ต่อมาภรรยา​ม่ายของผู้เผยพระวจนะ​คน​หนึ่ง มาร้อง​ทุกข์​ต่อ​เอ​ลี​ชา ​ว่า
เจ้า​หนี้​ได้​มา ​เพื่อ​จะ​เอา​ลูก​สอง​คน​ของนาง​ไป​เป็น​ทาส

เอ​ลี​ชา​ ถามนาง​ว่า ​มี​อะไร​อยู่​ใน​บ้าน​บ้าง?
นาง​ตอบ​ว่า ไม่​มี​อะไร​เลย นอก​จาก​น้ำ​มัน​ขวด​หนึ่ง

เอลีชา จึงให้นาง​ไป​ขอ​ยืม​ภาชนะ​เปล่า​จาก​เพื่อน​บ้าน​ทุก​คน ให้ได้มากๆ
แล้ว​เข้า​บ้าน ปิด​ประ​ตู​ขัง​ตัว​เอง​และ​ลูก​ชาย​ไว้
แล้ว​เท​น้ำ​มัน​ใส่​ภาชนะ​เหล่านั้น
นางก็ทำตาม
เมื่อ​ภาชนะ​เต็ม​หมด​ ลูกชายจึงบอก​นาง​ว่า “ไม่​มี​แล้ว”
แล้ว​น้ำ​มัน​ก็​หยุด​ไหล

เอลีชาจึงบอกให้นาง เอาน้ำ​มันนั้น​ไป​ขาย​ เพื่อใช้หนี้และใช้​เลี้ยง​ชีวิต

มีหญิง​มั่ง​มี​คน​หนึ่ง​ เห็นว่า ​เอ​ลี​ชา​ เดินทางผ่าน​ไปเมือง​ชู​เนม บ่อยๆ
นาง​จึงบอก​สามี​ ​ให้​​ทำ​ห้อง​ บน​ดาดฟ้า​สำ​หรับ​เอลีชาได้พักผ่อนระหว่างทาง
ดังนั้นเอลีชาจึงมักแวะไปพักที่นั่น เมื่อเดินทางผ่านมา

วันหนึ่ง เอลีชาทราบ​หญิง​นั้น ไม่​มี​บุตร​ชาย​และ​สามี​ของ​นาง​ก็​แก่​แล้ว
เอลีชาจึงบอกแก่นางว่า
​เวลา​นี้​ใน​ปี​หน้า นาง​จะ​มีบุตร​ชาย​
แล้วก็เป็นไป​ตาม​ที่​เอ​ลี​ชา​บอก​นางจริงๆ

ต่อมาเมื่อ​เด็ก​นั้น​โต​ขึ้น ก็ป่วยจนเสียชีวิต
นางจึงรีบออก​เดิน​ทางไปหาเอลีชา

เอลีชา​จึง​สั่ง​เก​หะ​ซี ให้เอาไม้​เท้า​ของ​เอลีชา ไปวาง​ไม้​เท้าบน​หน้า​ของ​เด็ก​นั้น
แต่แม่ของเด็กก็ยังรบเร้าให้เอลีชาไปกับนาง เอลีชาจึงไปกับนาง
เก​หะ​ซี​ได้​ทำตามที่เอลีชาบอกแล้ว แต่เด็ก​นั้น​ยัง​ไม่​ฟื้น

​เอ​ลี​ชา​ ​เห็น​เด็ก​นอน​ตาย​อยู่​บน​ที่​นอน​ของ​เอลีชา
เมื่อปิดประตูแล้ว เอลีชาได้​อธิษ​ฐาน​ต่อ​พระเจ้า
แล้ว​ท่าน​ขึ้น​ไป​นอน​ทับ​เด็ก​นั้น 2 ครั้ง แล้วเด็ก​ก็ฟื้น
เอลีชาก็มอบเด็กนั้นแก่แม่ของเด็ก

เมื่อ​เอ​ลี​ชา​กลับ​มา​ที่​กิล​กาล ​เกิด​กัน​ดาร​อา​หารขึ้น
พวก​ผู้​เผย​พระ​วจนะ​ไป​เก็บ​ผัก​ที่​ทุ่ง​นา มา​หั่น​ใส่​ใน​หม้อ​ต้ม​อา​หาร​
ปรากฏว่าอาหารนั้นเป็นพิษ กิน​ไม่​ได้
เอลีชาจึง​ใส่​แป้ง​ลง​ใน​หม้อ แล้วพิษใน​หม้อ​นั้นก็หมดไป

มี​คน​หนึ่งนำขนม​ปังซึ่ง​เป็น​พืช​ผล​แรก​ มาถวาย คือ ขนม​บาร์​เลย์ 20 ก้อน และ​รวง​ข้าว​ใหม่​ใส่​กระ​สอบ​​
เอ​ลี​ชา​ จึงมอบให้​คน​ 100 คน กินกัน
เขา​ทั้ง​หลาย​ก็​กินกัน​และ​ยัง​เหลือ​อีก

1. หญิงม่ายคิดว่าตนไม่มีอะไรเหลือ แต่ยังมีน้ำมัน 1 ขวดและพระเมตตาของพระเจ้า
เท่านั้นก็เพียงพอที่จะดูแลชีวิตของนางและลูกทั้งสองไปชั่วชีวิตแล้ว

วันนี้สิ่งที่เรามี เพียงพอที่พระเจ้าจะใช้ให้เป็นพระพรมากมาย
เพียงแต่เราจะเข้ามาหาพระองค์ ร้องทูลความปรารถนาของเราต่อพระองค์

2. หญิงชาวชูเนมเตรียมเตียงไว้สำหรับคนของพระเจ้า
แต่ปรากฏว่าเตียงนั้นเอง กลับมีส่วนทำให้ลูกของนางฟื้นขึ้นมาจากความตาย

สิ่งดีที่เราตั้งใจทำแด่พระเจ้าด้วยจริงใจ
สิ่งนั้นจะสะท้อนกลับมาเป็นพระพรใหญ่ยิ่งสู่ชีวิตของเราเสมอ

3. เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้อาหารที่แสนมีค่าในยามกันดารอาหาร กลายเป็นขยะไป
แต่โดยความช่วยเหลือจากพระเจ้า ทรงทำให้ขยะนั้นกลับกลายเป็นอาหารแสนอร่อยได้อีกครั้ง

เราอาจจะผิดพลาดไปด้วยสาเหตุบางประการ จนทำให้ชีวิตของเราพบเจอปัญหาเช่นนี้
แต่ก็ไม่สำคัญว่าเกิดจากสาเหตุอะไร
หากวันนี้เรากลับมาหาพระเจ้า ขอความช่วยเหลือจากพระองค์
พระเจ้าทรงฤทธิ์สามารถทำให้ชีวิตของเรากลับมาดีอีกครั้งได้

4. ในสายตาของมนุษย์ ขนมปัง 20 ก้อน ดูเหมือนจะไม่เพียงพอสำหรับชาย 100 คน
แต่โดยพระวจนะของพระเจ้า มันมากเพียงพอจนเหลือเฟือ

สิ่งที่พระเจ้าตรัสไว้ในพระคำของพระองค์ ถึงแม้จะขัดแย้งกับความคิดความเข้าใจของเรา
แต่มันจะเกิดขึ้นเป็นจริงอย่างแน่นอน

คำคม

“ สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เกิดขึ้นได้ โดยพระเจ้าของเรา ”

สรุป 2พงศ์กษัตริย์ 5

ภาพรวม

  • นาอามานเป็นโรคเรื้อน เอลีชาให้เขาไปจุ่มตัวในแม่น้ำจอร์แดน 7 ครั้ง เมื่อเขาทำตามเขาจึงหายเป็นปกติ

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

2 พงศ์กษัตริย์ บทที่ 5 นอกจากเอลีชาทำการอัศจรรย์หลายประการ ได้แก่ เพิ่มน้ำมันของหญิงม่าย , ทำให้นางที่หมดหวังที่จะมีบุตรได้บุตรชาย , ชุบชีวิตเด็กที่ตาย , แก้อาหารพิษ และ เพิ่มพูนอาหาร แล้ว

ยังมีอีกเหตุการณ์หนึ่ง คือ
นา​อา​มาน​ ผู้​บัญ​ชา​การ​กอง​ทัพ​ ของซี​เรีย เป็น​คน​สำ​คัญและ​มี​เกียรติมากในซีเรีย
แต่เขา​เป็น​โรค​เรื้อน

​เด็ก​หญิง​คน​หนึ่ง​ที่ถูกจับมาจาก​​อิส​รา​เอล ​ได้บอกภรรยาของนาอามาน​ ว่า
​ผู้​เผย​พระ​วจนะ​ซึ่ง​อยู่​ใน​สะ​มา​เรีย สามารถ​รัก​ษา​โรค​เรื้อน​ของ​นาอามานได้

นา​อา​มาน​จึง​ไป​ขออนุญาตจากพระ​ราชา​แห่ง​ซี​เรีย​ เพื่อไปรักษาโรคเรื้อนที่อิสราเอล
พระราชาแห่งซีเรียจึง ​ส่งของกำนัลและ​สาร​ไป​ยังโยรัม พระราชาแห่งอิสราเอล
เพื่อขอให้ช่วยรัก​ษา​นาอามาน​ให้​หาย​จาก​โรค​เรื้อน

โยรัมก็​ฉีก​ฉลอง​พระ​องค์ ตรัส​ว่า
โยรัม​เป็น​พระ​เจ้าหรือ จึง​จะ​ให้​ตาย​และ​ให้​มี​ชีวิต ได้?
เมื่อ ​เอ​ลี​ชา ทราบเรื่องจึง​ใช้​คน​ไป​ทูล​โยรัม ให้ส่งนาอามาน​มา​หาเขา

นา​อา​มาน​จึง​มา​ที่​​บ้าน​ของ​เอ​ลี​ชา
เอ​ลี​ชา​ก็​ส่งคนมาบอกเขาว่า
ให้​ไป​ชำระ​ตัว​ใน​แม่​น้ำ​จอร์​แดน​ 7 ครั้ง ก็​จะหาย​

แต่​นา​อา​มาน​โกรธ​ และกลับไป​ด้วย​ความ​เดือด​ดาล
พวก​ข้า​ราช​การ​ของ​เขา จึงมาบอกว่า
ถ้าเอลีชา​สั่ง​ให้​ทำ​สิ่ง​ใหญ่​อย่าง​หนึ่ง ท่าน​จะ​ไม่​ทำ​หรือ?
ถ้า​อย่าง​นั้นทำแค่นี้ ทำไมจะไม่ทำเล่า?

นาอามาน​จึง​ลง​ไป​จุ่ม​ตัว​ใน​แม่​น้ำ​จอร์​แดน 7 ครั้ง​
และ​เนื้อ​ของ​เขา​ก็​กลับ​คืน​เป็น​อย่าง​เนื้อ​ของ​เด็ก​เล็ก และ​หายจากโรคเรื้อน

เขาจึง​กลับ​มา​หา​เอลีชา เพื่อมอบของ​กำ​นัลให้
แต่​เอ​ลี​ชา​ไม่รับ
นา​อา​มาน​จึงขอดิน​กลับไปจำนวนหนึ่ง เพื่อจากนี้ไปเขาจะ​นมัสการถวาย​แด่​พระเจ้า​เท่า​นั้น
แต่ขอพระเจ้าทรง​ให้​อภัย​เขา เมื่อเขาคอยพยุงพระราชาแห่งซีเรียใน​นิเวศ​ของ​พระ​ริม​โมน เขาจำเป็น​ต้อง​โน้ม​ตัว​ลง​คำ​นับ​

​เมื่อ​นา​อา​มาน​ออก​ไป​ได้​ไม่​ไกล​นัก
เก​หะ​ซี​ คน​ใช้​ของ​เอ​ลี​ชา​ ก็​วิ่ง​ตาม​​นา​อา​มาน​ไป มา แล้วบอกว่า

เอลีชา ขอเงิน 1 ​ตะ​ลันต์ และ​เสื้อ​เที่ยว​งาน​ 2 ชุด เพื่อเอาไปให้ผู้​เผย​พระ​วจนะหนุ่ม 2 คน
นา​อา​มานจึงให้เงิน 2 ​ตะ​ลันต์ และ​เสื้อ​เที่ยว​งาน​ 2 ชุด แก่เกหะซี

