ภาพรวม
- เอลีชา ทำการอัศจรรย์ให้หัวขวานเหล็กลอยน้ำได้ , ให้ทหารของกองทัพซีเรียตาบอดไป แต่เมื่อพระราชาซีเรียมาล้อมกรุงสะมาเรียจนเกิดกันดารอาหารอย่างหนัก โยรัมกลับโกรธเอลีชาแล้วคิดจะฆ่าเสีย
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
2 พงศ์กษัตริย์ บทที่ 6 นอกจากเอลีชาจะทำการอัศจรรย์ รักษาโรคเรื้อนของนาอามานแม่ทัพแห่งซีเรีย โดยให้เขาไปจุ่มตัวในแม่น้ำจอร์แดน 7 ครั้ง แล้ว
ยังมีการอัศจรรย์อื่นๆอีกดังนี้
ครั้งหนึ่งพวกผู้เผยพระวจนะต้องการไปที่แม่น้ำจอร์แดน เพื่อจะตัดไม้มาสร้างที่พักอาศัย
พวกเขาได้เชิญเอลีชาไปด้วย
ขณะที่กำลังตัดต้นไม้ คนหนึ่งทำหัวขวานที่ยืมคนอื่นมา ตกลงไปในน้ำ
แล้วเอลีชาก็ตัดไม้อันหนึ่ง ทิ้งลงไปที่ที่หัวขวานตกลงไปนั้น
แล้วขวานเหล็กนั้นลอยขึ้นมา
ต่อมาพระราชาแห่งซีเรียรบกับอิสราเอล ไม่ว่าพระราชาซีเรียจะแอบตั้งค่ายดักไว้ที่ใด
เอลีชาก็จะส่งข่าวไปบอก โยรัม พระราชาแห่งอิสราเอล ให้หลีกเลี่ยงไปได้ทุกครั้ง
เมื่อพระราชาแห่งซีเรีย ทราบเรื่อง จึงทรงส่งม้า รถรบ และกองทัพใหญ่ไปที่โดธาน เมืองที่เอลีชา อยู่
และล้อมเมืองนั้นไว้ ในเวลากลางคืน
พอเช้าตรู่ผู้รับใช้ของคนของเอลีชา เห็นกองทัพพร้อมกับม้าและรถรบก็ล้อมเมืองไว้
จึงบอกเอลีชา ว่า “แย่แล้ว เราจะทำอย่างไรดี?”
เอลีชาตอบว่า “อย่ากลัวเลย เพราะฝ่ายเรามีมากกว่าฝ่ายเขา”
แล้วเอลีชาก็อธิษฐาน ให้พระเจ้าเปิดตาของผู้รับใช้คนนั้น
เขาก็มองและเห็นภูเขาเต็มไปด้วยม้า และรถรบเพลิงรอบเอลีชา
และเมื่อคนซีเรียลงมารบกับเอลีชา เอลีชาก็อธิษฐาน แล้วพวกเขาก็ตาบอดไป
เอลีชาจึงบอกพวกเขาเดินตามมา
และเอลีชาก็พาพวกเขาไปกรุงสะมาเรีย
แล้วเอลีชาก็อธิษฐาน แล้วพวกเขาก็เห็นว่าตนกำลังอยู่กลางกรุงสะมาเรีย
โยรัมจึงตรัสแก่เอลีชาว่า
“บิดาของเรา จะให้เราฆ่าเขาเสียหรือ?”
แต่เอลีชาบอกให้จัดงานเลี้ยงใหญ่ให้พวกเขา แล้วปล่อยเขาไปเสีย
เมื่อโยรัมทำตามและพวกซีเรียไม่ได้มาปล้นในแผ่นดินอิสราเอลอีกเลย
แต่ต่อมาภายหลัง เบนฮาดัดพระราชาแห่งซีเรีย ได้ยกทัพมาล้อมกรุงสะมาเรียไว้
จนเกิดการกันดารอาหารอย่างหนักในสะมาเรีย
มีผู้หญิงคนหนึ่งร้องขอความช่วยเหลือ จากโยรัม
โยรัม ตรัสว่า “ถ้าพระเจ้าไม่ทรงช่วยเจ้า เราจะเอาความช่วยเหลือจากที่ไหนมาให้เจ้า?”
