ภาพรวม
- บิลดัด ฟังโยบพูดแล้วเข้าใจผิด จึงตำหนิโยบและยกความจริงมากมายมาสนับสนุนคำตำหนิของเขา
# สรุป
@ สื่งที่เรียนรู้
โยบ บทที่ 8 เมื่อโยบทักท้วงพระเจ้าว่า เขาไม่ได้ทำบาป และเขาเองก็เล็กน้อยเหลือเกินเมื่อเทียบกับพระองค์ พระองค์ไม่น่าจะมาใส่ใจกับเขาเลย ปล่อยให้เขาตายไปเร็วๆน่าจะดีกว่า
แล้วบิลดัดชาวชูอาห์ จึงตอบว่า
โยบจะพูดต่อต้านพระเจ้าอีกนานแค่ไหน?
พระเจ้าไม่ทรงบิดเบือนความยุติธรรม หรือ ความชอบธรรม
ถ้าใครทำบาป พระองค์ก็ทรงมอบพวกเขาไว้ในอำนาจการละเมิดของเขา
ถ้าโยบแสวงหาพระเจ้า วิงวอนต่อพระองค์ และดำเนินขีวิตบริสุทธิ์ เที่ยงธรรม
พระเจ้าจะทรงปกป้องโยบไว้
แม้เบื้องต้นของโยบจะเล็กน้อย
แต่ต่อไปเบื้องปลาย จะใหญ่โตอย่างยิ่ง
ชีวิตเราสั้นเหมือนวันวาน วันคืนของเราบนโลกก็เหมือนเงา
ต้นกก และต้นอ้อ จะเหี่ยวไปอย่างรวดเร็ว เมื่อขาดน้ำ ฉันใด
ทางของทุกคนที่ลืมพระเจ้าก็เป็นฉันนั้น
สิ่งที่เขาไว้ใจจะหักสะบั้น
และสิ่งที่เขาวางใจจะบอบบางอย่างใยแมงมุม
คนอธรรมที่ดูเหมือนเจริญขึ้น จะถูกทำลาย
แล้วคนก็จะไม่จดจำเขาอีก
และผู้อื่นจะมาแทนที่เขา
พระเจ้าจะไม่ทรงทอดทิ้งคนดีพร้อม
เขาจะเต็มไปด้วยการหัวเราะ และการโห่ร้องยินดี
คนที่เกลียดชังเขาจะอับอาย และพินาศไป
1. ในบทที่ 4 และ 5 เอลีฟัส พูดความจริงหลายประการแต่สรุปผิด โดยสรุปว่าโยบคงทำบาปแน่
ในบททนี้ บิลดัด ไม่ฟังให้ดีว่าโยบพูดอะไร จึงเข้าใจผิดว่า
โยบพูดต่อต้านพระเจ้า ทั้งที่โยบแค่พูดตัดพ้อเพราะความทุกข์
แล้วบิลดัดก็ยกความจริงหลายประการมาสนับสนุนคำตำหนิของตน
เอลีฟัส สรุปผิดจึงตำหนิโยบ
บิลดัด ไม่ฟังให้ดีจึงตำหนิโยบ
ข้อ3 บิลดัดตำหนิโยบว่า ไม่ควรบอกว่าพระเจ้าไม่ยุติธรรม (ทั้งที่ในบทที่ 6 และ 7 โยบไม่ได้พูดเช่นนั้นเลย )
ข้อ9 บิลดัดเตือนให้โยบรับรู้เสียทีว่า โลกนี้สั้นนัก (ทั้งที่โยบเพิ่งพูดเรื่องนี้ไปในโยบ 7:7)
ดังนั้นเห็นได้ชัดว่า คำตำหนิซ้ำเติมของบิลดัด เกิดจากการสนใจแต่เพียงว่า
ตนเองอยากพูดอะไร โดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายเขาได้พูดอะไร
การที่เราจะมีสิทธิเตือนสติผู้อื่นนั้น เราจำเป็นต้องตั้งใจ เพื่อเข้าใจตัวเขาเสียก่อน
2. ถึงแม้ว่าบิลดัด จะพูดด้วยท่าทีที่ไม่ถูกต้อง แต่ก็พูดความจริงในฝ่ายวิญญาณหลายประการดังนี้
– พระเจ้ายุติธรรมเสมอ
– คนที่ปล่อยตัวในการบาป จะตกอยู่ใต้อำนาจของบาปมากขึ้นไปทุกที
– คนที่แสวงหาและพึ่งพาพระเจ้า จะได้รับการปกป้องจากพระเจ้า
– การเริ่มต้นทำในสิ่งเล็กๆน้อยๆอย่างสัตย์ซื่อ ในที่สุดจะกลายเป็นสิ่งใหญ่โตอย่างยิ่ง
– ชีวิตเราสั้นนัก และพอผ่านไปก็ไม่เหลืออะไรเลย เป็นเหมือนเงา
– คนที่ละทิ้งพระเจ้า ไปวางใจสิ่งอื่น จะพบว่าสิ่งนั้นจะหักสะบั้น
เพราะสิ่งเหล่านั้นบอบบางเหมือนอย่างใยแมงมุม
– คนอธรรมเจริญได้ไม่นาน ในที่สุดสิ่งที่เขาทำมาจะตกเป็นของคนอื่น
– พระเจ้าจะไม่ทรงทอดทิ้งคนชอบธรรม
3. บิลดัด พูดความจริงว่า พระเจ้าไม่ทอดทิ้งคนชอบธรรม
เพียงแต่เขา มองผิดเนื่องจากมองด้วยมุมมองของโลกนี้
เขาคิดว่า การที่โยบเกิดภัยพิบัติและความทุกข์ยากมากมายนี้
เป็นการที่พระเจ้าทอดทิ้งโยบ
ซึ่งความจริงแล้ว ณ วินาทีนั้น พระเจ้าก็ยังไม่เคยละสายตาของพระองค์จากโยบเลย
เหตุการณ์ที่กำลังเกิดกับโยบนี้ ไม่ใช่การทอดทิ้ง
แต่เป็นกระบวนการนำพระพรยิ่งใหญ่มาสู่โยบที่พระองค์ทรงโปรดปราน
หากเราจะเข้าใจพระคำของพระเจ้า ซึ่งเป็นเรื่องฝ่ายวิญญาณ
เราไม่สามารถใช้มุมมองของโลก หรือมาตรฐานของโลกมาวัดได้
มิฉะนั้นเราจะเข้าใจผิด
เราต้องใช้มาตรฐานฝ่ายวิญญาณ มุมมองที่พระเจ้าทรงเปิดเผยแก่เราผ่านพระคำของพระองค์
จึงจะเข้าใจได้อย่างถูกต้อง
คำคม
“ เริ่มต้นแม้เล็กน้อย แต่ถ้าทำต่อไปอย่างสัตย์ซื่อ จะกลายเป็นสิ่งใหญ่โตยิ่งนัก ”