เมื่อเอลีชาถามเก​หะ​ซี เรื่องที่เขาทำนี้ เขาก็พยายามปฏิเสธ
แต่เอลีชาก็ทราบเรื่องทั้งหมด และกล่าวว่า
นี่​เป็น​เวลา​ควร​ที่​จะ​รับ​เงินหรือสิ่งของต่างๆ ​หรือ?
ดังนั้นโรค​เรื้อน​ของ​นา​อา​มาน​จะ​ติด​อยู่​กับเกหะซีและ​เชื้อ​สายตลอดไป

เกหะซี​ก็​ไป​จาก​เอลีชา​และ​เป็น​โรค​เรื้อน​ขาว​อย่าง​หิมะ

1. เด็กหญิงชาวอิสราเอลที่ถูกจับไปซีเรีย ดูเหมือนชีวิตของเธอจะหมดอนาคตเสียแล้ว
แต่เมื่อเธออยู่ที่นั่น เธอก็ยังสามารถรับใช้พระเจ้าได้ ด้วยการเป็นพยานเท่าที่เธอรู้
แล้วสิ่งนั้นกลับนำการถวายเกียรติยิ่งใหญ่แก่พระเจ้า ทั้งในซีเรียและในอิสราเอล

วันนี้ ไม่ว่าเราจะอยู่สภาพเช่นใด เรายังคงสามารถรับใช้พระเจ้า และถวายพระเกียรติแด่พระองค์ได้
เพียงแค่เราเริ่มเป็นพยานเพื่อพระองค์ ในสิ่งที่เราได้ประสบมาแก่คนรอบข้าง

2. โยรัมกล่าวว่า เขาไม่ใช่​​พระ​เจ้า ที่​จะ​ให้​ตาย​และ​ให้​มี​ชีวิต ได้
โยรัมก็รู้อยู่แก่ใจว่า พระเจ้าทรงฤทธานุภาพสูงสุด
แต่ถึงกระนั้นเขาเองก็ไม่ยอมกลับมาหาพระเจ้าตลอดชั่วชีวิตของเขา

ไม่ว่าเรารู้เรื่องพระเจ้าดีเพียงใดก็ตาม
แต่หากไม่กลับใจ มาหาพระองค์ ถ่อมใจลงยอมเชื่อฟังพระองค์
ความรู้นั้นก็จะไม่มีผลเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราเลย

3. พวกข้าราชการเตือนนาอามานว่า
ถ้าเอลีชาใช้ให้ทำยากกว่านี้ แล้วโรคเรื้อนหาย เขาก็คงจะทำใช่ไหม?
ดังนั้นแค่นี้ทำไมไม่ทำ?

ถ้าพระเจ้าบอกให้เราทำสิ่งยากๆบางอย่าง แล้วปัญหาของเราจะคลี่คลาย สิ่งร้ายจะกลับกลายเป็นดี เราคงจะเต็มใจทำใช่ไหม?
แล้ววันนี้ พระเจ้าบอกว่า ให้มาอธิษฐานร้องทูลต่อพระองค์ อย่างสุดจิตสุดใจ แค่นี้ทำไมเราจะไม่ทำเล่า?

4. เมื่อเกหะซี ทำผิดไปแล้ว แทนที่จะกลับใจ กลับทำผิดซ้ำเขาไปอีกด้วยการโกหก
ดังนั้นเขาจึงต้องพบกับผลลัพท์อันน่าเศร้า

วันนี้ หากเราผิดพลาดพลั้งไปแล้ว
จงรีบกลับใจเสียใหม่ สารภาพความจริงต่อพระเจ้า่
ขอพระเมตตาจากพระองค์
แล้วเราจะได้พบว่า พระเมตตาของพระเจ้ามีอย่างเหลือล้นสำหรับชีวิตของเรา

คำคม

ความทุกข์จะถูกนำไปจากผู้ยำเกรงพระเจ้า แต่จะถูกนำไปหาผู้ลบหลู่พระองค์

สรุป 2พงศ์กษัตริย์ 6

ภาพรวม

  • เอลีชา ทำการอัศจรรย์ให้หัวขวานเหล็กลอยน้ำได้ , ให้ทหารของกองทัพซีเรียตาบอดไป แต่เมื่อพระราชาซีเรียมาล้อมกรุงสะมาเรียจนเกิดกันดารอาหารอย่างหนัก โยรัมกลับโกรธเอลีชาแล้วคิดจะฆ่าเสีย

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

2 พงศ์กษัตริย์ บทที่ 6 นอกจากเอลีชาจะทำการอัศจรรย์ รักษาโรคเรื้อนของนาอามานแม่ทัพแห่งซีเรีย โดยให้เขาไปจุ่มตัวในแม่น้ำจอร์แดน 7 ครั้ง แล้ว

ยังมีการอัศจรรย์อื่นๆอีกดังนี้
ครั้งหนึ่งพวก​ผู้​เผย​พระ​วจนะ​ต้องการ​ไป​ที่​แม่​น้ำ​จอร์​แดน เพื่อจะตัดไม้​มา​สร้าง​​ที่​พักอา​ศัย​
พวกเขาได้เชิญเอลีชาไปด้วย
ขณะที่กำลัง​ตัด​ต้น​ไม้ ​คน​หนึ่ง​ทำหัว​ขวาน​ที่ยืมคนอื่นมา ตก​ลง​ไป​ใน​น้ำ
แล้วเอลีชา​ก็​ตัด​ไม้​อัน​หนึ่ง ทิ้ง​ลง​ไป​ที่ที่หัวขวานตกลงไปนั้น
แล้วขวาน​เหล็ก​นั้น​ลอย​ขึ้น​มา

ต่อมาพระ​ราชา​แห่ง​ซี​เรีย​รบ​กับ​อิส​รา​เอล ไม่ว่าพระราชาซีเรียจะแอบตั้งค่ายดักไว้ที่ใด
เอลีชาก็จะส่งข่าวไปบอก โยรัม ​พระ​ราชา​แห่ง​อิส​รา​เอล​ ให้หลีกเลี่ยงไปได้ทุกครั้ง