นางทูล ว่า
เมื่อวานนางได้ตกลงกับผู้หญิงคนหนึ่งให้เอาลูกมาต้มกินกัน เมื่อวานนางจึงต้มลูกของนาง
แต่พอวันนี้หญิงคนนั้นก็เอาลูกของตนไปซ่อนเสีย
เมื่อโยรัมได้ยินถ้อยคำของหญิงนั้น ก็ฉีกฉลองพระองค์ และตรัสว่า
“วันนี้เอลีชาจะต้องตายแน่นอน”
แต่เอลีชานั่งอยู่ในบ้านของตน กับพวกผู้ใหญ่
เอลีชาก็พูดกับพวกผู้ใหญ่ว่า
โยรัม ฆาตกรคนนี้ กำลังใช้คนมาเอาศีรษะของเอลีชา ดังนั้นให้ปิดประตู และยึดประตูให้แน่น
แล้วโยรัมก็มาและตรัสว่า
“เหตุร้ายนี้มาจากพระเจ้า ข้าพเจ้าจะรอคอยพระเจ้าอีกทำไม?”
1. พวกผู้เผยพระวจนะที่ไปตัดต้นไม้นั้น ปรารถนาให้เอลีชาไปด้วยกับเขา
และเพราะความปรารถนานั้น พวกเขาจึงพ้นจากปัญหาที่เผชิญ
วันนี้ พระเจ้าทรงสถิตกับเราในทุกที่ที่เราไป
ดังนั้นเมื่อเผชิญปัญหา อย่ารอช้า รีบนำเรื่องราวมาทูลต่อพระองค์เถิด
2. ทหารที่พระราขาซีเรียส่งมามากมายนั้น ยังน้อยกว่าเหล่าทูตสวรรค์ที่พระเจ้าเตรียมไว้ปกป้องคนของพระองค์
ถ้าสู้กันจริงๆทหารเหล่านั้นคงต้องตายทั้งหมด
แต่ยังไม่ต้องให้กับทูตสวรรค์ลงมือเลย แค่เอลีชาอธิษฐานทหารเหล่านั้นก็พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงแล้ว
พระเจ้าทรงเตรียมความช่วยเหลือและการปกป้องเรา ในสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญนี้
อย่างมากมายเหลือเฟือเกินพอ ที่จะช่วยเราให้ผ่านพ้นไปได้อย่างมีชัยชนะ
โดยคำอธิษฐาน พระเจ้าทรงเปิดเผยให้คนรับใช้ของเอลีชา ตาสว่างขึ้นจนรู้ความจริงฉันใด
โดยคำอธิษฐาน พระเจ้าก็จะทรงเปิดเผยให้เรารู้ความจริงแห่งการปกป้องของพระเจ้า ที่รายล้อมปกป้องเราไว้อย่างเหลือล้นเช่นกัน
3. ในยามที่เอลีชา พาทหารซีเรียมามอบแก่โยรัม โยรัมพูดกับเอลีชา ว่า “บิดาของข้าพเจ้า”
ต่อมาอีกไม่นาน เมื่อเอลีชา ไม่ได้อธิษฐานช่วยโยรัม โยรัมคนเดียวกันนี้ก็พูดว่า “วันนี้เอลีชา ต้องตายแน่นอน”
คำยกย่องชมเชยจากมนุษย์ ช่างว่างเปล่าและไร้ค่า
วันนี้เขาชมเรา พรุ่งนี้เขาอาจจะด่าเราก็ได้
อย่าเอาชีวิตของตน ไปผูกไว้กับคำชมหรือการยอมรับของมนุษย์ อันแสนโลเล
4. สำหรับโยรัม เขารู้ดีว่า ถ้าพระเจ้าไม่ช่วย ก็ไม่มีใครช่วยได้
แต่เขาเองก็ไม่ยอมกลับใจ หันกลับมาหาพระเจ้า
เขารู้อยู่แก่ใจว่า ที่เหตุร้ายเกิดขึ้นนี้เกิดมาจากเขาละทิ้งพระเจ้า
แต่แทนที่เขาจะถ่อมใจลง แต่กลับตัดสินใจตรงกันข้าม คือไม่รอพระเจ้าแล้ว
และยังโทษคนของพระเจ้าอย่างเอลีชาอีกด้วย ทั้งที่เป็นความผิดของตนเอง
เมื่อเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นในชีวิตของเรา
อย่าให้เรากล่าวโทษคนอื่น มองหาคนผิด
แต่ควรจะเริ่มต้นด้วยการสำรวจดูตนเองว่า
มีสิ่งใดที่ต้องกลับใจเสียใหม่หรือไม่?
คำคม
“ การปกป้องของพระเจ้าเหนือชีวิตของเรา มีมากกว่าที่เรารับรู้มากมายนัก ”