และชายผู้นั้นกล่าวกับข้าพเจ้าว่า
“บุตรมนุษย์เอ๋ย
จงมองดูด้วยตาเจ้าเอง และจงฟังด้วยหูของเจ้า
และจงเอาใจใส่ทุกสิ่งที่เราจะสำแดงแก่เจ้า เพราะว่าที่เรานำเจ้ามาที่นี่ก็เพื่อจะสำแดงแก่เจ้า
จงประกาศทุกสิ่งที่เจ้าเห็นนั้นแก่พงศ์พันธุ์อิสราเอล”
อสค. 40:4
แนวคิด :
– 25 ปีหลังจาก เอเสเอียคถูกกวาดต้อนมาเป็นเชลยในกรุงบาบิโลน
ขณะนั้นพระวิหารได้ถูกทำลายและทิ้งล้าง มาเป็นเวลากว่า 14 ปีแล้ว
(อสค. 40:1)
พระเจ้าได้สำแดงนิมิตแก่เอเสเคียล
นำเขาโดยนิมิตกลับไปยังแผ่นดินอิสราเอล และได้เห็นนิมิตพระนิเวศน์หลังใหม่
และที่ได้ทรงสำแดงรายละเอียดเกี่ยวกับพระนิเวศน์นั้นมากมาย ในบทที่ 40-47 –
ในข้อ 40 นี้ พระเจ้าบอกให้เอเสเคียลรู้ว่า
ที่พระเจ้าทรงนำเขาโดยนิมิต ยังสถานที่นี้
เพื่อให้เขาประกาศสิ่งที่ได้เห็นแก่ประชากรของพระเจ้า ดังนั้น เขาต้อง มองดูด้วยตา
, ฟังด้วยหู และ เอาใจใส่ทุกสิ่งที่ได้พบเจอ
การประยุกต์ใช้ :
– วันนี้ ที่พระเจ้าทรงนำเราให้พบ เจอ และเผชิญกับเหตุการณ์ในขณะนี้
เราควรสังเกตให้ดี ตั้งใจฟังสิ่งที่ได้ยิน เอาใจใส่สิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามา
ที่พบเจอในวันนี้ ไม่ใช่บังเอิญแต่พระเจ้าจงใจนำเข้ามาหรืออนุญาตให้มันเกิดขึ้น
เพื่อให้เราได้เห็น เพื่อให้เราได้มีประสบการณ์กับพระเจ้า
> ในความรักของพระองค์
> ในฤทธานุภาพของพระองค์
> ในความสัตย์ซื่อของพระองค์
> ในการจัดเตรียมของพระองค์
> ในพระเมตตาและพระคุณของพระองค์
ฯลฯ
เมื่อเราเอาใจใส่ ตั้งใจสั่งเกต เราจะเห็นได้
เมื่อเราเห็นแล้ว จงประกาศออกไป โดยการเป็นพยาน โดยการขอบคุณพระเจ้า
ให้คนรอบข้างได้รับรู้ถึงความแสนดีของพระเยซูในชีวิตของเรา
วันนี้ ไม่ใช่บังเอิญที่เรามาอยู่ที่นี่ แต่
เพราะพระเจ้ามีแผนการพิเศษสำหรับเรา เพื่อให้เราถวายเกียรติแด่พระเจ้า ณ
ที่แห่งนี้
“Bloom where you are planted” Saint Francis de Sales
“จงเบ่งบานในที่ที่คุณถูกปลูกไว้”
วันนี้ ไม่ว่าพระเจ้านำคุณมาปลูกไว้ที่ใดก็ตาม
จงเบ่งบานถวายเกียรติแด่พระเจ้าที่นั่น
แม้ที่นั่นจะเป็นกองขยะ
ก็จงเป็นดอกไม้ที่เบ่งบานอย่างสวยงามอย่างที่สุดท่ามกลางกองขยะเหล่านั้น