เมื่อพระ​ราชา​แห่ง​​ซี​เรีย​ ทราบเรื่อง จึง​ทรง​ส่ง​ม้า รถ​รบ และ​กอง​ทัพ​ใหญ่​ไป​ที่​โดธาน เมืองที่เอลีชา อยู่
และ​ล้อม​เมือง​นั้น​ไว้ ใน​เวลา​กลาง​คืน

พอเช้าตรู่​ผู้​รับ​ใช้​ของ​คน​ของเอลีชา เห็นกอง​ทัพ​พร้อม​กับ​ม้า​และ​รถ​รบ​ก็​ล้อม​เมือง​ไว้
จึงบอกเอลีชา ว่า “แย่​แล้ว เรา​จะ​ทำ​อย่าง​ไร​ดี?”
เอลีชา​ตอบ​ว่า “อย่า​กลัว​เลย เพราะ​ฝ่าย​เรา​มี​มาก​กว่า​ฝ่าย​เขา”

แล้ว​เอ​ลี​ชา​ก็​อธิษ​ฐาน​ ให้พระเจ้า​เปิด​ตา​ของผู้รับใช้คนนั้น
​เขา​ก็​มอง​และ​เห็น​ภูเขา​เต็ม​ไป​ด้วย​ม้า และ​รถ​รบ​เพลิง​รอบ​เอ​ลี​ชา

และ​เมื่อ​คน​ซี​เรีย​ลง​มา​รบ​กับ​เอ​ลี​ชา เอลีชา​ก็​อธิษ​ฐาน แล้วพวกเขาก็ตา​บอด​ไป​
เอ​ลี​ชาจึง​บอก​พวกเขาเดิน​ตาม​มา
และ​เอลีชา​ก็​พาพวก​เขา​ไป​กรุง​สะ​มา​เรีย
แล้วเอลีชาก็อธิษฐาน แล้วพวกเขา​ก็​เห็นว่าตนกำลัง​อยู่​กลาง​กรุง​สะ​มา​เรีย

โยรัมจึง​ตรัส​แก่​เอ​ลี​ชา​ว่า
“บิดา​ของ​เรา จะ​ให้​เรา​ฆ่า​เขา​เสีย​หรือ?”
แต่เอลีชาบอกให้​จัด​งาน​เลี้ยง​ใหญ่​ให้พวก​เขา แล้ว​ปล่อย​เขา​ไปเสีย
เมื่อโยรัมทำตามและ​พวก​ซี​เรีย​ไม่​ได้​มา​ปล้น​ใน​แผ่น​ดิน​อิส​รา​เอล​อีก​เลย

แต่ต่อ​มา​ภาย​หลัง เบน​ฮา​ดัด​พระ​ราชา​แห่ง​ซี​เรีย ได้ยกทัพมา​ล้อม​กรุง​สะ​มา​เรียไว้
จนเกิด​การ​กัน​ดาร​อา​หาร​อย่าง​หนัก​ใน​สะ​มา​เรีย

มี​ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​ร้องขอความช่วยเหลือ จากโยรัม
โยรัม ตรัส​ว่า “ถ้า​พระเจ้าไม่​ทรง​ช่วย​เจ้า เรา​จะ​เอา​ความ​ช่วย​เหลือ​จาก​ที่​ไหน​มา​ให้​เจ้า?”

นาง​ทูล​ ว่า
เมื่อวานนางได้ตกลงกับผู้หญิงคนหนึ่งให้เอาลูกมาต้มกินกัน เมื่อวานนางจึงต้มลูกของนาง
แต่พอวันนี้หญิงคนนั้นก็เอาลูกของตนไปซ่อนเสีย

​เมื่อ​โยรัม​ได้​ยิน​ถ้อย​คำ​ของ​หญิง​นั้น ก็​ฉีก​ฉลอง​พระ​องค์ และ​ตรัส​ว่า
“วันนี้เอลีชาจะต้องตายแน่นอน”

แต่​เอ​ลี​ชา​นั่ง​อยู่​ใน​บ้าน​ของ​ตน กับ​พวก​ผู้​ใหญ่​
เอ​ลี​ชา​ก็​พูด​กับ​พวก​ผู้​ใหญ่​ว่า
โยรัม ฆาต​กร​คน​นี้​ กำลังใช้​คน​มา​เอา​ศีรษะ​ของเอลีชา ดังนั้นให้ปิด​ประ​ตู และ​ยึด​ประ​ตู​ให้​แน่น

แล้วโยรัมก็มาและ​ตรัส​ว่า
“เหตุ​ร้าย​นี้​มา​จากพระเจ้า ข้าพ​เจ้า​จะ​รอ​คอย​พระเจ้า​อีก​ทำ​ไม?”

1. พวก​ผู้​เผย​พระ​วจนะที่ไปตัดต้นไม้นั้น ปรารถนาให้เอลีชาไปด้วยกับเขา
และเพราะความปรารถนานั้น พวกเขาจึงพ้นจากปัญหาที่เผชิญ

วันนี้ พระเจ้าทรงสถิตกับเราในทุกที่ที่เราไป
ดังนั้นเมื่อเผชิญปัญหา อย่ารอช้า รีบนำเรื่องราวมาทูลต่อพระองค์เถิด

2. ทหารที่พระราขาซีเรียส่งมามากมายนั้น ยังน้อยกว่าเหล่าทูตสวรรค์ที่พระเจ้าเตรียมไว้ปกป้องคนของพระองค์
ถ้าสู้กันจริงๆทหารเหล่านั้นคงต้องตายทั้งหมด
แต่ยังไม่ต้องให้กับทูตสวรรค์ลงมือเลย แค่เอลีชาอธิษฐานทหารเหล่านั้นก็พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงแล้ว

พระเจ้าทรงเตรียมความช่วยเหลือและการปกป้องเรา ในสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญนี้
อย่างมากมายเหลือเฟือเกินพอ ที่จะช่วยเราให้ผ่านพ้นไปได้อย่างมีชัยชนะ

โดยคำอธิษฐาน พระเจ้าทรงเปิดเผยให้คนรับใช้ของเอลีชา ตาสว่างขึ้นจนรู้ความจริงฉันใด
โดยคำอธิษฐาน พระเจ้าก็จะทรงเปิดเผยให้เรารู้ความจริงแห่งการปกป้องของพระเจ้า ที่รายล้อมปกป้องเราไว้อย่างเหลือล้นเช่นกัน

3. ในยามที่เอลีชา พาทหารซีเรียมามอบแก่โยรัม โยรัมพูดกับเอลีชา ว่า “บิดาของข้าพเจ้า”
ต่อมาอีกไม่นาน เมื่อเอลีชา ไม่ได้อธิษฐานช่วยโยรัม โยรัมคนเดียวกันนี้ก็พูดว่า “วันนี้เอลีชา ต้องตายแน่นอน”

คำยกย่องชมเชยจากมนุษย์ ช่างว่างเปล่าและไร้ค่า
วันนี้เขาชมเรา พรุ่งนี้เขาอาจจะด่าเราก็ได้
อย่าเอาชีวิตของตน ไปผูกไว้กับคำชมหรือการยอมรับของมนุษย์ อันแสนโลเล

4. สำหรับโยรัม เขารู้ดีว่า ถ้าพระเจ้าไม่ช่วย ก็ไม่มีใครช่วยได้
แต่เขาเองก็ไม่ยอมกลับใจ หันกลับมาหาพระเจ้า
เขารู้อยู่แก่ใจว่า ที่เหตุร้ายเกิดขึ้นนี้เกิดมาจากเขาละทิ้งพระเจ้า
แต่แทนที่เขาจะถ่อมใจลง แต่กลับตัดสินใจตรงกันข้าม คือไม่รอพระเจ้าแล้ว
และยังโทษคนของพระเจ้าอย่างเอลีชาอีกด้วย ทั้งที่เป็นความผิดของตนเอง

เมื่อเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นในชีวิตของเรา
อย่าให้เรากล่าวโทษคนอื่น มองหาคนผิด
แต่ควรจะเริ่มต้นด้วยการสำรวจดูตนเองว่า
มีสิ่งใดที่ต้องกลับใจเสียใหม่หรือไม่?

คำคม

“ การปกป้องของพระเจ้าเหนือชีวิตของเรา มีมากกว่าที่เรารับรู้มากมายนัก ”

สรุป 2พงศ์กษัตริย์ 7

ภาพรวม

  • พระเจ้าทรงช่วยกรุงสะมาเรียโดยทำให้ทหารซีเรียที่ล้อมเมืองอยู่นั้น เข้าใจผิดนึกว่ามีกองทัพยกมาช่วยอิสราเอล พวกเขาจึงหนีตายล่าถอยไป

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

2 พงศ์กษัตริย์ บทที่ 7 หลังจากที่เอลีชา ทำการอัศจรรย์ให้หัวขวานเหล็กลอยน้ำได้ , ให้ทหารของกองทัพซีเรียตาบอดไป แต่เมื่อพระราชาซีเรียมาล้อมกรุงสะมาเรียจนเกิดกันดารอาหารอย่างหนัก โยรัมกลับโกรธเอลีชาแล้วคิดจะฆ่าเสีย

แต่​เอ​ลี​ชา​ทูลโยรัม ​ว่า
พรุ่ง​นี้​ประ​มาณ​เวลา​นี้ จะมีอาหารมากมายใน​เมือง​สะ​มา​เรีย

แล้ว​นาย​ทหาร​คน​สนิท​ของ​โยรัม จึงตอบ​ว่า
ต่อให้พระเจ้าทำ สิ่ง​นี้​จะ​เกิด​ขึ้น​ได้​หรือ?

​เอ​ลี​ชา​จึงบอก​ว่า
เขาเอง​จะ​เห็น​กับ​ตา​ แต่​จะ​ไม่​ได้​กิน

เวลาหัวค่ำวันนั้น มี​คน​โรค​เรื้อน​ 4 คน​ ได้เสี่ยงตายเพื่อออกไปขอความเมตตาจากทหารซีเรีย
แต่เมื่อพวกเขามาถึง​ค่าย​ของ​ซี​เรีย ก็พบว่าไม่​มี​ใคร​ที่​นั่น​สัก​คน
เนื่องจากกอง​ทัพ​ของ​ซี​เรีย​ได้​ยิน​เสียงดัง แล้วนึกว่า
กองทัพของคน​ฮิต​ไทต์ และ​คน​อี​ยิปต์​ มาช่วยอิสราเอล
พวกเขา​จึง​​หนี​ไป และ​ทิ้ง​ข้าวของไว้มากมาย

คน​โรค​เรื้อน​เหล่านั้น​จึงเข้าไป กิน​และ​ดื่ม และ​ขน​สมบัติไป​ซ่อน​ไว้จำนวนมาก
แล้ว​พวกเขา​ ก็นึกได้​ว่า
ถ้าไม่รีบไปบอกคนในเมือง หากเช้าแล้วคนในเมืองรู้เอง พวกเขาอาจจะถูกลงโทษ​

พวกเขาจึงมาบอก​นาย​ประ​ตู​เมือง
แล้ว​บรร​ดา​นาย​ประ​ตู​ก็​ตะ​โกน​บอก​กันไป ​ถึง​พระ​ราช​วัง

โยรัมตื่นขึ้น เมื่อทราบข่าวก็คิดว่า น่าจะเป็นแผนของพวกซีเรีย
​จึงส่ง​รถ​รบ​สอง​คัน​ ให้​ออกไปดู
ก็พบว่า เป็นความจริง ทหารซีเรียหนีกันไปหมดแล้ว

แล้ว​ประ​ชา​ชน​ก็​ออก​ไป​ปล้น​ค่าย​ของ​คน​ซี​เรีย
แต่โยรัมได้​แต่ง​ตั้ง​นาย​ทหาร​คน​สนิท ​ให้​ไป​เฝ้า​ดู​แล​ประ​ตู​เมือง ไม่ให้คนออกไป
แต่​ประ​ชา​ชน​ก็​เหยียบ​ไป​บน​เขา​ตรง​ประ​ตู
เขา​จึง​สิ้น​ชีวิต​ตาม​ที่​​เอลีชา ​ได้​กล่าว​ไว้

1. การที่เมืองที่กันดารอาหารเพราะศัตรูล้อมไว้นาน อดอยากถึงขนาดแม่ต้องกินลูกของตนเอง
จะกลายเป็นเมืองที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์ภายในคืนเดียว
เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ในสายตาของมนุษย์
แต่เป็นเรื่องเล็กน้อยในสายพระเนตรของพระเจ้า
พระองค์ทรงทำให้เกิดขึ้นได้ โดยที่อิสราเอลไม่ต้องเสียไพร่พลเลยสักคนเดียว

วันนี้ สถานการณ์ของเรา อาจดูไม่มีทางออก เป็นไปไม่ได้เลยในทุกช่องทาง
แต่โดยพระเจ้า เมื่อพระองค์เปิดประตูก็ไม่มีใครสามารถปิดได้
จงนำเรื่องของเรา มาร้องทูลต่อพระเจ้าเถิด

2. ผู้ที่มีส่วนช่วยให้คนอิสราเอลพ้นจากความอดอยากในคืนนั้น
ไม่ใช่นักรบที่กล้าหาญ แต่เป็นชาย 4 คน ที่อ่อนแอ สังคมรังเกียจ และขี้ขลาดกลัวการลงโทษ
เมื่อเขานำข่าวดีมากบอกแก่ชาวเมือง คนอ่อนแออย่างพวกเขา ได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านักรบคนใดๆในเมืองนั้นได้กระทำ

วันนี้ ไม่ว่าเราจะอ่อนแอเพียงใด
เราได้พบข่าวดีเรื่องของพระเยซูแล้ว
เป็นข่าวที่จะช่วยผู้คนทั้งหลาย ให้รอดพ้นหายนะได้
เพียงเรานำข่าวนี้ไปแจ้ง บางคนอาจจะไม่เชื่อเหมือนโยรัม ก็แล้วไป
แต่มีคนมากมายพร้อมที่จะเชื่อ และพวกเขาจะได้รับความช่วยเหลือข่าวแสนดีที่เรานำไปบอกพวกเขานั้น

3. แม้ว่านายทหารคนสนิทของโยรัม ดูหมิ่นฤทธานุภาพของพระเจ้า
การอัศจรรย์ก็ยังเกิดขึ้นอยู่ดี
แต่เขาจะไม่ได้รับประโยชน์จากการอัศจรรย์นั้นเลย แต่หนำซ้ำกลับได้รับผลร้ายจากการอัศจรรย์นั้นอีกด้วย

วันนี้ ไม่ว่าเราจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม
พระเจ้าก็ยังจะทรงทำการอัศจรรย์อยู่ดี
แต่การอัศจรรย์เหล่านั้น จะเป็นพระพรสำหรับผู้ที่เชื่อ ถ้อยคำของพระองค์เท่านั้น

เหมือนบางคนที่ต่อให้เห็นการอัศจรรย์กับตา พวกเขาก็ไม่หันกลับมาหาพระเจ้า
เพื่อให้พระองค์ช่วยเขาให้รอดจากบาปอยู่ดี

คำคม

“ ถ้าไม่เชื่อ ต่อให้ได้เห็นการอัศจรรย์ สิ่งนั้นก็จะไม่เป็นประโยชน์ต่อเขา ”

สรุป 2พงศ์กษัตริย์ 8

ภาพรวม

  • หลังจากที่หญิงชาวชูเนมได้ที่ดินกลับคืนมาแล้ว เอลีชาก็ไปเจิมตั้งฮาซาเอลเป็นกษัตริย์ปกครองซีเรีย ผู้ซึ่งจะนำหายนะมาสู่อิสราเอลในอนาคต

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

2 พงศ์กษัตริย์ บทที่ 8 นอกจากพระเจ้าทรงช่วยกรุงสะมาเรีย ผ่านคำพูดของเอลีชา โดยทำให้ทหารซีเรียที่ล้อมเมืองอยู่นั้น เข้าใจผิดนึกว่ามีกองทัพยกมาช่วยอิสราเอล พวกเขาจึงหนีตายล่าถอยไปแล้ว

เอ​ลี​ชา​ เคยบอกให้ ​หญิง​ชาวชูเนมที่เอลีชาได้​ชุบชีวิตบุตร​ของ​นาง​ ออก​ไป​จากสะมาเรีย พร้อม​กับ​ครอบ​ครัว เพราะ​จะเกิด​การ​กัน​ดาร​อา​หาร 7 ​ปี
นางก็ทำ​ตาม​ ย้าย​ไป​อยู่​ใน​แผ่น​ดิน​ฟี​ลิส​เตีย​ 7 ​ปี
ต่อมาเมื่อนางกลับ​มา​ ได้​อุท​ธรณ์​ต่อ​โยรัม ​เพื่อ​ขอ​บ้าน​และ​ที่​ดิน​ของ​นาง​คืน

ขณะนั้น​โยรัมกำ​ลัง​บอกกับเก​หะ​ซี​ผู้​รับ​ใช้​ของ​เอลีชา​
​ให้เล่าถึง​สิ่ง​ยิ่ง​ใหญ่​ทุก​อย่าง​ที่​เอ​ลี​ชา​ได้​ทำ ให้พระองค์รู้
เมื่อ​เขา​กำ​ลัง​ทูล ​เรื่อง​ที่​เอ​ลี​ชา​ชุบ​ชีวิต​คน​ตาย
หญิงชาวชูเนมนั้น ก็มา​ร้อง​อุท​ธรณ์​ต่อ​โยรัม พอดี

โยรัมจึงให้คน​จัด​การ​คืน​ทุก​สิ่ง​ที่​เป็น​ของ​นาง พร้อม​ทั้ง​พืช​ผล​ทั้ง​หมด​ของ​นา​งนั้น
ตั้ง​แต่​วัน​ที่​นาง​ออก​จาก​แผ่น​ดิน​มา​จน​ถึงนางกลับมา

ต่อมา​เอ​ลี​ชา​มา​ยัง​กรุง​ดา​มัส​กัส ขณะนั้นเบน​ฮา​ดัด​พระ​ราชา​แห่ง​ซี​เรีย​กำลังประ​ชวร
พระองค์จึงใช้​ฮา​ซา​เอล​ ให้ไป​พบ​เอลีชา เพื่อถามว่าพระองค์จะ​หาย​ป่วย​หรือไม่

เมื่อฮา​ซา​เอล​มาพบ​เอ​ลี​ชา​ เอลีชากล่าวว่า
ให้ไป​ทูล​พระ​ราชา​ว่า ‘พระ​องค์​จะ​หาย​ประ​ชวร​แน่’
แต่​เอลีชาก็บอกให้ฮาซาเอล รู้ด้วยว่า เบนฮาดัด​จะ​สิ้น​พระ​ชนม์​แน่

เอลีชาได้เพ่ง​ดู​ฮาซาเอล แล้วก็​ร้อง​ไห้
เพราะ​เอลีชาทราบ​ถึง​เหตุ​ร้าย​ที่​ฮาซาเลล​จะ​ทำ​ต่อ​คน​อิส​รา​เอล
เขา​จะ​เอา​ไฟ​เผา​ป้อม​ปรา​การ​ และ​จะ​ฆ่า​คน​หนุ่ม​ด้วย​ดาบ และ​จับ​เด็ก​เล็ก​ฟาด​จน​แหลก และ​ผ่า​ท้อง​หญิง​มี​ครรภ์​เสีย

เอ​ลี​ชา​บอกฮาซาเอล ​ว่า
เขาจะได้​เป็น​กษัตริย์​ครอบ​ครอง​ซี​เรีย

เมื่อฮาซาเอลกลับมาหาเบนฮาดัด ก็บอกว่า พระองค์จะ​หาย​ประ​ชวร​แน่
​ใน​วัน​รุ่ง​ขึ้น ฮาซาเอล​ก็​ปลงพระชนม์เบนฮาดัด แล้ว​ก็​ขึ้น​ครอง​ราชย์​แทน

ใน​ปี​ที่ 5 ของ​รัชกาล​โย​รัม เย​โฮ​รัม​ โอรส​ของ​เย​โฮ​ชา​ฟัท​ ก็​ได้​ขึ้น​ครอง​ราชย์ในยู​ดาห์​
เมื่ออายุ 32 ปี และ​​ทรง​ครอง​ราชย์ 8 ปี
​พระ​องค์​ทรง​ทำ​สิ่ง​ชั่ว​ร้าย​ใน​สาย​พระ​เนตร​ของ​พระเจ้า

เอ​โดม​ได้​กบฏ ต่อพระองค์
เย​โฮ​รัม​จึงยกทัพไปโจมตี​คน​เอ​โดม แต่ก็พ่ายแพ้กลับมา
แล้ว​ลิบ​นาห์​ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของยูดาห์ ก็​ได้​กบฏ​ด้วย ใน​เวลา​เดียว​กัน
เย​โฮ​รัม​จึง​ทรง​ล่วง​หลับ​ไป​
และ​อา​หัส​ยาห์​ ​โอรส​ของ​พระ​องค์​ได้​ขึ้น​ครอง​ราชย์​แทน ใน​ปี​ที่ 12 แห่ง​รัช​กาล​โย​รัม​

อา​หัส​ยาห์​ ทรงครองราชย์เมื่ออายุ 22 ปี และ​ทรง​ครอง​ราชย์ 1 ปี
พระ​​มารดา​ของ​พระ​องค์ คือ ​อา​ธา​ลิ​ยาห์ ผู้เป็นลูกสาวของอาหับ ​พระ​ราชา​แห่ง​อิส​รา​เอล
อาหัสยาห์ทรง​ทำ​สิ่ง​ชั่ว​ร้าย​ใน​สาย​พระ​เนตร​ของ​พระเจ้า
พระ​องค์​เสด็จ​ไป​กับ​โย​รัม​ เพื่อ​ทำ​สง​คราม​กับ​ฮา​ซา​เอล​ ​ที่​รา​โมท​กิ​เล​อาด
และ​คน​ซี​เรีย​ทำ​ให้​โย​รัม​บาด​เจ็บ

​โย​รัม​ทรง​กลับ​มา​รัก​ษาตัว​ที่​ยิส​เร​เอล
และ​อา​หัส​ยาห์​ ได้​เสด็จ​ไป​เยี่ยม​โย​รัม​ที่นั่น

1. หญิงชาวชูเนมทำตามที่เอลีชาบอก เกิดผลดีในตอนต้น แต่ต่อมาเกิดปัญหา
แล้วในท้ายที่สุดก็เกิดผลดี

เมื่อเราเชื่อฟังพระเจ้า เราจะพบสิ่งดี แต่หากระหว่างทางนั้นเกิดปัญหาขึ้น จงรอคอพระเจ้า เพราะว่าในที่สุดแล้วสิ่งนั้นจะกลายเป็นผลดีอย่างแน่นอน

2. พระเจ้าทรงใช้เอลียาห์ ให้มาเจิมตั้ง ฮาซาเอล ให้เป็นผู้ปกครองซีเรีย(1พกษ. 19:15)
แต่พระเจ้าทรงรับเอลียาห์ไปก่อนที่จะได้ทำ เอลียาห์คงสั่งให้เอลีชาศิษย์ของเขาทำสิ่งนี้
ดังนั้นสิ่งที่พระเจ้าสั่งเอลียาห์ไว้จึงนับว่าสำเร็จ

เมื่อพระเจ้าทรงมอบหมายให้เราทำสิ่งใด เราอาจจะทำสิ่งนั้นด้วยตนเอง หรือเราอาจจะเตรียมบางคนเพื่อทำสิ่งนั้นแทนเราก็จะเป็นเหมือนเราได้ทำด้วยตนเองเช่นกัน

ดังนั้นภารกิจที่พระเจ้าทรงใส่ภาระใจให้แก่เราแล้วนั้น
แม้เราอาจจะทำไม่สำเร็จสมบูรณ์ ก็จงเตรียมคนรุ่นต่อไปที่จะสานต่อให้เสร็จสมบูรณ์

3. เย​โฮ​รัม พ่อของอาหัสยาห์ ทำชั่วในสายพระเนตรของพระเจ้า จนบ้านเมืองเกิดกบฏวุ่นวาย
แต่อาหัสยาห์ กลับไม่ยอมเรียนรู้ ยังทำชั่วเหมือนกับพ่อของเขา
จนในที่สุด เกิดปัญหาใหญ่จนแทบจะต้องสิ้นราชวงศ์ในช่วงเวลาต่อมา

เราควรเรียนรู้จากคนที่ผิดพลาดในอดีตที่ผ่านมา สังเกตดูผลปลายทางของเขา
แล้วนำมาเป็นบทเรียนที่จะไม่ทำผิดพลาดเหมือนพวกเขา

คำคม

“ สิ่งที่พระเจ้าสั่งไว้ จงสานต่อให้เสร็จสมบูรณ์ ”

สรุป 2พงศ์กษัตริย์ 9

ภาพรวม

  • เอลีชาส่งคนไปเจิมตั้งเยฮู เป็นกษัตริย์ของอิสราเอล ต่อมาโยรัม พระราชาของอิสราเอล และ อาหัสยาห์ พระราชาของยูดาห์ รวมทั้งพระนางเยเซเบลด้วย ก็ถูกเยฮูฆ่าตาย

# สรุป

@ สื่งที่เรียนรู้

2 พงศ์กษัตริย์ บทที่ 9 หลังจากที่เอลีชาไปเจิมตั้งฮาซาเอลเป็นกษัตริย์ปกครองซีเรีย ฮาซาเอลก็ได้ทำสงครามกับโยรัม พระราชาของอิสราเอล และโยรัมได้รับบาดเจ็บกลับมารักษาตัวที่ยิสราเอล

แล้ว​เอ​ลี​ชา ได้ส่ง​ผู้​เผย​พระ​วจนะ คนหนึ่ง ไป​ที่​รา​โมท​กิ​เล​อาด เพื่อเจิมเย​ฮู​ ให้​เป็น​กษัตริย์​เหนือ​อิส​รา​เอล
และให้​โค่น​ราช​วงศ์​ทั้งสิ้นของ​อา​หับเสีย และพวก​สุนัข​จะ​กิน​เย​เซ​เบล​ใน​เขต​ยิส​เร​เอล

หลังจากนั้นเย​ฮู จึงได้​กบฏ​ต่อ​โย​รัม
แล้ว​เย​ฮู​ขึ้น​รถ​รบ​ไป​ยัง​ยิส​เร​เอล เพราะ​โย​รัม​อยู่​ที่​นั่น
เวลานั้น อา​หัส​ยาห์​พระ​ราชา​แห่ง​ยู​ดาห์​ ได้​เสด็จ​ลง​มา​เยี่ยม​โย​รัมพอดี

โยรัมและอาหัสยาห์ จึง​จัด​รถ​รบ​ ออก​ไป​ปะทะ​กับ​เย​ฮู
โย​รัมถูกเยฮู ยิงเข้ากลางหลัง ลูก​ธนู​จึง​แทง​ทะลุ​หัวใจ ตายคาที่
เย​ฮู​จึงให้คนเอา​ศพ​ของโยรัม​โยน​ทิ้ง​ลง​ไป​ใน​ที่​ดิน​แปลง​ของ​นา​โบท​ ที่อาหับเคยไปปล้นชิงมานั้น (1พกษ.21)

อา​หัส​ยาห์​ แม้จะหนี​ไป​ทาง​เมือง​เบธ​ฮัก​กาน แต่ก็ถูกธนูยิงเสียชีวิตเช่นกัน

เมื่อ​เย​ฮู​มา​ถึง​เมือง​ยิส​เร​เอล เย​เซ​เบล​ก็แต่งตัวยั่วยวนเยฮู แต่ไม่ได้ผล
เยฮูสั่งว่า ใคร​อยู่​ฝ่าย​เยฮู ให้โยนนางลงมาจากหน้าต่าง
มี​ขันที 2-3 คน​ โยนนาง​ลง​มา และ​เลือดของ​นาง​ก็​กระ​เด็น​ติด​กำ​แพง​ และ​พวก​ม้า​ก็​ย่ำ​ไป​บน​​นาง
ต่อมาเมื่อเยฮู ให้คนเอาศพนางไปฝัง ปรากฏว่าพบ​แต่​กระ​โหลก​ กับเท้าและมือของนาง เพราะสุนัข​คาบส่วนที่เหลือไปกินหมดแล้ว
ตามคำที่พระเจ้าได้ตรัสไว้ ผ่านผู้เผยพระวจนะ

1. พระเจ้าสั่งให้เอลียาห์ ให้มาเจิมตั้ง เยฮู ให้เป็นกษัตริย์ของอิสราเอล (1พกษ. 19:16)
เอลียาห์คงสั่งให้เอลีชาศิษย์ของเขาทำ
แล้วเอลีชาใช้ให้ผู้เผยพระวจนะคนหนึ่งที่อยู่ใต้การดูแลของเขา ทำแทน
จึงถือได้ว่า สิ่งที่พระเจ้าสั่งเอลียาห์นั้นสำเร็จ

สิ่งที่พระเจ้าสั่งให้เราทำ จึงใช้ทุกวิถีทางที่ชอบธรรม เพื่อทำให้มันเกิดขึ้นให้ได้

2. โยรัมถูกฆ่าตาย ตรงที่ดินของนาโบท พอดี
จึงทำให้ศพถูกโยนทิ้งไว้ที่นั่น ตามคำที่พระเจ้าได้ตรัสไว้

สิ่งที่พระเจ้าตรัสไว้จะเกิดขึ้นเป็นจริงเสมอ

3. เยเซเบล ที่ทำสิ่งชั่วร้ายต่อคนของพระเจ้า ได้สั่งฆ่าบรรดาผู้เผยพระวจนะของพระเจ้า
เป็นไปได้ว่า การข่มเหงคนของพระเจ้า โดยจับมาเลื่อยๆเป็นท่อนๆ (ฮบ. 11:37) อาจจะเกิดขึ้นในสมัยของนางก็เป็นได้

สิ่งชั่วร้ายที่นางทำต่อ